โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค

“ดร.ศันสนะ” ลุย เขตธนบุรี-คลองสาน พร้อมพัฒนายกระดับ ศักยภาพพื้นที่ เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดึงรายได้เข้าสู่ชุมชนสร้างศก.ประเทศ

,

“ดร.ศันสนะ” ลุย เขตธนบุรี-คลองสาน พร้อมพัฒนายกระดับ ศักยภาพพื้นที่
เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดึงรายได้เข้าสู่ชุมชนสร้างศก.ประเทศ

ดร.ศันสนะ สุริยะโยธิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยว ว่า ภายหลังจากจีนเปิดประเทศ และประเทศไทยคือจุดหมายปลายทางหลักที่นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากให้ความสนใจที่จะเดินทางมา ซึ่งถือว่ามีความสำคัญกับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทย ที่จะมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ประเทศ และยังจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ

ดร.ศันสนะ กล่าวต่อว่า ตนมองว่าการที่นักท่องเที่ยวจีนและอีกหลายประเทศเริ่มกลับเข้ามาในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีกับการท่องเที่ยวของไทย ที่จะทำให้เกิดเม็ดเงินไหลเข้าสู่ประเทศจำนวนมาก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่การท่องเที่ยวไทยต้องหยุดชะงักไปเพราะสถานการณ์โควิดมาหลายปี

“เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ ผมจึงมีนโยบายเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตธนบุรีและคลองสาน รวมถึงพื้นที่ทั่วทุกเขตในกรุงเทพฯให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก เพื่อสร้างอาชีพ และสามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องในพื้นที่ รวมทั้งยังเป็นการผลักดัน softpower ด้านการท่องเที่ยวและทุนทางวัฒนธรรม ให้เกิดเป็นของดีฝั่งธนฯ โดยได้มีสร้างองค์ความรู้ภาษาจีน การจัดอบรมภาษาจีน การทำป้ายแหล่งท่องเที่ยวภาษาจีน รวมทั้งจัดอาสาสมัครไกด์ภาษาจีน เพื่อนำเที่ยวจุดต่างๆ ที่น่าสนใจทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะฝั่งธนบุรีที่เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ยาวนาน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2566

“ตรีนุช” มั่นใจจังหวัดสระแก้วสร้างนวัตกรรมการศึกษาตอบโจทย์พื้นที่ พร้อมดึงทุกภาคส่วนวางระบบศึกษาสอดรับความต้องการในพื้นที่

,

“ตรีนุช” มั่นใจจังหวัดสระแก้วสร้างนวัตกรรมการศึกษาตอบโจทย์พื้นที่ พร้อมดึงทุกภาคส่วนวางระบบศึกษาสอดรับความต้องการในพื้นที่

วันนี้ (23 ก.พ. 66) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวเปิดประชุม “การขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสระแก้ว สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ว่า จังหวัดสระแก้วเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ที่จะต้องการปฏิรูปการบริหารการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ให้คนไทยได้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของพื้นที่ ตั้งเป้าให้พื้นที่หรือจังหวัดจัดระบบการศึกษาด้วยตนเอง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพื้นที่ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และมุ่งหวังให้โรงเรียนพัฒนาตนเอง ยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมทั้ง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม เพื่อนำร่องการกระจายอำนาจ และ ให้อิสระแก่หน่วยงานทางการศึกษา เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพการศึกษา อย่างมีประสิทธิภาพ

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า จังหวัดสระแก้วได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดให้เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาจังหวัดสระแก้ว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน มีสถานศึกษาจากทุกสังกัด จำนวน 73 แห่ง หรือ เท่ากับ 1 ใน 4 ของสถานศึกษาทั้งหมดในจังหวัดสระแก้ว สมัครเข้าเป็นสถานศึกษานำร่อง ซึ่งตนขอชื่นชมสถานศึกษาทุกแห่งที่สมัครเข้าเป็นสถานศึกษานำร่องนับเป็นความท้าทายต่อตัวเอง และเป็นความกล้าหาญ ที่พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาให้เกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัด ทีมงานการศึกษาในพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้ริเริ่มสิ่งดีๆ ด้านการศึกษาให้แก่จังหวัดมากมาย มีการขับเคลื่อนการศึกษา เช่น โครงการพาน้องกลับมาเรียน รวมถึงการดำเนินจัดการศึกษาช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างโดดเด่น และการที่จังหวัดสระแก้วได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ก็ถือเป็นโอกาสทองของจังหวัดที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ให้ทุกภาคส่วนสามารถมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและยกระดับคุณภาพการศึกษาจังหวัด

“อย่างไรก็ตามช่วงเปลี่ยนผ่านสู่การกระจายอำนาจทางการศึกษา ให้อิสระกับหน่วยงานในพื้นที่ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอาจต้องพบเจอปัญหา อุปสรรคการดำเนินงาน และอาจมีข้อคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายมองเห็นถึงเป้าหมายทางการศึกษาร่วมกัน คือประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ มีการเปิดกว้างทางความคิด มีความเป็นผู้นำ สร้างเอกภาพ เป็นทีมเวิร์ค เพื่อดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย และขอฝากให้คณะกรรมการขับเคลื่อนของจังหวัดสระแก้ว ใช้ประสบการณ์ที่มีร่วมกับประสบการณ์ในการทำงานของพื้นที่นวัตกรรมรุ่นแรกของทีมส่วนกลาง ทำให้พื้นที่นวัตกรรมการศึกษาของสระแก้วสามารถสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของพื้นที่และขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างก้าวกระโดด และความสำเร็จในการยกระดับคุณภาพศึกษาของจังหวัดสระแก้ว จะนำมาขยายผลเพื่อเป็นต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศได้ต่อไป” นางสาวตรีนุช กล่าว.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2566

