โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค

“สส.ปกรณ์”ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-หน่วยงานของจังหวัดแม่ฮ่องสอน”ให้ความช่วยเหลือ ปชช.เดือดร้อนจากน้ำท่วมทันท่วงที ขอ เร่งซ่อมแซม“สะพานบ้านห้วยผา”อย่ารอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

,

“สส.ปกรณ์”ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-หน่วยงานของจังหวัดแม่ฮ่องสอน”ให้ความช่วยเหลือ ปชช.เดือดร้อนจากน้ำท่วมทันท่วงที ขอ เร่งซ่อมแซม“สะพานบ้านห้วยผา”อย่ารอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เกิดอุทกภัยที่รุนแรง หลาย ๆ พื้นที่ถูกน้ำป่าไหลหลากทับท่วมและดินสไลด์ ทำให้บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร สะพานและถนนต่างๆในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เบื้องต้นตนต้องขอขอบคุณทางหน่วยงานของจังหวัด โดยการนำของ
ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ได้เร่งเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

“ผมต้องขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้แจ้งผมโดยตรงให้ช่วยจัดหาสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ที่รับความเสียหายเป็นอย่างมากนั้น เช่น อำเภอขุนยวม อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมือง และอำเภแม่ลาน้อย บ้านเรือนส่วนใหญ่ที่เสียหายนั้นกว่า 400 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 คน และมีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่ รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบอาชีพอีกจำนวนมาก ณ วันนี้ ยังไม่สามารถที่จะประเมินความเสียหายได้ทั้งหมด

ส่วนในเรื่องของสะพานถนน ที่อำเภอขุนยวม ตำบลแม่ยวมน้อย บ้านแม่โกปี่ และ บ้านแม่ละก๊ะใต้ สะพานถนนถูกตัดขาด ยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้ ต้องใช้วิธีการเดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงที่จะเข้าถึงหมู่บ้านต่างๆ ในส่วนของสะพานที่สำคัญอีกเส้นหนึ่ง ก็คือ สะพานบ้านห้วยผา ตำบลห้วยผา อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮองสอน บนถนนเลขที่ 1095 สะพานแห่งนี้เคยถูกอุทกภัยมาครั้งหนึ่ง เมื่อเดือน ก.ย.66 และตั้งแต่นั้นมาก็เป็นสะพานชั่วคราวมาโดยตลอด วันนี้ก็เจออุทกภัยอีกรอบหนึ่ง

“ผมได้หารือเรื่องสะพานแห่งนี้มา 2 ครั้ง แต่ ณ.วันนี้ ก็ยังไม่มีการปรับปรุงหรือแก้ไขให้เป็นสะพานที่เป็นมาตรฐานและถาวร มีความปลอดภัยแต่อย่างไร และเท่าที่ทราบก็ไม่เห็นในงบประมาณปี 2567 และ ปี2568 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผมก็ไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น หรือว่าจะต้องรอให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ ถึงจะดำเนินการแก้ไขได้ ผมขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านี้ด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

‘บิ๊กป้อม’ ชูความสำเร็จไทยกวาด 6 เหรียญ สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทย

,

‘บิ๊กป้อม’ ชูความสำเร็จไทยกวาด 6 เหรียญ สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทย

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 ส.ค. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในที่ประชุม สส. ประจำสัปดาห์ โดยมีแกนนำ และ สส. เข้าร่วมประชุม อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรค นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค  นายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรค เป็นต้น

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า พล.อ.ประวิตร ได้รายงานความสำเร็จของไทยในการจัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน นับเป็นประวัติศาสตร์การกีฬาของไทย ที่ได้รับเหรียญรวมมากที่สุดถึง 6 เหรียญ ได้แก่เหรียญทอง 1 เหรียญ เหรียญเงิน 3 เหรียญ และเหรียญทองแดง 2 เหรียญ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีกับนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกประเภทกีฬา ซึ่งถือว่าการแข่งขันโอลิมปิก ในครั้งนี้ ไทยได้รับสิทธิในการส่งนักกีฬาสูงถึง 51 คน สะท้อนถึงความสนใจที่คนไทยให้ความสนใจในการเล่นกีฬา จึงเห็นว่าควรมีการส่งเสริม และเชิญชวนให้เยาวชนหันมาใส่ใจกีฬามากขึ้น เพื่อป้องกันเยาวชนเข้าสู่วงจรยาเสพติด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 สิงหาคม 2567

“สส.ชนนพัฒฐ์”ฝาก บริษัทใหญ่ ให้โอกาสจ้างงานคนพิการ แทน เอาเงินเข้ากองทุนส่งเสริมชีวิตคนพิการ มอง จ่ายเท่ากันแต่ได้คนทำงานเพิ่ม แถมรายได้ยังถึงมือคนพิการจริง

