โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“สส. อัครแสนคีรี” จี้ รัฐ เปิดเผยต้นทุนนำเข้าก๊าซผลิตไฟฟ้า พร้อม ถาม เกษตร-คนหาเช้ากินค่ำ เป็นกลุ่มคนเปราะบางหรือไม่ หลัง ครม.เคาะตรึงราคาค่าไฟ

,

“สส. อัครแสนคีรี” จี้ รัฐ เปิดเผยต้นทุนนำเข้าก๊าซผลิตไฟฟ้า พร้อม ถาม เกษตร-คนหาเช้ากินค่ำ เป็นกลุ่มคนเปราะบางหรือไม่ หลัง ครม.เคาะตรึงราคาค่าไฟ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาว่า ขณะนี้ ประเทศไทยมีการปรับขึ้นค่าไฟหลายรอบ ซึ่งเคยขึ้นสูงสุดแตะที่ 4.78 บาท/หน่วย และล่าสุดทางคณะรัฐมนตรีได้ เรื่องค่าไฟไม่เกิน 4.20 บาท/หน่วย รวมถึงตรึงราคาค่าไฟสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ 3.99 บาท/หน่วย ตนมีข้อสงสัยและข้อเสนอแนะว่า เรื่องราคาก๊าซที่ประเทศไทยจัดหาที่มีบริษัท ปตท.จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อนำมาจำหน่ายให้โรงไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้ากว่า 55 % เป็นโรงไฟฟ้าประเภทก๊าซ ดังนั้น คณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ ได้สั่งให้ ปตท. ปรับลดค่าก๊าซธรรมชาติจากการผลิตไฟฟ้าจาก 323 บาท/หน่วย เหลือไม่เกิน 304 บาทต่อล้านบีทียู

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงควรเปิดเผยรายละเอียดการนำเข้าต้นทุนก๊าซ เพื่อให้ประชาชนทราบว่ายังสามารถปรับลดค่าก๊าซได้อีกหรือไม่ และสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ ครม.ได้ตรึงค่าไฟนั้น อยากทราบว่ากลุ่มเกษตรกรและคนหาเช้ากินค่ำมีสิทธิ์หรือไม่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2566

“สส. ตรีนุช” เผย “พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อร้องเรียนของ ปชช.ที่ จ.เพชรบูรณ์-หนองคาย วันที่ 8 และ 12 ม.ค.67

,

“สส. ตรีนุช” เผย “พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงพื้นที่รับฟังปัญหาและข้อร้องเรียนของ ปชช.ที่ จ.เพชรบูรณ์-หนองคาย วันที่ 8 และ 12 ม.ค.67

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการด้านกิจกรรมสัมพันธ์ กล่าวว่า พรรคมีแนวคิดในการจัดพรรคสัญจร เพื่อลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาต่างๆ ของประชาชนในแต่ละพื้นที่ โดยในวันที่ 8 ม.ค.67 จะลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ มอบโฉนดที่ดิน โดย พล.อ.ประวิตรและพรรคจะไปดูเรื่องน้ำและที่ดินทำกิน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้ทำมาตลอด และ พล.อ.ประวิตรให้ความสำคัญตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง และนับตั้งแต่เดือน ม.ค.67 จะมีการขับเคลื่อนเรื่องแปลง ส.ป.ก. เป็นโฉนด หัวหน้าพรรคจึงต้องการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหา อุปสรรค และข้อร้องเรียน โดย จ.เพชรบูรณ์ มีเรื่องร้องเรียนค่อนข้างมาก

“พล.อ.ประวิตร ต้องการไปรับฟังปัญหาต่าง ๆ เพื่อให้การทำงานในรัฐบาลที่ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างราบรื่น และในวันที่ 12 ม.ค.67 จะลงพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อไปติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส” นั่งประธานแก้ปัญหาประมงทะเลเห็นชอบเพิ่มวันทำประมงสูงสุด 50 วัน 
เตรียมเดินหน้าโครงการแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน มุ่งแก้หนี้พี่น้องเกษตร