ส.ส.ชลบุรี พปชร. ร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เร่งสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ตำบลหนองปรือ

,

ส.ส.ชลบุรี พปชร. ร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เร่งสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ตำบลหนองปรือ

นายรณเทพ อนุวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเนื่องมาจากปี 2543 พื้นที่ป่าไม้ในเขตพื้นที่ของตำบลสระสี่เหลี่ยม หัวถนน หนองปรือ หนองเหียง นาวังหิน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี และที่ดินในตำบลท่าบุญมี อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ของถนนทางหลวงหมายเลข 331 ชลบุรีไปจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นพื้นที่ปฏิรูปทั้งผืน ก็คือสปก 4-01 เนื่องจากทุกตำบลนั้นเรียงชิดติดกัน เป็นระยะทางที่ยาว และก็พร้อมที่จะออกเอกสารสิทธิ์ให้กับผู้เข้าครอบครองทำประโยชน์

นายรณเทพ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการปฏิรูปในเวลานั้นเข้าใจผิดคิดว่า พื้นที่ของหมู่ที่ 8 ตำบลหนองปรือ อำเภอพนัสนิคม เป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตของตำบลหนองเหียง จึงไม่ได้เดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ ทำให้ที่ดินที่ตำบลหนองปรือ นั้นเป็นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินสำรวจออกเอกสารสิทธิ์ เนื่องจากว่าสภาพป่านั้นได้หมดสิ้นไปแล้ว

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #รณเทพอนุวัฒน์
Twitter :
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566

“สส. อรรถกร” เสนอกรมชลประทาน เร่งอนุมัติงบซ่อมสายยางคลองท่าลาด หลังมีอายุการใช้งานหนักกว่า 27 ปี

,

“สส. อรรถกร” เสนอกรมชลประทาน เร่งอนุมัติงบซ่อมสายยางคลองท่าลาด หลังมีอายุการใช้งานหนักกว่า 27 ปี

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาสายยางระเบิดที่คลองท่าลาด ในอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะมีอายุการใช้งานหนักกว่า 27 ปีแล้ว โดยตนทราบมาว่า สายยางปกติจะมีระยะอายุการใช้งานประมาณ 10 ปีเท่านั้น

“เบื้องต้นผมทราบมาว่า เจ้าหน้าที่ของชลประทาน ผมขอไม่เอ่ยนาม ซึ่งวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น คือนำถุงทรายมาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ซึ่งมันไม่เพียงพอ ผมขอฝากไปยังกรมชลประทาน ขอให้อนุมัติเร่งด่วนงบเหลือจ่ายในการซ่อมสายยางที่คลองท่าลาดด้วย”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อรรถกรศิริลัทธยากร
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566

“สส.อรรถกร” แนะหาแหล่งต้นทุนเพิ่ม เดินหน้าแก้ไขปัญหาแล้งอย่างยั่งยืน

,

“สส.อรรถกร” แนะหาแหล่งต้นทุนเพิ่ม เดินหน้าแก้ไขปัญหาแล้งอย่างยั่งยืน

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งในประเทศไทย เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา พอถึงหน้าน้ำแล้งก็จะรณรงค์ให้ใช้น้ำน้อยๆ แต่นั่นคือการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จะต้องหาแหล่งต้นทุนน้ำเพิ่มเติม ถึงจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างยั่งยืน

นายอรรถกร กล่าวถึงปัญหาในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีความต้องการการใช้น้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการอุปโภคบริโภค ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องใช้น้ำจืดไล่น้ำเค็ม ใช้น้ำเค็ม ไล่น้ำจืด หรือว่าปัญหาประปาเป็นสีส้ม สีน้ำตาล ตนจึงขอเสนอคำว่า เราควรหาแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่มเติม เพื่อรองรับปริมาณการใช้น้ำในกลุ่มจังหวัดฉะเชิงเทรา

“อีกหนึ่งวิธี ก็คือ การผลักดันโครงการผลักน้ำจากอ่างเก็บน้ำพระสะทึง จังหวัดสระแก้ว มายังอ่างเก็บน้ำคลอง 4 ยักษ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจังหวัดสระแก้วมีปริมาณน้ำฝนตก มากกว่าปริมาณความจุของอ่างเก็บน้ำ ดังนั้นถ้าเราสามารถวางท่อ และนำน้ำจากที่พักสะทึงสระแก้วมาเก็บไว้ที่ 4 ยักษ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จะช่วยพี่น้องประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อรรถกรศิริลัทธยากร
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566

ได้ใจชาวนครฯ !!! “ศ.ดร.นฤมล”พาผู้สมัคร ส.ส.ลุยรับฟังปัญหา”ขยะ-ประมง” รับปากพปชร.ไม่ทิ้งชาวประมง “เร่งแก้น้ำเน่าจากขยะล้นเมืองทันที ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้ง