,

“สส.ชนนพัฒฐ์”ฝาก บริษัทใหญ่ ให้โอกาสจ้างงานคนพิการ แทน เอาเงินเข้ากองทุนส่งเสริมชีวิตคนพิการ มอง จ่ายเท่ากันแต่ได้คนทำงานเพิ่ม แถมรายได้ยังถึงมือคนพิการจริง

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ต้อนรับเหล่าพี่ๆคนพิการในจังหวัดสงขลาที่มาเยี่ยมเยียน พร้อมมอบเกียรติบัตรที่ตนได้สนับสนุนเสื้อกีฬาไปแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย รวมถึงตนยังได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของชมรมคนพิการของจังหวัดสงขลาด้วย จากการพูดคุยและรับฟังปัญหาของคนพิการในวันนี้ ปัญหาหลัก ๆ ก็คือ การหางานทำของคนพิการที่มีเสียงสะท้อนว่า หากยากเหลือเกิน

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวต่อว่า จริง ๆ แล้ว ปัญหานี้มีพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 มาตรา 33 ซึ่งกฎกระทรวงแรงงานกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คน ต้องรับคนพิการที่สามารถทำงานได้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด โดยสัดส่วนในการรับคนพิการเข้าทำงานคือ ลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการ 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน นอกจากนี้ในมาตรา 34 ก็ระบุไว้ว่า นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการคนใดที่ไม่ได้รับคนพิการเข้าทำงานตามที่กำหนด ให้ทำการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี โดยคำนวณจากอัตราต่ำสุดของอัตราค่าแรงขั้นต่ำ 328 บาท

“ผมจึงอยากจะฝากไปยังถึงบริษัท และ กิจการ ห้างร้านใหญ่ ให้ช่วยพิจารณาคนพิการด้วย นี่คือเสียงสะท้อนเล็กๆ ที่คนพิการอยากให้พวกเราทุก ๆ คนได้ยิน อย่าปฎิเสธพวกเขา หรือคิดว่าเขาจะสร้างภาระให้กับองค์กร เพราะหลาย ๆ คนก็สามารถทำงานได้ไม่แตกต่างจากคนปกติ ผมมองว่า นายจ้างที่จะต้องเอาเงินไปสนับสนุนกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สู้เราเอาค่าแรงขั้นต่ำ 328 บาทต่อวัน เท่ากันมาจ้างคนพิการมาทำงานจะดีกว่าหรือไม่ เพราะเราก็จะได้คนเพิ่ม 1 คน”นายชนนพัฒฐ์ กล่าว

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า คนพิการมีเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพียงเดือนละ 800 บาทเท่านั้น แต่ถ้าผู้ประกอบการให้โอกาสจ้างพวกเขาทำงาน เขาก็จะได้รับเงินโดยตรง ซึ่งตนมองว่าดีกว่า ทั้งนี้ ขอฝากไปยังผู้ใหญ่ของบ้านให้สนับสนุนและเล็งเห็นความสำคัญของคนพิการ ทั้งนี้ ตนขอให้ จังหวัดสงขลาเป็นจุดเริ่มต้นในการจ้างงานคนพิการ รวมถึงขอฝากให้ บริษัทห้างร้านทั่วประเทศพิจารณาให้โอกาสคนพิการได้มีอาชีพอีกครั้งด้วย

ด้านตัวแทนชมรมคนพิการ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า พวกเราอยากจะให้ผู้ประกอบการในจังหวัดสงขลา ร่วมมือกันจ้างงานคนพิการทุกบริษัท ซึ่งดีกว่าการส่งเงินเข้ากองทุน เพราะจะได้กลับมาในจังหวัดน้อยมาก แต่การจ้างคนพิการ ทุกบาท ทุกสตางค์ ทำให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตแบบมีคุณภาพที่ดีขึ้นได้ รวมถึงคนพิการก็จะเกิดความภูมิใจว่า เขาสามารถเปลี่ยนจากภาระมาเป็นพลังของสังคม สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทั้งนี้ อย่ามองว่าการทำงานของคนพิการเป็นเพียงแค่การสงเคราะห์ แต่คนพิการสามารถพัฒนาศักยภาพในการทำงานได้ หลาย ๆ คนที่ตนดูแล เมื่อได้รับโอกาสจากนายจ้าง ก็สามารถทำงานได้ดีด้วย