,

“รมว.ธรรมนัส” นั่งประธานแก้ปัญหาประมงทะเลเห็นชอบเพิ่มวันทำประมงสูงสุด 50 วัน

เตรียมเดินหน้าโครงการแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน มุ่งแก้หนี้พี่น้องเกษตร

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาประมงทะเล ครั้งที่ 2/2566 โดยมีนายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการเพิ่มวันทำการประมงให้กับเรือที่ใช้เครื่องมือประสิทธิภาพสูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระหนี้สินของชาวประมง รวมถึงเป็นการนำสัตว์น้ำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามค่าปริมาณสัตว์น้ำที่ได้รับอนุญาตทำการประมง ปีการประมง 2566 โดยแบ่งเป็น 1)ฝั่งอ่าวไทย กลุ่มเครื่องมือทำการประมงสัตว์หน้าดินเพิ่มวันทำการประมง 50 วัน กลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลาผิวน้ำเพิ่มวันทำการประมง 50 วัน และกลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลากะตักเพิ่มวันทำการประมง 30 วัน 2)ฝั่งอันดามัน กลุ่มเครื่องมือทำการประมงสัตว์หน้าดินเพิ่มวันทำการประมง 20 วัน กลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลาผิวน้ำเพิ่มวันทำการประมง 30 วัน และกลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลากะตักเพิ่มวันทำการประมง 50 วัน ซึ่งการจัดสรรวันทำการประมงเพิ่มเติมสำหรับเรือประมงแต่ละลำขึ้นอยู่กับจำนวนวันทำการประมงที่เหลืออยู่ของเรือประมงลำนั้น นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) กฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับภาคการประมง จำนวน 9 ฉบับ พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการออกประกาศกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องชาวประมงอีกด้วย

ทั้งนี้ รมว.ธรรมนัส ได้ให้ความสำคัญกับการกำจัดกลไกการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมายสู่ราชอาณาจักรไทย โดยกำชับการเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการตรวจสอบสินค้านำเข้า และการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าประมงตกต่ำ พร้อมทั้งเตรียมจัดทำโครงการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน โดยมอบหมายให้กรมประมงหารือร่วมกับพี่น้องชาวประมงทั้งประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน เพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2566

“ส.ส.ปริญญา ฤกษ์หร่าย” งานวันกีฬาแห่งชาติ ปี 2566 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมสัมมนา ทิศทางกีฬาไทย ณ อาคารรัฐสภา

, ,

“ส.ส.ปริญญา ฤกษ์หร่าย” งานวันกีฬาแห่งชาติ ปี 2566 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมสัมมนา ทิศทางกีฬาไทย ณ อาคารรัฐสภา

18 ธค 2566 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สมาชิกสภาผู้แทยราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกีฬาชุดที่ 26 พร้อมด้วยที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ นายพรรษศรณ์ สาครเสถียร ร่วมงาน ทิศทางกีฬาไทย
ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 ธค 66 ณ.กิจกรรมชั้น B1 อาคาร รัฐสภา เพื่อสร้างโอกาสทางกีฬาให้กับเยาวชน และผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้มีการมอบเกียรติบัตร แก่ ผู้ที่มีส่วน ร่วมสนับสนุนงานของ คณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภาด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 ธันวาคม 2566

“ส.ส.พปชร.นราธิวาส” ลงพื้นที่ปาเสมัส สุไหงโก-ลก นำถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำพล.อ.ประวิตร-เลขาฯ ห่วงใยปชช.สั่งการช่วยเหลือ ติดตาม-เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

,

“ส.ส.พปชร.นราธิวาส” ลงพื้นที่ปาเสมัส สุไหงโก-ลก นำถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำพล.อ.ประวิตร-เลขาฯ ห่วงใยปชช.สั่งการช่วยเหลือ ติดตาม-เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