,

ได้ใจชาวนครฯ !!! “ศ.ดร.นฤมล”พาผู้สมัคร ส.ส.ลุยรับฟังปัญหา”ขยะ-ประมง”
รับปากพปชร.ไม่ทิ้งชาวประมง “เร่งแก้น้ำเน่าจากขยะล้นเมืองทันที ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้ง

วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัด นครศรีธรรมราช เพื่อพบปะประชาชน และผู้นำชุมชน โดยมีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช ของพรรคพลังประชารัฐ เช่น นางสุภาพ ขุนศรี ,นายสุธรรม จริตงาม ,นายคมเดช มัชฌิมวงศ์ ,นายสุนทร รักษ์รงค์ เรือเอก ดร.นพ.พิชาญศักดิ์ บุญมาศ และนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ โดย ศ.ดร.นฤมล ได้ร่วมประชุมว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อรับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะ ในด้านต่างๆ ที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ นำมาสู่การวางแผน และกำหนดนโยบายให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

ศ.ดร.นฤมล ยังได้พบปะประชาชนที่มารอต้อนรับจำนวนมาก และได้กล่าวว่า วันนี้ได้มีการหารือกับว่าที่ผู้สมัครทุกเขตของจังหวัดนครศรีธรรมราช และได้ข้อสรุปว่า เราจะทำงานกันเป็นทีม แม้จะอยู่กันคนละเขตแต่เรามีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของประชาชนเหมือนกัน ในการขับเคลื่อนครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐก็ได้กำลังสำคัญอย่าง นางฮูวัยดีย๊ะที่จะเข้ามาผลักดันในเรื่องของสิทธิสตรีชาวมุสลิมที่หลายพรรคยังไม่มีนโยบายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ถ้าตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐทั้งหมดที่นั่งอยู่ที่นี่ ได้รับโอกาสจากพี่น้องให้เข้าไปทำหน้าที่แทน พรรคพลังประชารัฐจะดำเนินการเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐเป็นจำนวนเงิน 700 บาทต่อเดือนทันที ตามนโยบายแรกที่เราได้ประกาศเอาไว้ ซึ่งนโยบายดังกล่าว เราได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนว่า ในสถานการณ์ภาวะเงินเฟ้อ จำนวนเงิน 200 – 300 บาทนั้น ไม่เพียงพอต่อการจะดำรงชีพเบื้องต้นแล้ว ทางพรรคจึงออกมาเป็นสวัสดิการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือประชาชน

นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐยังมีนโยบายอีกหลายอย่างที่จะเข้ามาช่วยเหลือประชาชน การลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็ได้ทราบปัญหาของชาวใต้ที่สำคัญ ก็คือ เรื่องการบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วมในทุกๆปี ทางพรรค จะนำเรื่องนี้บรรจุเข้าไปเป็นนโยบาย รวมไปถึงปัญหาเรื่องการประมง ที่ในขณะนี้ผู้บริหารของพรรคพลังประชารัฐได้รับทราบแล้ว และกำลังนำเข้าบรรจุในนโยบายที่จะแก้ไขกฎหมาย และเร่งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ด้านนางฮูวัยดีย๊ะ กล่าวว่า จากอดีตตนเคยเป็น ส.ส.เขต 1 ที่จังหวัดนี้ กลับมาครั้งนี้เราก็จะมาร่วมจับมือกัน เพื่อสร้างอนาคตให้กับลูกหลานของคนใต้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมไปถึงสิทธิและสวัสดิการต่าง ๆ ของสตรี นครศรีธรรมราชของเรา มีผู้หญิงเข้าไปทำงานในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็น นายก อบต.,อบจ.ส.ส.หรือ รัฐมนตรี เรามีมาหมดแล้วอนี่คือมรดกของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ส่งต่อกันมา

“พรรคพลังประชารัฐ ได้ให้โอกาสตนเข้าไปผลักดันนโยบายเรื่องสิทธิสตรี เพราะปัจจุบันจำนวนเพศหญิงมีมาก และก็มีปัญหาตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการภาระดูแลครอบครัว หรือการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เช่นกรณีที่ผู้หญิงพี่ต้องดูแลลูกอยู่เพียงคนเดียว รัฐจะเข้าไปดูแลท่านทันที หรือผู้หญิงที่มีภาระในครอบครัวไม่สามารถออกไปทำมาหากินหาเงินเข้าบ้านได้พรรคการเมืองในอนาคตก็จะต้องเข้ามาดูแล รวมไปถึงปัญหายาเสพติดในสังคม รัฐก็จะต้องเข้าไปดูแลในรูปแบบของการอำนวยความสะดวก และการแก้ไขปัญหาของสังคม สิ่งเหล่านี้คือ ภาพตัวอย่างที่ตนจะเข้าไปผลักดันให้เป็นโครงการต่างๆ ที่จะมาแก้ปัญหาในชุมชน ผ่านทางแม่บ้าน ผ่านทางกลุ่มผู้หญิง นี่คือสิ่งที่เหตุผลที่ตนได้มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ”