“ชมรมคนพิการของจังหวัดสงขลาได้มีการจัดตั้งศูนย์หางานของคนพิการมากกว่า 9 ปี แล้ว ดังนั้นทางผู้ประกอบการจึงไม่ต้องกังวลว่า การจ้างคนพิการจะเจอความยากลำบาก เพราะทุกคนต้องเตรียมตัวที่จะทำงานอีกทั้งรายชื่อของบุคคลพิการที่ลงทะเบียนกันเอาไว้ ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก็ได้จัดอบรมให้กับคนพิการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สถานประกอบการและการสร้างอาชีพต่าง ๆ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

”สส.สะถิระ“จับมือสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดชลบุรี จัดโครงการบริการทำหมันสุนัขและแมว ฟรี 100 ตัว แก้ปัญหาหมาแมวจรจัด พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

,

”สส.สะถิระ“จับมือสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดชลบุรี จัดโครงการบริการทำหมันสุนัขและแมว ฟรี 100 ตัว แก้ปัญหาหมาแมวจรจัด พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้ร่วมกับ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี สำนักงานปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ เพื่อจัดโครงการบริการทำหมันสุนัข แมว ฟรีจำนวน 100 ตัว รวมถึงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามบ้านเรือนประชาชนอีก 500 ตัว โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้า และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากจำนวนหมาแมวจรจัด และเพื่อให้ประชาชนมีความรู้เรื่องโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างถูกต้อง

“ผมต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี นำโดยนายสัตวแพทย์ชำนาญการ พิชญา วีรพันธุ์ ปศุสัตว์อำเภอสัตหีบ และเจ้าหน้าที่ออกหน่วยมาให้บริการฉีดวัคซีนทำหมันสุนัขและแมวให้กับประชาชนในเขตพื้นที่ อำเภอสัตหีบ รวมถึง นายสมประสงค์ วังแก้วหิรัญ ผู้ช่วย สส.,พ.จ.อ.วิษณุ โตสมบัติ ผู้ใหญ่บ้าน และคณะทำงาน ตลอดจน กำลังพลเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ที่ร่วมอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและทีมสัตวแพทย์ในการนำสุนัขและแมวมารับบริการ“นายสะถิระ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

อวยพรวันเกิด “พล.อ.ประวิตร”ครบ 79 ปี คนสนิท-ทหาร-ตำรวจ-นักการเมือง “รวมพลคนรักลุงป้อม” ขอให้มีความสุข-สุขภาพแข็งแรง ย้ำจุดยืน ปกป้อง-เทิดทูนสถาบันฯสำคัญสูงสุด

,

อวยพรวันเกิด “พล.อ.ประวิตร”ครบ 79 ปี คนสนิท-ทหาร-ตำรวจ-นักการเมือง “รวมพลคนรักลุงป้อม” ขอให้มีความสุข-สุขภาพแข็งแรงย้ำจุดยืน ปกป้อง-เทิดทูนสถาบันฯสำคัญสูงสุด

เมื่อ 11 ส.ค.67 ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ต้อนรับ บุคคลใกล้ชิด ทั้งทหารตำรวจ นักการเมืองจากพรรคต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชน เข้าร่วมอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 79 ปี ทั้งนี้ได้มีคณะต่างๆ ทยอยมาร่วมอวยพรก่อนวันเกิดเป็นจำนวนมาก มาก่อนหน้าแล้ว สำหรับวันนี้ ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางไปประกอบพิธีทำบุญ ซึ่งได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี ณ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

จากนั้นได้เดินทางมายัง มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เพื่อต้อนรับผู้มาร่วมแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่มาอวยพรได้กล่าวขอให้พล.อ.ประวิตร มีความสุข มีสุขภาพแข็งแรง เป็นหลักชัย ให้บ้านเมือง มีความสงบสุข ร่มเย็น เจริญรุ่งเรือง

พล.อ.ประวิตร ได้มอบของที่ระลึกแก่ผู้มาอวยพรและกล่าวตอบรับพร โดยขอให้ช่วยกัน ทุ่มเททำงาน เพื่อบ้านเมืองและประชาชน สำคัญที่สุด ต้องช่วยกันปกป้อง เทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่คู่ชาติไทย ตลอดไป

สำหรับงานวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตร ในวันนี้ บรรยากาศ เป็นแบบเรียบง่ายเป็นกันเองทุกคนทุกคณะมาด้วยความเคารพรัก ความผูกพัน ที่เคยมีมาอย่างยาวนาน เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตากับทุกคน เป็นที่เคารพนับถือของผู้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ รวมทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ วันนี้ จึงเป็นอีกวันหนึ่ง ที่นับเป็นวัน“รวมพลคนรักลุงป้อม”ก็ว่าได้ ซึ่งจะทำให้ พล.อ.ประวิตร เจ้าของวันเกิดได้รับพลังอันบริสุทธิ์ ให้มีกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พรรคที่มีอุดมการณ์ ยึดมั่น ปกป้องเทิดทูนสถาบันฯ เป็นสถาบันทางการเมือง และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นกลไกหนึ่ง ที่จะช่วยขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องประชาชน กินดีอยู่ดี มีความสุข ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“สส.สุธรรม”ขอบคุณ“รมช.อรรถกร”ลงพื้นที่ นครศรีฯ ผลักดันโครงการเร่งด่วน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา แก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม อย่างยั่งยืน