18 ธค 2566 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.เขต 3 จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ ร่วมกับนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.เขต 2 จ.นราธิวาส นำถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียนมัสยิด และสถานที่ราชการ ใน 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลปาเสมัส และตำบลสุไหงโก-ลก ซึ่งพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีจำนวน 5 หมู่บ้าน มี 399 ครัวเรือน หรือ 2,067 คน ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

“จากเหตุการณ์ที่เกิดสร้างผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ได้สั่งการให้ส.ส.สัมพันธ์ และผมลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนและติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด พร้อมไปกับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ“ นายอามินทร์กล่าว

โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จะเข้าไปช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1. ต. ปาเสมัส หมู่ที่ 2 บ้านตือระ จำนวน 15 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 55 คน หมู่ที่ 3 บ้านกวาลอซีรา จำนวน 118 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 445 คน หมู่ที่ 4 บ้านมือบา จำนวน 64 ครัวเรือน ราษฏรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 315 คน หมู่ที่ 5 บ้านน้ำตก จำนวน 176 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,056 คน หมู่ที่ 7 บ้านกวาลอซีรอออก จำนวน 26 ครัวเรือน ราษฏรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 196 คน

2. ตำบลสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย – ชุมชนบือเร็ง จำนวน 10 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 43 คน ชุมชนบือเร็งใน จำนวน 20 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 92 คน ชุมชนโปฮงยามู จำนวน 180 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 810 คน ชุมชนท่าประปา จำนวน 83 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 381 คน ชุมชนท่าโรงเลื่อย จำนวน 70 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 322 คน ชุมชนท่ากอไผ่ จำนวน 30 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 138 คน ชุมชนหัวสะพาน จำนวน 86 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 387 คน ชุมชนกือดาบารู จำนวน 20 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 91 คน ชุมชนเสาสัญญาณ จำนวน 89 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 401 คน

สถานที่ราชการ/ศาสนสถาน ได้รับผลกระทบ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย
1.โรงเรียนบ้านตือระ หมู่ที่ 2 ตำบลปาเสมัส
2. ด่านกักกันสัตว์ หมู่ที่ 3 ตำบลปาเสมัส
3.โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง หมู่ที่ 2 ตำบลมูโนะ
4.มัสยิดการีลมาติลอุลยา หมู่ที่ 5 ตำบลปาเสมัส

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 ธันวาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร -รมว.ธรรมนัส” ห่วงใยพี่น้องชาวใต้เผชิญอุทกภัย ส่งทีมสส.พปชร.นราธิวาส รุดเข้าช่วยเหลือปชช. 3 จ.ชายแดนใต้

,

“พล.อ.ประวิตร -รมว.ธรรมนัส” ห่วงใยพี่น้องชาวใต้เผชิญอุทกภัย
ส่งทีมสส.พปชร.นราธิวาส รุดเข้าช่วยเหลือปชช. 3 จ.ชายแดนใต้

17 ธ.ค. 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ติดตามสถานการณ์พายุฝน เข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากมีความห่วงใยในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะจ.ยะลา และจ. นราธิวาส จ.สงขลา และปัตตานี โดยได้ประสานงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ เลขาธิการพรรค นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.เขต 3 จ.นราธิวาส นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.เขต 2 จ.นราธิวาส เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือ ผ่านทีมงานสส.ในพื้นที่พปชร.อย่างต่อเนื่อง

โดยในวันนี้ สส.สัมพันธ์ และสส.อามินทร์ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปีนี้ พายุฝนตกชุกเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในวันนี้ ก็เตรียมระดมทีมเจ้าหน้าที่ ส่งถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชนในจ.นราธิวาส พร้อมสอบถามปัญหาความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 ธันวาคม 2566

“สส. สัมพันธ์” เผย กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯตั้ง 2 อนุ กมธ.เร่ง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน พร้อมติดตามโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