ด้านนางสุภาพ กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสเสนอเรื่องนโยบายกับทางพรรคแทนชาว
นครฯทุกคน และมั่นใจว่า นโยบายทุกข้อที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้กับประชาชน จะทำทันทีที่พรรคได้เข้าไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่บริหารประเทศ อย่างเช่นปัญหาของอาชีพประมงพื้นบ้าน วันนี้ตนก็ได้ปรึกษากับ ศ.ดร.นฤมล ถึงปัญหานี้ร่วมกัน และเราจะหาทางออกในเรื่องนี้กันอย่างไร ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดี เพราะพรรคพลังประชารัฐให้ความสำคัญกับชาวประมงทุกคนในประเทศไทย และจะนำปัญหานี้เข้าบรรจุเป็นนโยบายหลักของพรรคด้วย

ทั้งนี้ช่วงหนึ่งทางพรรคพลังประชารัฐได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยส่วนใหญ่ขอให้แก้ปัญหาการนำขยะจากพื้นที่ใกล้เคียงมาทิ้งไว้ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำในแม่น้ำ ลำคลอง เน่าเสีย ปลาตาย ไม่สามารถจับปลาขายได้ รวมถึง ปัญหาชาวประมงที่ถูกบังคับด้วยกรอบกฎหมายเข้มงวด ไม่สอดคล้องกับบริบทความเป็นจริง และวิถีชีวิตของพี่น้องชาวประมง

ศ.ดร.นฤมล กล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า ในเรื่องขยะที่ทำให้น้ำเน่าเสีย สามารถดำเนินการได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องรอถึงการเลือกตั้ง โดยจะผลักดันปัญหานี้ผ่านไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบให้ดำเนินการแก้ไขโดยด่วน แต่ในส่วนของปัญหาชาวประมง ทางพรรคพลังประชารัฐได้ติดตามมาโดยตลอด ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เรื่องหลักคือปัญหาด้านกฎหมาย สิ่งที่จะทำได้ก็ต้องแก้ไขกฎหมาย แต่ในปัจจุบันมีผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วก็จำเป็นต้องมีการเยียวยาตามมา

“การแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร ขอให้ทุกคนได้อดทนเอาไว้ก่อน วันนี้ไม่ว่าเราจะได้เข้าไปในสภา หรือไม่ได้เข้าไปเป็นรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐจะผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหานี้ให้กับชาวประมงให้ได้ ขอให้สัญญา ไม่จำเป็นว่าต้องเลือกเรา แล้วเราจะแก้ปัญหาให้ท่านเท่านั้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2566

“ดร.นฤมล” ลุยพื้นที่ทุ่งสงประมวลปัญหาประชาชน พปชร.ลั่นจ่อเปิดนโยบายแก้ปัญหาแบบยั่งยืน

,

“ดร.นฤมล” ลุยพื้นที่ทุ่งสงประมวลปัญหาประชาชน พปชร.ลั่นจ่อเปิดนโยบายแก้ปัญหาแบบยั่งยืน

วันที่ 5 กพ. 2566 น.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ศาลาประชาคม ที่เทศบาลเมืองทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อพบปะประชาชน และผู้นำชุมชน โดยมีนายสุธรรม จริตงาม ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ และนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ เพื่อรับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะ ในด้านต่างๆ ที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ นำมาสู่การวางแผน และกำหนดนโยบายให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

ศ.ดร.นฤมล ได้ร่วมประชุมแกนนำของพรรคพลังประชารัฐ เขต4 จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้กล่าวว่า ขอให้ทั้ง 800 คนที่อยู่ที่นี้ ช่วยกันเลือกพี่สุธรรม พร้อมทั้งขอให้ชวนเชิญญาติ พี่น้อง มาช่วยกันเลือก นายสุธรรมด้วย วันนี้พรรคพลังประชารัฐได้เปิดนโยบายแรกที่จะทำให้ประชาชน การเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐเป็นจำนวน 700 บาทต่อเดือน พี่น้องประชาชนจะได้สวัสดิการจากภาครัฐต้องนี้ ไปซื้อเครื่องอุปโภคและบริโภคต่าง ๆ ได้

ศ.ดร.นฤมล ยังเปิดเผยต่อว่า ภายในเดือนนี้ พรรคพลังประชารัฐก็จะมีนโยบายอื่นของพรรคแถลงตามมาอีก เช่น นโยบายในเรื่องของน้ำ พรรคได้รับเอาข้อเสนอจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกเขต ทั่วประเทศ เข้าไปบรรจุในแผนจัดทำนโยบาย เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ตรงกับความต้องการของประชาชน