,

“สส.สุธรรม”ขอบคุณ“รมช.อรรถกร”ลงพื้นที่ นครศรีฯ ผลักดันโครงการเร่งด่วน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ํา แก้ปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม อย่างยั่งยืน

นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนขอเป็นตัวแทนชาวนครศรีธรรมราช ขอบคุณนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไข ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ท่านให้ความสำคัญกับจังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่อำเภอทุ่งสงที่เป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ทำให้พี่น้องเกษตรกรและชาวบ้านได้รับผลกระทบ

”กระทรวงเกษตรฯที่นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้มุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยได้เร่งผลักดันโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน รวมถึงเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อเป็นแหล่งเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ได้ใช้ประโยชน์จากการเก็บกักน้ำ สามารถใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและปัญหาอุทกภัย“นายสุธรรม กล่าว

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯยังได้เสนอแผนโครงการเร่งด่วนในพื้นที่อำเภอทุ่งสง 3 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการทำนบดินบนบ้านบนควน ตำบลที่วัง เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตร และอุปโภคบริโภค 2) ประตูระบายนํ้าวัดวังขรี ตําบลนาไม้ไผ่ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ําในช่วงน้ําหลาก และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพการระบายนํ้าวัดคงคาเจริญ ตําบลหนองหงส์ ป้องกันน้ําท่วมในพื้นที่การเกษตร 50 ไร่ อีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“พล.อ.ประวิตร”ยกหูหา“โค้ชเช”ขอบคุณที่ทำให้คนไทยมีความสุข ฝากอวยพรวันเกิด“น้องเทนนิส”ขอให้มีความสุข สมหวัง ทุกเรื่อง

,

“พล.อ.ประวิตร”ยกหูหา“โค้ชเช”ขอบคุณที่ทำให้คนไทยมีความสุข ฝากอวยพรวันเกิด“น้องเทนนิส”ขอให้มีความสุข สมหวัง ทุกเรื่อง

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังนายชัชชัย เช หรือโค้ชเช หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย โดยขอ เป็นตัวแทนของคนไทยขอบคุณและแสดงความยินดีกับ เรืออากาศโทพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ หรือน้องเทนนิส โค้ชเช และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองเทควันโด ประเภทหญิงเดี่ยวรุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49 กิโลกรัม ให้กับประเทศไทย และยังเป็นการป้องกันแชมป์ได้อีกหนึ่งสมัยด้วย

โดยพลเอกประวิตร ได้ฝากสุขสันต์วันเกิดน้องเทนนิส และขอให้มีความสุข สมหวังทุกประการ และขอต้อนรับการเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยความชื่นชมยินดีและภาคภูมิใจที่ทีมเทควันโดได้สร้างความสุขให้กับประชาชนคนไทย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 สิงหาคม 2567

“รมช.อรรถกร”ตอบกระทู้“สส.จักรัตน์”อ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ เตรียมก่อสร้างได้ในปี 70 มั่นใจช่วยเกษตรกรเก็บกักน้ำเพิ่มได้กว่า 9,700 ไร่“ลั่น กระทรวงเกษตรพร้อมทำทุกทางเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้ชาวหล่มสัก

,

“รมช.อรรถกร”ตอบกระทู้“สส.จักรัตน์”อ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ เตรียมก่อสร้างได้ในปี 70 มั่นใจช่วยเกษตรกรเก็บกักน้ำเพิ่มได้กว่า 9,700 ไร่“ลั่น กระทรวงเกษตรพร้อมทำทุกทางเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้ชาวหล่มสัก

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่8 ส.ค. นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่รัฐมนตรีติดภารกิจสำคัญ จึงมอบหมายให้ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน

โดยนายจักรัตน์ กล่าวว่า ตนทราบข้อมูลมาว่าประเทศไทยจะพบจะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา ก็คือจะมีฝนตกมากกว่าปกติ พื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีแม่น้ำสำคัญ เปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของคนเพชรบูรณ์ก็คือ แม่น้ำป่าสัก จากเหนือสุดของจังหวัดก็คือที่อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก ไล่ลงมาถึงใต้สุดของจังหวัดก็คือ อำเภอศรีเทพ ความยาวของแม่น้ำป่าสัก ประมาณ 280 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ทางต้นน้ำ อำเภอหล่มสัก เกิดอุทกภัยทุกๆปี ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะจากแม่น้ำป่าสัก ไม่มีอ่างเก็บน้ำที่ต้นน้ำเลย ก็คือ ไม่มีอ่างที่จะคอยชะลอน้ำ หรือว่าตัดยอดน้ำทางจังหวัด และกรมชลประทานมีความเห็นตรงกันก็คือ ต้องสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ ก็อยู่ในโครงการพระราชดำริด้วย

“ผมอยากทราบความก้าวหน้าของโครงการอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ เพราะในปี 2562 ได้รับเงินศึกษาสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่จนถึงปี 2567 ก็ยังไม่ผ่านประเมินสิ่งแวดล้อม จึงอยากถามว่า ความก้าวหน้าเป็นอย่างไร และปัญหาความล่าช้าเกิดจากอะไร รวมถึงจะตั้งงบประมาณก่อสร้างอ่างเก็บน้ำสะดวงใหญ่ได้ ในปีไหน

นอกจากนี้ นายจักรัตน์ ยังถามถึงโครงการแนวทางผันน้ำเลี่ยงเมืองหล่มสัก ที่จะช่วยไม่ให้เกิดอุทกภัยในเขตพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหล่มสักก็คือการทำบายพาสน้ำ เพื่อลดมวลน้ำที่จะไหลเข้าเมืองให้ไหลอ้อมเมืองออกไปลงที่แม่น้ำป่าสัก ในจุดที่ไกลเมืองออก ซึ่งทราบว่าทางกรมชลประทานได้ของบศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมไปแล้ว แต่ก็ยังได้รับเงินงบประมาณ จึงอยากทราบว่า เมื่อไหร่จะได้เงินงบประมาณในการศึกษาแผนงานนี้

ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตอบกระทู้ของ สส.จักรัตน์ว่า เบื้องต้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนในเขตอำเภอหล่มสัก ทางกรมชลประทาน ก็พยายามที่จะดำเนินการในการแก้ไขปัญหาไปหลายเรื่อง โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งการแก้ไขปัญหาในเรื่องของน้ำแล้ง น้ำท่วมในเขตอำเภอหล่มสักยังมีอีกหลายจุด ที่เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และทางกรมชลประทานก็ทราบดี และเป็นเป้าหมายที่ทางกรมชลประทานมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อ

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่ ที่อำเภอหล่มสัก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งกรมชลประทานนั้นได้ให้ความสำคัญกับโครงการตามพระราชดำริอยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้หากสร้างเสร็จจะสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำได้ประมาณ 13.75,000,000 ลูกบาศก์เมตร โดยอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่จะอยู่ขึ้นอยู่ทางเหนือของอำเภอหล่มสัก อยู่ตอนบนของอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่นที่เรามีโอกาสได้ลงพื้นที่ไปในคราวก่อน ซึ่งความคืบหน้าของโครงการนั้นได้รับการผ่านการตรวจสอบ EIA และจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ และทางกรมชลประทานมีความเชื่อว่า ภายในเดือนนี้ รายงานฉบับนี้ก็จะผ่าน จากนั้นเราก็จะเร่งทำการสำรวจเพื่อที่จะวางแผนในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่

”คาดว่าเราจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ใน 2570 โดยทางกรมชลประทานคาดการณ์ว่า จะต้องใช้เงินงบประมาณถึง 975 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 4 ปีแล้วเสร็จในปี 73 ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีพื้นที่พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรจะได้รับประโยชน์กับการที่เราจะเก็บกักน้ำเพิ่มได้ประมาณ 9700 ไร่“นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า วานนี้ ร.อ.ธรรมนัส ,ปลัดกระทรวงเกษตรฯ พร้อมด้วยตน ได้เดินทางไปร่วมประชุมและสัมมนาที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และก็มีการได้ร่วมสัมมนาพูดคุยกับทางผู้บริหารของสำนักงาน กปร.ด้วย ซึ่งบทความสนทนา เมื่อวานก็คือการที่กระทรวงเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมารวมกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการไปแล้ว 4900 โครงการจาก 5000 กว่าโครงการ ก็สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งให้กับพี่น้องประชาชนในทั่วภูมิภาคได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยสะดวงใหญ่