,

“สส. สัมพันธ์” เผย กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯตั้ง 2 อนุ กมธ.เร่ง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน พร้อมติดตามโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่ คณะ กมธ. ได้พิจารณาประเด็นหนี้ กยศ. หนี้สินเกษตรกร และหนี้นอกระบบ โดยได้เดินทางไปศึกษาดูงาน จำนวน 1 ครั้ง เรื่อง “การสร้างรายได้เพื่อลดปัญหาหนี้สิน ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา โดย กมธ.มีมติให้ตั้งคณะ อนุ กมธ. 2 คณะ คือ 1. คณะอนุ กมธ.ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน เนื่องจากปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ และ 2.คณะอนุ กมธ. พิจารณาศึกษาปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการและยั่งยืน ขึ้นเพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตลอดจนการติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน 120 วัน และจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาต่อคณะ กมธ. และสภาผู้แทนราษฎร

นายสัมพันธ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กมธ.ได้กำหนดวาระการประชุมวันที่ 20 ธ.ค.66 โดยพิจารณา 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1. ติดตามการดำเนินงานโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft loan) โดยเชิญตัวแทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง 2. ปัญหาการบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้ของพื้นที่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัด ยะลา โดยเชิญตัวแทนจาก กรมป่าไม้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลอัยเยอร์เวง และ 3. ติดตามประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. 2548 ตามความตกลงระหว่างประเทศ โดยเชิญ กระทรวงคมนาคม มาร่วมประชุม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

เปิดแล้ว เทศกาล “หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ” “พัชรวาท” เชิญชวนท่องเที่ยวอุทยานไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันสร้างรายได้ แบบ Quick – Win หวังไตรมาสสุดท้าย ดึงยอด นทท.ต่างชาติ 28 ล้านคน โกยรายได้สู่ชุมชน

,

เปิดแล้ว เทศกาล “หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ” “พัชรวาท” เชิญชวนท่องเที่ยวอุทยานไทย กระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันสร้างรายได้ แบบ Quick – Win หวังไตรมาสสุดท้าย ดึงยอด นทท.ต่างชาติ 28 ล้านคน โกยรายได้สู่ชุมชน

วันนี้ 15 ธันวาคม 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดงานเทศกาล “หนาวนี้ เที่ยวอุทยานแห่งชาติ National Parks Winter Festival” บริเวณโถงห้องที่ 1 อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย โดยมีพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ร่วมกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และผู้บริหารของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า การจัดงานหนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ National Parks to Remember Winter Festival เพื่อเป็นการรองรับนโยบายของรัฐบาล ในการกระตุ้นเศรษฐกิจผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวในระยะสั้น Quick – Win ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ให้ได้ 28 ล้านคน ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์พืช ได้จัดเตรียมความพร้อมในเรื่องของสถานที่ ความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ตามวิสัยทัศน์ที่ว่า “ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ตามแนววิถีใหม่ ภายใต้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ยั่งยืน”

นายอรรถพลกล่าวว่า อุทยานแห่งชาติมีคุณค่าความงดงามและความโดดเด่นของทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย จึงมีศักยภาพสูงสำหรับใช้เป็นฐานในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เป็นการสร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น เกิดการกระจายรายได้สู่ชนบท รวมถึงเศรษฐกิจต่อชุมชนท้องถิ่นและในระดับชาติ สำหรับงาน “หนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ National Parks to Remember Winter Festival” มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติทางภาคเหนือตอนบน และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาท ภารกิจด้านการท่องเที่ยวของ
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สาธารณชนได้รับทราบ