“นโยบายพรรคพลังประชารัฐ ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น เรื่องของที่ดิน ที่พรรคจะเข้ามาแก้ปัญหาในที่ดินทำกินในพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ สปก.ที่ทับซ้อน หรือที่ ๆ ครอบครองอย่างไม่ถูกต้อง ที่ควรจะได้รับการจัดการ และแก้กฎหมายให้ได้รับเอกสารสิทธิได้ถูกต้อง เรื่องนี้พรรคพลังประชารัฐจะแก้ไขให้พี่น้อง ในส่วนของผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการต่าง ๆ หรือ เบี้ยผู้สูงอายุ พรรคก็จะมีนโยบายออกมาเพื่อดูแล รวมถึงพี่น้องเกษตรกร เราก็ไม่ทอดทิ้งในเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร ขอให้ติดตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐต่อไป”ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ด้านนางฮูวัยดีย๊ะ กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องชาวทุ่งสงที่ให้การต้อนรับพรรคพลังประชารัฐอย่างล้นหลาม ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ตนได้เข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ โดย ศ.ดร.นฤมล ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรค เพราะตนเห็นถึง ความสู้ของผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ ที่สามารถสู้กับผู้ชายได้อย่างเท่าเทียม และการทำงานของ ศ.ดร.นฤมล ในทุกขั้นตอนก็รับฟังทุกข้อเสนอของพวกเรา

“การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น จะมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น วันนี้ถือเป็นโอกาสที่ชาวทุ่งสงจะได้ตัดสินใจเลือกการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวท่านเอง พื้นที่ อ.ทุ่งสง จะพัฒนาได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ มือของชาวทุ่งสงเอง ว่าจะเลือกผู้แทนที่เราสามารถพึ่งพาได้ เข้าไปช่วยแก้ปัญหาเข้าไปเป็นปากเป็นเสียง เข้าไปผลักดันและสนับสนุนให้รัฐบาลมาดูแลชาวทุ่งสงหรือไม่ นายสุธรรม ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีพร้อมทั้งความรูั ความสามารถ รูปลักษณ์ที่ดี ได้เข้ามาเสนอตัวทำงานแทนพี่น้องแล้ว สุดท้ายก็ต้องขอโอกาสจากพี่น้องด้วย”นางฮูวัยดีย๊ะ กล่าว

ด้านนายสุธรรม กล่าวว่า ตนขอขอบคุณ ศ.ดร.นฤมล ที่มาเป็นตัวแทนผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ มาให้กำลังใจกับว่าที่ผู้สมัคร วันนี้ ตนขอรับใช้พี่น้องประชาชนชาวอำเภอทุ่งสง เพื่อทำประโยชน์สูงสุดต่อชาวทุ่งสงอย่างเต็มความสามารถ โดยตนทำงานให้กับพี่น้องชาวทุ่งสงมานาน รู้ถึงปัญหาความทุกข์ร้อนของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี และตนก็ได้นำเสนอปัญหาเหล่านี้ให้กับทางพรรคพลังประชารัฐได้ทราบ เพื่อเป็นแนวทางประกอบการร่างนโยบายพรรคฯ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาจังหวัดนครศรีธรรมราชบ้านเรา ถ้าตนได้รับโอกาสเข้าไปเป็นตัวแทนของทุกคน ตนจะนำปัญหาและความต้องการของชาวทุ่งสงเข้าไปเสนอและผลักดันให้เกิดการแก้ไขให้ได้ ตนไม่มีทางทอดทิ้งชาวทุ่งสงอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ บรรยากาศในพื้นที่ มีประชาชนมารอต้อนรับ ศ.ดร.นฤมล พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้ให้ความสนใจและสอบถามถึงนโยบายการเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐ เนื่องจากเห็นว่า จะสามารถช่วยแก้ปัญหาในสภาวะที่สินค้ามีราคาสูงขึ้นได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2566

“รมว.ชัยวุฒิ” ปราศรัยหาเสียงประจวบฯเขต 1 ประกาศพรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอีกแน่นอน พร้อมฝาก “คิงก่อนบ่าย”ผู้สมัครพรรค พปชร.เข้ามาแก้ปัญหาพื้นที่

,

“รมว.ชัยวุฒิ” ปราศรัยหาเสียงประจวบฯเขต 1 ประกาศพรรคพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอีกแน่นอน พร้อมฝาก “คิงก่อนบ่าย”ผู้สมัครพรรค พปชร.เข้ามาแก้ปัญหาพื้นที่

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำนายณภัทร ชุ่มจิตตรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นเวทีปราศรัยที่ลานกิจกรรม เมืองประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้หัวข้อก้าวข้ามความขัดแย้งถ้าจะทุกปัญหาพัฒนาทุกพื้นที่ โดยมีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ สลับขึ้นเวทีปราศัย

นายชัยวุฒิ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่าพลังประชารัฐจะเป็นรัฐบาลอีกแน่นอนเพราะว่าเป็นพรรคใหญ่ ขณะเดียวกันชูนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง นำคนเก่งเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาทุกพื้นที่ทุกจังหวัด ดังนั้นวันนี้จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ประชาชนทุกคน ขอให้เลือกคนที่พร้อมและพรรคที่พร้อมจะทำงานเพื่อคนไทยทุกคน