ในเขตพื้นที่ในอำเภอเมืองในเขตเทศบาลเมืองของพี่น้องชาวอำเภอหล่มสัก ก็มีปัญหาในเรื่องของน้ำเอ่อล้นทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตชุมชนได้รับความเดือดร้อน กระทรวงเกษตรฯ โดยเฉพาะกรมชลประทานเราได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาน้ำเอ่อล้นในเขตเทศบาลเมืองหล่มสักเป็น 2 รูปแบบ ซึ่งแบบแรกอาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร คือการก่อสร้างอ่างเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะกักเก็บน้ำที่จะไหลลงไปเอ่อล้นในเขตชุมชนของเทศบาลเมืองหล่มสัก โดยทางสำนักงานบริหารโครงการชลประทาน มีแผนการที่จะดำเนินการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลเมืองหล่มสัก หลายโครงการยกตัวอย่างเช่น อ่างเก็บน้ำห้วยหินโง่น อ่างเก็บน้ำห้วยผักกูด โครงการต่าง ๆ ทางกรมชลประทานวางแผนว่าจะลงมือทำในอนาคตอันใกล้นี้

ในส่วนของแนวทางที่ 2 น่าจะรวดเร็วกว่า โดยกรมชลประทานกำลังพิจารณาที่จะขยายความกว้างของคลองส่งน้ำสายใหม่ ฝั่งซ้ายของแม่น้ำป่าสัก โดยเรามีการสำรวจพื้นที่แล้ว และมีแผนที่จะขยายคลองเพิ่มให้เป็นความกว้างประมาณ 40 เมตรกรมชลประทานจะใส่แผนในการสำรวจศึกษาออกแบบในปี 69 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะแบ่งเบาภาระการผันน้ำที่แม่น้ำป่าสักได้ประมาณ 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระในการผันน้ำแล้ว การขยายก็หมายความว่า จะเป็นการเพิ่มความจุเก็บกักน้ำไปในตัวด้วย

“ไม่ว่าจะเป็นแนวทางที่หนึ่งในการสร้างอ่างเก็บน้ำหลาย ๆ อ่างเก็บน้ำเพิ่ม บริเวณเหนืออำเภอหล่มสัก หรือว่าแนวทางที่ 2 ในการที่จะขยายคลอง เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระการผันน้ำ ผมเชื่อว่า ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาไม่ว่าโครงการไหนที่สามารถดำเนินการได้ก่อน เรายินดีที่จะดำเนินการก่อน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ ความพร้อมของเจ้าหน้าที่ รวมถึงทำความเข้าใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญเราจะออกแบบสำรวจให้เสร็จรวดเร็วที่สุด“

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการที่จะทำช่องลัดน้ำ ซึ่งภูมิประเทศตรงนั้น แม่น้ำป่าสักมีลักษณะเป็นตัวซี มีฝายอยู่ด้านบน ถ้าเราจะไปทำการปรับปรุงจะต้องผ่านกระบวนการในการที่จะรับฟังความคิดเห็นในเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะใช้เวลานาน จึงได้พูดคุยกับทางกรมชลประทานให้แยกทำเป็น 2 มิติ คือการปรับปรุงฝายทั้งด้านบนและด้านล่างของแม่น้ำสายนี้ก็ทำไป อีกส่วนหนึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องทำช่องลัดน้ำซึ่งจะแยกกับฝายทั้งสองตัวที่เราตั้งใจจะทำ พอเราทำทางลัดน้ำ ก็ไม่ต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ ไม่ต้องผ่านขอความเห็นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เพราะว่าเราไม่ได้ไปทำเพิ่มในแหล่งน้ำ แต่เราใช้พื้นที่ ๆ เป็นที่ดินในการขุดทางลัดขึ้นมาเพิ่ม ดังนั้น การระบายน้ำหรือว่า การเดินทางของน้ำในพื้นที่บริเวณหมู่บ้านคลองสีฟันจะสามารถระบายน้ำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยทางกรมชลประทานได้วางแผนที่จะทำการศึกษาออกแบบให้แล้วเสร็จในปี 68 ใช้เวลาไม่นาน และจะเข้าแผนในปี 69 ซึ่งถ้าเราสามารถทำโครงการนี้สำเร็จลุล่วง จะสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรได้ไม่ต่ำกว่า 4000 ไร่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.รัชนี”ขอ ”รมว.ธรรมนัส“เร่งรัดงบก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 2 จุดใน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง

,

“สส.รัชนี”ขอ ”รมว.ธรรมนัส“เร่งรัดงบก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า 2 จุดใน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง

นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง
โดยในพื้นที่เขตเลือกตั้งของตน มีลำน้ำสายหลักที่ไหลผ่านคือ ลำน้ำยัง และลำห้วยแดง ซึ่งลำน้ำยังนั้นมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาภูพานน้อย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในฤดูฝน จะมีน้ำจำนวนเยอะมาก ทำให้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และไร่นาสวนของเกษตรกรได้รับความเสียหายมากเป็นประจำทุกปี