สำหรับการจัดงานที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ส่วนหนึ่งเป็นการหวลรำลึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 13 หมูป่าติดถ้ำ การเสียสละของจ่าแซมวีรบุรุษถ้ำหลวง อีกทั้งจังหวัดเชียงรายอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศไทย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านศิลปะ ประเพณีวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ในรูปแบบล้านนา ไทใหญ่ ไทเขิน ไทลื้อจากสิบสองปันนาผสมผสานกัน เป็นเมืองแห่งศิลปะ และมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง ภายในงานนอกจากจะมีพิธีระลึกถึงนาวาตรีสมาน กุนัน (จ่าแซม) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร (ผู้ว่าฯ หมูป่า) และนายดวงเพชร พรหมเทพ (น้องดอม) ยังมีกิจกรรมเปิดการท่องเที่ยวถ้ำหลวง บริเวณโถงที่ 2 และ 3 การมอบเกียรติบัตรแก่ผู้นำเที่ยวท้องถิ่น การออกร้านค้า ร้านอาหาร และนิทรรศการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ในช่วงฤดูหนาวนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

,

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเปิดงานเทศกาลหนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้มีโอกาสพบปะหารือกับนายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ว่าฯ มาร่วมงานดังกล่าว จึงได้ใช้โอกาสนี้หารือเกี่ยวกับข้อห่วงใยเรื่องของไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ที่เชียงราย ซึ่งได้กำชับกับรองผู้ว่าฯและฝากถึงผู้ว่าฯ ให้ช่วยกันตรวจตรา เรื่องการเผาเรือกสวนไร่นาของประชาชน เพราะขณะนี้เข้าใกล้ช่วงของการเตรียมพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมในฤดูกาลที่จะมาถึงอาจจะมีการเผามากยิ่งขึ้น จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในวงกว้าง

นอกจากนี้ตนได้รับการรายงานข้อมูลจาก จิสด้า พบว่าพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีจุด Hotsport เกิดขึ้นจากการเผานาข้าว แม้ว่าจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องก็ยังพบว่ามีการเผาอยู่ ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือทางจังหวัดให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะมีอำนาจในการสั่งการแก้ปัญหา อีกทั้งมีข้อมูลจากดาวเทียมชี้พิกัดที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเกิดบริเวณไหน อย่างไร เชื่อว่าจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที อย่างไรก็ตามก็อยากขอร้องพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือหยุดการเผา เพราะปัญหานี้จะแก้ไขได้ทุกฝ่าย ต้องช่วยกันจึงจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันตนได้มีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว และเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินยุทธศาสตร์ฟ้าใส ลดการเผาพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า และร่วมกันให้ข้อมูลกับประชาชนให้ตระหนักปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัญหานี้ต้องจับมือกันแก้ไข เพื่อสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชนของเรา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“กระแสร์” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส” แทนชาวหนองคาย หลัง มอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศ

,

“กระแสร์” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส” แทนชาวหนองคาย หลัง มอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศ

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองคายต้องขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มาตรวจเยี่ยม พบปะเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายเรื่องการปฏิรูปที่ดินการเกษตรและสหกรณ์ อีกทั้งยังได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร จำนวน 30 ราย และมอบเมล็ดพันธุ์ผักและต้นกล้าผักให้กับตัวแทนชุมชน รวมถึงมอบเงินโครงการเกษตรกรชาวสวนยางต้นแบบด้วยเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อยกระดับด้วยเศรษฐกิจฐานราก

“ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงเรื่องปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรให้ประชาชนเข้าใจ และท่านยังหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนชาวตำบลหาดคำ ที่เข้าพบเพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดิน หลังจากอาศัยอยู่ในที่ดินดังกล่าวมานาน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่กระทรวงเกษตรฯได้ดำเนินนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร เพราะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสิทธิและแหล่งทุนมากขึ้น รวมทั้งมีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพตามศักยภาพของพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย“นายกระแสร์ กล่าว

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า อีกนโยบายหนึ่งที่น่าชื่นชมก็คือ จุดบริการรับยื่นคำร้องขอออกโฉนดเพื่อการเกษตร ที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนมีที่ปรึกษาและเข้าใจในเรื่องกฎหมายได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ โฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐบาลแจกในครั้งนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นสำคัญของเกษตรกรทั่วประเทศอย่างแท้จริง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่เขตหนองจอก แก้ ‘จน เจ็บ เจ๊ง’ ให้พี่น้องเกษตรกร เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ข้าวปลูกได้ทั้งปี อายุเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน

,

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่เขตหนองจอก แก้ ‘จน เจ็บ เจ๊ง’ ให้พี่น้องเกษตรกร เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ข้าวปลูกได้ทั้งปี อายุเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะและรับฟังปัญหาจากเกษตรกร สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และสภาเกษตรกรกรุงเทพมหานคร พร้อมหว่านข้าวในแปลงนา โดยใช้โดรนเป็นนวัตกรรมใหม่ และปลูกต้นไม้มงคล ณ โรงสีข้าวชุมชน หมู่ 6 ก้าวหน้า คลองสิบสอง เขตหนองจอก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ ในเดือนเมษายน ปี 2567 ครอบคลุมข้าวหลายชนิด เช่น ข้าวพื้นนุ่ม ข้าวหอม ข้าวบาเล่ ข้าวสาลี และข้าวญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งทั้ง 8 สายพันธุ์ เป็นพันธุ์ที่สามารถปลูกได้ทั้งปี มีอายุการเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน เป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวในเขตภาคกลางทั้งหมดจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์สำหรับรองรับความต้องการ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่นาปรังทั้งหมด ประมาณ 6 ล้านไร่ อีกทั้งยังต้องการให้รับรองข้าวเจ้าหอม มช 10-1 ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเป็นข้าวที่มีระยะเวลาการปลูกน้อย ผลผลิตเยอะ และมีความเป็นข้าวหอมมะลิถึง 92% มีกลิ่มหอม นุ่ม และรูปทรงสวยงาม ปัจจุบันสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรีอยู่ระหว่างการทดลองและปรับปรุงพันธุ์ เพื่อเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการรับของกรมการข้าวต่อไป

นอกจากนี้ ยังรับฟังและหาแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ และราคาข้าว ที่กระทรวงเกษตรฯ จะต้องหามาตรการช่วยเหลือให้พี่น้องชาวนามีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ เขตหนองจอกเป็นเขตที่มีขนาดใหญ่สุดใน กทม. สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นท้องทุ่งและเกษตรกรรม มีลำคลองไหลผ่านหลายสาย มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี ตามที่ตั้งแปลง ปี 2566/67 เขตหนองจอก จำนวน 2,047 ครัวเรือน พื้นที่ 49,485 ไร่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

,

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.เขต1 แม่ฮ่องสอน พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแปลงสปก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตกร ของ จ.แม่ฮ่องสอนว่า จะมีพี่น้องประชาชนได้รับโฉนดในรอบแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ประมาณ 150 แปลง หรือ ประมาณ 150 ครอบครัว ที่ถือครองที่ดินเพื่อทำการเกษตรอยู่หลายร้อยไร่ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคง สามารถนำที่ดินไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ยิ่งขึ้น ภายใต้การขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ไว้ และยังเป็นการสานต่อนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศ
ทั้งนี้พื้นที่ สปก.4-01 ที่จะได้การแปลงเป็นโฉนดนั้น เป็นพื้นที่ ๆ เกษตรกรได้รับหนังสือเอกสารสิทธิ และประกอบอาชีพอยู่แล้ว ซึ่ง สปก.จังหวัดได้ทำการพิสูจน์สิทธิเสร็จสิ้นในกลุ่มแรก และอยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิในกลุ่มทั้งหมด 3,966 ราย ที่ถือครองที่ดินถึง 4,885 แปลง คิดเป็น 15,349 ไร่ ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนแปลงเป็นโฉนดต่อไป

“ที่ผ่านมา ผมได้ประสานงานกับสปก.จังหวัดอย่างใกล้ชิด และได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรในการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบปฎิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถรักษาสิทธิ และนำไปสู่กระบวนการพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว ตามแนวทางที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้มีข้อสั่งการให้ สส.ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน” นายปกรณ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566