ด้านคิงก่อนบ่าย ขึ้นเวทีพร้อมก้มกราบเวที เพื่อแสดงถึงสำนึกแผ่นดินเกิด ก่อนที่จะขอคนประจวบฯเขต 1 ให้โอกาสตนเอง เข้ามาเป็นผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงพื้นที่ ผลักดันการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ชุมชน สร้างรายได้เกษตรกร พร้อมแก้ปัญหาราคาสัปปะรด และชูกีฬาฟุตบอลให้พัฒนา /ส่งเสริมวัวลาน เป็นกีฬาพื้นบ้าน ที่ถูกกฎหมาย เพราะจะเป็นการสนับสนุนเด็กเลี้ยงวัวให้มีรายได้ เช่นเดียวกับ ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ชน โดย ปัญหาที่กล่าวมาได้รับทราบจากการลงพื้นที่ ดังนั้น จึงนำมาเสนอ เพื่อผลักดันเป็นนโยบาย ช่วยเหลือคนประจวบฯ พร้อมยืนยันมีความตั้งใจจริง เพื่อคนประจวบฯ ดังนั้น ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในตนเอง และ ช่วยผลักดันคิงก่อนบ่าย เป็นผู้แทน และจะทำให้ จ.ประจวบ
ฯดีกว่านี้

“วันนี้กล้าแลก กับอาชีพบันเทิง เพื่อตอบแทนทุกคนที่ทำให้คิงก่อนบ่าย มีวันนี้ โดยจะกล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยน ขอเด็กรุ่นใหม่มาพัฒนาบ้านเกิด “ คิงก่อนบ่ายกล่าว

ทั้งนี้ ถือเป็นเวทีแรกในการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เขต1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์พรรคพลังประชารัฐ โดยได้มีการขึ้นรถแห่รอบเมือง และนำขบวนซาเล้ง ติดข้อความ เพิ่มเงิน เพิ่มสวัสดิการ 700 บาท ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันได้เดินหาเสียง กับพ่อค้าแม่ค้า และประชาชน บนถนนคนเดินสะพานสราญวิถี

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2566

“รมว.ชัยวุฒิ” ลงพื้นที่ประจวบฯเปิดตัว “คิงก่อนบ่าย” ชูนโยบายพปชร.เพิ่มสวัสดิการเป็น 700 บ ลดภาระปชช.

,

“รมว.ชัยวุฒิ” ลงพื้นที่ประจวบฯเปิดตัว “คิงก่อนบ่าย” ชูนโยบายพปชร.เพิ่มสวัสดิการเป็น 700 บ ลดภาระปชช.

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายนภัทร ชุมจิตตรี หรือ คิงก่อนบ่ายผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่หาเสียง เขต 1 ตัวเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์หรือฟิล์ม ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมแห่รถซาเล้งรอบ เมืองก่อนขึ้นเวทีปราศรัยในช่วงเย็นวันนี้ที่ ลานกิจกรรม เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์

นายชัยวุฒิกล่าวว่าหลังจากหลังจากเปิดตัวนายณภัทร ไปแล้ววันนี้จึงลงพื้นที่หาเสียงอย่างเป็นทางการ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รู้จักผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนายณภัทร เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่อยู่แล้ว เป็นนักแสดงเป็นคนติดดิน ช่วยเหลือประชาชน มาโดยตลอดจนเป็นที่รักของคนในพื้นที่เชื่อว่าจะ จะทำงานทางการเมืองในพรรคพลังประชารัฐประสบผลสำเร็จ

สำหรับแผนการหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แบ่งพื้นที่การหาเสียงออกเป็นแต่ละภาคอยู่แล้ว แม้ในขณะที่พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่ตรวจราชการ ก็ถือโอกาสพบปะกับประชาชนและสมาชิกพรรค สัปดาห์ละ2-3 วันอยู่แล้ว ซึ่งแผนงานทางการเมืองพลเอกประวิตร มีการประชุมคณะทำงาน ผู้สมัคร ส.ส วางแผนการหาเสียงอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้อยู่และทำงานทุกวัน ทำให้ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐมีแนวทางชัดเจนในการหาเสียง และจะทยอยเปิดนโยบายที่สำคัญออกมาเรื่อย ๆ โดยจะทำงาน ให้ประชาชนและรัฐเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศต่อไป พร้อมย้ำว่าแนวทางการหาเสียง แบ่งให้หัวหน้าดูแต่ละภาค จัดกิจกรรมทางการเมืองเตรียมนโยบายในพื้นที่ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาสังคมเศรษฐกิจคนในเมือง ซึ่งเป็นปัญหาสะสมมานาน พักพยายามรับฟังปัญหา เพื่อนำไปสู่การแก้ไข

ส่วนที่หลายพรรคการเมืองมีการเปิดชื่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่1 แล้ว พรรคพลังประชารัฐจะเสนอพล.อ.ประวิตร อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 หรือไม่นั้นนายชัยวุฒิชี้แจงว่า สส บัญชีรายชื่อลำดับที่1 กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดียวกัน เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ สามารถที่จะเสนอชื่อคนนอกได้ ขณะที่พลเอกประวิตรจะ เป็นสน.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 หรือไม่ขอให้ไปถามพลเอกประวิตรเอง เนื่องจากขณะนี้ทางพระยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึง การจัดลำดับ สส .บัญชีรายชื่อ เพราะยังมีเวลาอีกทั้งยังมีบุคคลที่จะเข้ามาพรรคพลังประชารัฐอีก ดังนั้นจึงต้องประเมิน และไม่ทราบว่าจะได้ สส.บัญชีรายชื่อกี่คนต้องรอหลังยุบสภา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2566

‘ตรีนุช’ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ PM 2.5 ให้อำนาจ ผอ.ตัดสินหากพบค่าฝุ่นพุ่ง สั่งหยุดเรียนออนไซต์ได้ทันที