นางรัชนี กล่าวต่อว่า แต่หลังการเก็บเกี่ยว และช่วงฤดูแล้ง พี่น้องประชาชนและเกษตรกร ก็มีความต้องการน้ำจากลำห้วย เพื่อปลูกข้าวโพด,มันสำปะหลัง,อ้อย,ผักสวนครัว และพืชผลต่างๆ เลี้ยงสัตว์ รวมถึงการประมง จึงมีความประสงค์ที่จะให้กรมชลประทานก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่จุดวังหิน บ้านกุดแห่ ตำบลหนองใหญ่ อำเภอโนนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด และก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า จากลำห้วยแดง จุดบ้านหนองโน ตำบลชมสะอาด อำเภอ เมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่ง 2 จุดนี้ ทางชลประทานได้สำรวจความเหมาะสมและประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับ
เรียบร้อยแล้ว แต่ยังขาดงบประมาณในการดำเนินการ

“ดิฉันจึงขอหารือท่านประธาน ผ่านไปยังรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีความเข้าใจ และใส่ใจปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและเกษตรกรเป็นหลักอยู่แล้ว เพื่อให้เร่งรัดจัดสรรงบประมาณดำเนินการเป็นกรณีเร่งด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.องอาจ”ห่วงชาวสระบุรี ช่วงฤดูน้ำหลาก ขอ กรมชลประทาน เร่งรัดทำประตูน้ำ บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง

,

“สส.องอาจ”ห่วงชาวสระบุรี ช่วงฤดูน้ำหลาก ขอ กรมชลประทาน เร่งรัดทำประตูน้ำ บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ก่อนอื่นตนขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมชลประทาน ที่ได้จัดสรรงบประมาณซ่อมคันผนังกั้นน้ำ คลองสาขา ชัยนาท ป่าสัก บริเวณประตูน้ำ เริงราง อำเภอบ้านหมอ ซึ่งผนังกั้นน้ำพังจากน้ำท่วมเมื่อปี 64 จนทำให้น้ำท่วมทะลัก สร้างความเสียหายเดือดร้อนให้กับพี่น้องทั้ง 3 อำเภอ ก็ต้องกราบขอบพระคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดี

นายองอาจ กล่าวต่อว่า วันนี้กำลังเข้าสู่ฤดูน้ำหลาก ตนเป็นห่วงจังหวัดสระบุรี เพราะเป็นพื้นที่หลุมต่ำ เพื่อให้การจัดการน้ำมีประสิทธิภาพ ทั้งฤดูน้ำหลากและฤดูแล้ง จึงขอให้กรมชลประทาน ช่วยเร่งรัดปรับปรุงทำประตูน้ำปากคลองส่งน้ำ 23 ขวา บริเวณโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานเริงราง ถ้าเกิดทำได้สำเร็จก็จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการบริการจัดการน้ำให้ชาวนาชาวไร่ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านหมอ อำเภอหนองโดน อำเภอดอนพุด จะได้ประโยชน์อย่างยิ่ง

นายองอาจ ระบุด้วยว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชน อำเภอเสาไห้ หมู่ 2 ท่าช้าง หมู่ 1 หมู่ 5 ศาลารีไทย ที่อาศัยติดริมตลิ่ง ตามแนวแม่น้ำป่าสัก เดือดร้อนอย่างหนัก มวลน้ำจำนวนมหาศาลกัดเซาะตลิ่งพังตลอดแนวยาว บ้านเรือนเสียหายหลายหลังคาเรือน เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ล่าสุด กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ได้กรุณาจัดงบก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำป่าสักให้แล้ว แต่ได้บางหมู่ ได้แก่ หมู่ 2 ตำบลท่าช้าง แต่หมู่ 1 หมู่ 5 ตำบลศาลารีไทย ยังไม่ได้รับการดูแลแก้ไข ซึ่งตอนนี้รอไม่ได้แล้ว เพราะน้ำกัดเซาะตลิ่ง ตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยเวลาและกระแสน้ำไม่เคยคอยใคร จึงขอให้ผู้เกี่ยวข้องขอเขื่อน ป้องกันบริเวณนี้โดยด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.อามินทร์“ย้ำ พปชร.เปิดกว้างพร้อมร่วมงานกับทุกคน หากมีแนวทางเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อ

,

“สส.อามินทร์“ย้ำ พปชร.เปิดกว้างพร้อมร่วมงานกับทุกคน หากมีแนวทางเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินซื้อ