, ,

‘ตรีนุช’ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ PM 2.5 ให้อำนาจ ผอ.ตัดสินหากพบค่าฝุ่นพุ่ง สั่งหยุดเรียนออนไซต์ได้ทันที

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่โรงเรียนวัดอมรินทราราม กรุงเทพมหานคร น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ว่า เนื่องจากหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคกลาง มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานหลายแห่ง ศธ.มีความเป็นห่วงนักเรียนอย่างมาก และที่ผ่านมาได้เน้นย้ำให้สถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดภัยต่อนักเรียนในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติด้านสุขภาพ โดย PM 2.5 ส่งผลกระทบกับร่างกายของเด็ก และครูอย่างมาก เพราะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจโดยตรง จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พบว่าโรงเรียนอยู่ในเขตพื้นที่สีส้ม หรือ เป็นค่าฝุ่นที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนก็สามารถเตรียมการรับมือได้ดี เช่น ให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอด กรณีที่พบเด็กมีอาการระคายเคือง ก็จะล้างจมูกให้เด็กทันที ประกอบโรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลศิริราชที่ให้เครื่องฟอกอากาศมาติดในห้องเรียน ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อเด็กอยู่ในห้องเรียนจะไม่ได้รับผลกระทบจาก PM 2.5

น.ส.ตรีนุชกล่าวต่อว่า ศธ.ได้ประกาศมาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งกำหนดมาตรการมาตรการเร่งด่วน และมาตรการระยะยาว เพื่อให้หน่วยงานและสถานศึกษาใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติเดียวกัน และตนที่จะกำชับให้แต่ละสถานศึกษาดูว่าในพื้นที่ของตนนั้น ค่าฝุ่นเป็นเช่นไร และขอให้แต่ละพื้นที่ดูแล เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนต่อได้ หากโรงเรียนอยู่ในพื้นที่สีแดง และสีส้ม ก็ขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อให้ไม่ส่งผลกระทบกับสุขภาพของนักเรียน

“แต่ละพื้นที่จะมีบริบทไม่เหมือนกัน มีความรุนแรงของ PM 2.5 ไม่เหมือนกัน ขอให้สถานศึกษาติดตามข่าวสาร และคอยอัพเดตข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษ อยู่เสมอ ทั้งนี้ ศธ.ได้ให้อำนาจกับผู้อำนวยการโรงเรียน พิจารณาว่าควรจะปรับรูปแบบการเรียนการสอนหรือไม่ เช่น หากพบค่าฝุ่นอยู่ในระดับสีแดง หรือ สีส้ม ก็อาจจะสั่งหยุดเรียนออนไซต์ และให้นักเรียนไปเรียนออนไลน์ เป็นต้น แต่การพิจารณาหยุดเรียน หรือปรับการเรียนการสอนนั้น ขอให้ประสานและทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองด้วย โดยให้ดูว่าผู้ว่าราชการจังหวัดมีคำสั่ง และมีมาตรการรับมืออย่างไร และขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีโรงเรียนไหนหยุดเรียนไปแล้วบ้าง” น.ส.ตรีนุช กล่าว.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2566

“ชวน ชูจันทร์” ส.ส.พปชร. ยืนยันพรรคชูก้าวข้ามความขัดแย้งหาเสียงศึกเลือกตั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่วาทกรรม

, ,

“ชวน ชูจันทร์” ส.ส.พปชร. ยืนยันพรรคชูก้าวข้ามความขัดแย้งหาเสียงศึกเลือกตั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่วาทกรรม

นายชวน ชูจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้งของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค พปชร. ว่า ไม่ใช่วาทกรรมที่ยกขึ้นมาเพื่อหาเสียง แต่อยากให้มองลงลึกไปว่าก่อนที่จะมีการปฏิวัติปี 2557 ประเทศไทยมีการขัดแย้งทางการเมืองอย่างหนักถึงขั้นจะแบ่งประเทศ โดยเฉพาะการเลือกตั้งในปี 2562 หลายคนคิดตรงกันว่า ถ้ายังมีการขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองแบบเดิมอยู่อีก ประเทศไทยคงพัฒนาไม่ได้ ตนเองและเพื่อนอีกหลายคน จึงได้จัดตั้งพรรค พปชร.ขึ้นมา ชื่อมีความหมายคือทั้งประชาชนและภาครัฐ ต้องร่วมกันให้เป็นพลังเพื่อพัฒนาประเทศ

นายชวน กล่าวว่า ในเวลา 4 ปีที่บริหารในนามพรรคการเมือง ยังไม่ได้เกิดแนวทางที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศอย่างที่คิดไว้ ทั้งในส่วนของสถาบันการเมือง หรือในภาคประชาชน และหลายคนก็เห็นปัญหาเหมือนกัน จึงต้องหยิบยกประเด็นเรื่องการก้าวพ้นความขัดแย้งขึ้นมาให้ช่วยกันตัดสินใจหรือพิจารณาอีกครั้ง และพยายามจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้น โดยเริ่มต้นจากการเป็นสถาบันการเมืองก่อน หากผู้ที่รับอาสาเข้ามาทำงานการเมืองยังไม่เข้มแข็ง ไม่สามารถรวมพลังกันเพื่อเป้าหมายในการนำพาประเทศให้พัฒนาได้แล้ว เรื่องอื่นคงไม่ต้องหวัง ซึ่งพล.อ.ประวิตร เข้าใจดี จึงได้นำเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้งขึ้นมาให้ช่วยกันตัดสินใจ เลือกสมาชิกสภาผู้แทนในปีนี้