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะทีมโฆษกพรรรคให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ระบุว่า ที่มีผู้ช่วยของรัฐมนตรีกระทรวงปล่อยน้ำ มาทาบทามเข้าพรรคที่กำลังตั้งขึ้นใหม่ โดยเสนอจะให้เงินทำพื้นที่ 20-30 ล้านบาทว่า ส่วนตัวไม่ทราบว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือเป็นเพียงการสร้างมูลค่าให้กับตัวเอง ซึ่งการกล่าวพาดพิงว่า รัฐมนตรีกระทรวงปล่อยน้ำ ก็ค่อนข้างระบุชัดเจน เพราะกระทรวงที่ปล่อยน้ำก็มีอยู่ไม่กี่กระทรวง ทั้งนี้หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติยุบพรรคก้าวไกลจริง ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราไม่เคยปิดกั้นการทำงานร่วมกับ สส.จากพรรคการเมืองอื่น ๆ

“การทำพรรคการเมืองนั้น สิ่งสำคัญคือต้องมีแนวทางการทำงานเดียวกัน และขอย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐ เราไม่มีนโยบายในการใช้เงินในการซื้อตัว สส.หรือช้อนซื้องูเห่าอย่างที่เป็นกระแสข่าวแน่นอน ของเพียงแค่มีใจก็มาร่วมงานกันได้”นายอามินทร์ กล่าว

นายอามินทร์ กล่าวต่อว่า ตนยังเชื่อว่า ถ้ามีคนติดต่อไปอย่างที่ถูกกล่าวอ้างจริงก็คงเป็นคนนอก ไม่ใช่คนในสภา เนื่องจากผู้ที่ออกมาเปิดเผยก็เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน คุณสมบัติกับตำแหน่งที่ได้รับยังคลุมเครือ ไม่รู้ว่าเรื่องเกณฑ์ทหารจะไปจบอย่างไร ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะพรรคพลังประชารัฐ ไม่อยากให้คนที่มีปัญหาเข้ามาทำให้พรรคของเรามีปัญหาอีก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567

“สส.ไผ่ ลิกค์” ร่วมผู้ว่ากำแพงเพชร เปิดศึกมวยไทยอาชีพเมืองชากังราว “MR.FIGHT ON TOUR ” สร้างนักมวยไทยหน้าใหม่เข้าวงการศิลปการต่อสู้ “รมว.เสริมศักดิ์” หนุนจังหวัดกระตุ้นการท่องเที่ยวและกีฬา

,

“สส.ไผ่ ลิกค์” ร่วมผู้ว่ากำแพงเพชร เปิดศึกมวยไทยอาชีพเมืองชากังราว “MR.FIGHT ON TOUR ” สร้างนักมวยไทยหน้าใหม่เข้าวงการศิลปการต่อสู้ “รมว.เสริมศักดิ์” หนุนจังหวัดกระตุ้นการท่องเที่ยวและกีฬา

นายไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.กำแพงเพชร เขต 1 ร่วมกับ นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการ จ.กำแพงเพชร ในการจัดการแข่งขันมวยไทยอาชีพ “ศึกคนแกร่งมวยไทยเมืองชากังราว” และการแข่งขัน MR.FIGHT ON TOUR ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จ.กำแพงเพชร และจังหวัดใกล้เคียงมีส่วนร่วมในการสร้างกิจกรรมของจังหวัด ด้านการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมเยาวชนให้หันมาสนใจกีฬามวยมากยิ่งขึ้น ที่สามารถต่อยอดไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ สร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสอดรับกับนโบบ่ยของพรรคที่มุ่งการสร้างความกินดีอยู่ดีให้พี่น้องประชาชน

“ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนในจังหวีดกำแพงเพชร ที่มีฝีไม้ลายมือในศิลปะมวยไทย ไม่แพ้เยาวชนในจังหวัดอื่นๆ จึงได้ประวานขอความร่วมมือไปยังกระทรวงการเที่ยวและกีฬา ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้ได้นีบการตอบรับและให้การสับสนุนเป็นอย่างดี ผมขอขอบคุณ“ท่านเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญและจัดสรรงบประมาณในการจัดงานมายังจ.กำแพงเพชร ในการที่ส่งเสริมและสนับสนุนด้านกีฬามวย ในครั้งนี้”

นายไผ่กล่าวอีกว่า การจัดการแข่งขัน “ศึกคนแกร่งมวยไทยเมืองชากังราว” และการแข่งขัน MR.FIGHT ON TOUR จะเกิดขึ้น โดยประชาชนสามารถเข้าชมได้ในระหว่างวันที่ 23-24 สิงหาคม 2567 เวลา 18.00 น ณ เวทีมวยชั่วคราว หน้าลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2567