การขจัดทุกปัญหาพัฒนาทุกพื้นที่ ข้อความนี้แยกได้เป็น 2 เรื่องคือ 1 ขจัดทุกปัญหาหมายถึงว่าเมื่อเป็นผู้แทนแล้วปัญหาของชาวบ้านไม่ว่าเรื่องอะไรอยู่ในพื้นที่ไหนก็ต้องรับเข้ามาช่วยแนะนำแก้ไขได้หรือไม่ได้อย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งสร้างความเข้าใจกันให้ได้ไม่หนีปัญหานั่นเองข้อความนี้เข้าใจไม่ยาก ส่วนพัฒนาทุกพื้นที่เราคงจำความกันได้ในอดีตที่ผ่านมานักการเมืองบางท่านได้พูดขึ้นว่าพื้นที่ใดที่ไม่ได้เลือกคนของพรรคเราเป็นผู้แทน การพัฒนาพื้นที่นั้นจะต้องเอาไว้ทีหลัง จะต้องไปพัฒนาในพื้นที่ที่เรามีผู้แทนก่อน ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกันพอสมควร ความจริงหลักคิดอย่างนี้ไม่ถูกต้อง เมื่อเป็นผู้แทนแล้ว จะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม จะต้องพัฒนาในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งประเทศจะมีผู้แทนของพรรคเดียวอยู่เป็นฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดไม่มีฝ่ายตรวจสอบหรือฝ่ายค้านเราจึงนำ ข้อความนี้มาบอกกล่าวให้ประชาชนได้ทราบว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีความคิดอย่างนี้เมื่อได้เป็นรัฐบาลต้องดูแลทุกพื้นที่ แก้ไขปัญหาพัฒนาให้ทั่วประเทศให้ได้ตามลำดับความจำเป็นก่อนหลัง ยิ่งเป็นพื้นที่ที่มีความลำบาก ประชาชนเดือดร้อนมากจะต้องไปแก้ปัญหาก่อน

งานหลักของเราซึ่งต้องเริ่มกันตั้งแต่วันนี้ก็คือการแก้ปัญหาความยากจน เรารู้ว่าใครคือคนจนและจนเพราะอะไร จะต้องเริ่มต้นอย่างไร จะต้องสั่งหรือชักชวนให้ใครหน่วยงานไหนมาช่วยกันแก้ปัญหานี้บ้าง เราศึกษามาพอสมควรแล้วว่าประเทศต่างๆ เขาแก้ปัญหาความยากจนของประชาชนของเขาอย่างไรประเทศจีน เป็นตัวอย่างที่น่าคิดเขามีคน 1,400 ล้านทำได้ไม่กี่ปีของเราประมาณ 60 ล้านเท่านั้น หรือแม้แต่ทฤษฎีการพัฒนาประเทศในแนวเศรษฐกิจพอเพียง เราก็ถอดบทเรียนมาหมดแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ลงมือทำ ยังไม่ได้มีชุดคาราวาน แก้ปัญหาความยากจนอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นนับแต่วันนี้และอีก 4 ปีถ้าได้เป็นรัฐบาล จะต้องแก้ปัญหาหรือเห็นแนวทางที่ถูกต้อง เกิดความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น ลงมือทำคือคำตอบ ด้วยความขอบคุณครับ

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ชวนชูจันทร์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2566

ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาการคมนาคมให้ชาวปากพนังด่วน หลัง ปชช.เดือดร้อนมานาน

,

ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหาการคมนาคมให้ชาวปากพนังด่วน หลัง ปชช.เดือดร้อนมานาน

นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาฯ ถึงความเดือดร้อนของประชาชนในตำบลปากพนัง อำเภอปากพนัง กว่า 200 กว่าคน ที่มีความเดือดร้อนในการคมนาคมสัญจร ซึ่งโครงการสะพานข้ามคลองแบบถาวร ที่ใช้สัญจรเพื่อเข้ากับทางหลักออกหมู่บ้านชำรุด จึงต้องใช้สะพานไม้ไผ่ ต่างคนต่างก็ทำสะพานเข้าบ้านตัวเอง ซึ่งเป็นปัญหาหลายปี ตนจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบตามที่ได้รับปากกับประชาชนเอาไว้ด้วย

นอกจากนี้ การปรับปรุงซ่อมแซมถนนสายบ้านเคียนด้วน-ศาลหลวงต้นไทร ตำบลการะเกด อำเภอเชียรใหญ่ ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ถนนมีสภาพชำรุดทรุดโทรม เป็นหลุม เป็นบ่อ ไม่สามารถใช้งานในการสัญจรได้มาเป็นระยะเวลานาน โดยชาวบ้านบางส่วนได้ทำดินลูกรังมาถมกันใช้เอง จึงขอฝากไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชลประทาน ช่วยดูแลให้พี่น้องประชาชนด้วย

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #สัณหพจน์สุขศรีเมือง
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2566