section-00f5b43

section-974dd12

Featured News

section-eb7be72

Latest News

คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ของฝ่ายการเมือง

ข่าวประชาสัมพันธ์, สื่อออนไลน์

คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ของฝ่ายการเมือง

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า “ตามที่พรรคการเมืองบางพรรค ได้เตรียมนำเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เพื่อแก้ไขสาระสำคัญของ พระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๑ นั้น

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พรรคพลังประชารัฐ  มีความเห็นว่า สาระสำคัญของร่าง พระราชบัญญัติดังกล่าว มุ่งเน้นไปที่ มาตรา ๒๕ เพื่อให้ฝ่ายการเมือง มีอำนาจเหนือผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล โดยกล่าวอ้างว่า มีการเล่นพรรคเล่นพวก ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้ว ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บังคับบัญชาในทุกระดับ ย่อมจะต้องรู้จักศักยภาพและประสิทธิภาพของกำลังพลใต้การบังคับบัญชาดีกว่า ฝ่ายการเมือง ซึ่งเข้ามามีอำนาจเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง และหมุนเวียนเปลี่ยนไป ตามกลไกของการเลือกตั้ง

ที่สำคัญภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๖๐ หมวด ๒ พระมหากษัตริย์ มาตรา ๘ ได้เขียนเอาไว้ชัดเจนว่า “ พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย” และตามมาตรา ๒๗ ของพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๑ ได้กำหนดเอาไว้ชัดเจนว่า “ การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลดำรงตำแหน่งให้นำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง” ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่า เนื้อหาของ มาตรา ๒๗ ของพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๑ นั้น สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพพิจารณา การแต่งตั้งและโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล แล้วนำความขึ้นกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์ ที่ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย โดยไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองเข้าแทรกแซง

นอกเหนือจากนั้น ตามมาตรา ๑๐ ของพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๖  ได้กำหนดเอาไว้ว่า “ กระทรวงกลาโหมมีส่วนราชการดังต่อไปนี้
(๑) สำนักงานรัฐมนตรี
(๒) สำนักงานปลัดกระทรวง
(๓) กรมราชองครักษ์
(๔) หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
(๕) กองทัพไทย

ซึ่งนั่นหมายความว่าเจตนาของพรรคการเมืองที่ยกร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม เพื่อฝ่ายการเมือง เข้ามามีอำนาจเหนือกองทัพนั้น จะมีอำนาจเหนือ ตาม(๓)(๔) ซึ่งเป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง

พรรคพลังประชารัฐ เห็นว่า การเสนอร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบกระทรวงกลาโหมของพรรคการเมืองนั้น จะเป็นการบั่นทอนให้กองทัพอ่อนแอลง และจะนำกองทัพ ไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น
จึงขอคัดค้าน อย่างถึงที่สุด”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 ธันวาคม 2567

“บิ๊กป้อม” ค้านขึ้น VAT 15% ลั่นข้าวของแพง อย่าซ้ำเติม ปชช.

ข่าวประชาสัมพันธ์, สื่อออนไลน์

“บิ๊กป้อม” ค้านขึ้น VAT 15% ลั่นข้าวของแพง อย่าซ้ำเติม ปชช.

ทำเนียบ 7 ธ.ค.- โฆษกพรรคพลังประชารัฐ เผย “บิ๊กป้อม” ค้านขึ้น VAT 15% ชี้รัฐบาลควรศึกษาเศรษฐกิจไทย ลั่นข้าวของแพง อย่าซ้ำเติมประชาชน

พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตามที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศกลางเวทีในงานสัมมนาหนึ่งว่า รัฐบาลมีแนวคิดปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เป็น 15% และปรับภาษีเงินได้นิติบุคคล 15% นั้น ในประเทศไทยได้กำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ที่ 10% ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2540 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในขณะนั้น เห็นว่า อัตราดังกล่าว สูงเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับ สภาวะทางเศรษฐกิจและรายได้ประชาชนตลอดจนบริบทของสังคมไทย จึงได้ออกพระราชกฤษฎีกาลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% เป็นประจำทุกปี โดยที่ภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 ใน 9 ที่เก็บได้ จะถูกโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และที่เหลืออีก 8 ส่วนจะถูกโอนให้แก่รัฐบาล ซึ่งทุกรัฐบาลได้ดำเนินการคงภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรานี้มาโดยตลอด

โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยังกล่าวว่ารัฐบาลควรจะต้องศึกษาระบบเศรษฐกิจของไทยให้มากกว่านี้ ตอนนี้ชาวบ้าน จะอดตายอยู่แล้ว ทุกวันนี้ข้าวของก็แพงจะมาเพิ่มภาษีส่วนนี้อีก ราคาสินค้า บริการต่างๆ จะแพงมากขึ้นอีก อย่าซ้ำเติมประชาชนอีกเลย การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้มีรายได้น้อย คนหาเช้ากินค่ำ เด็กนักเรียนนักศึกษา ตลอดจนคนพิการ และผู้ยากไร้ต่างๆ เนื่องจากเป็นผู้บริโภคมีฐานะเป็น end user ซึ่งต้องแบกรับภาระการจ่ายภาษี ภาวะเศรษฐกิจที่ประชาชนมีความเดือดร้อนเช่นนี้รัฐบาลไม่ควรขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

นอกจากนี้ การเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม จะไม่มีผลกระทบต่อนายทุนหรือเจ้าสัว เพราะนายทุนหรือผู้ประกอบการสามารถหักภาษีซื้อภาษีขายไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด แต่เป็นการผลักภาระ การหารายได้ให้แก่รัฐบาลไปยังคนจนคนมีรายได้น้อย เปรียบเสมือนกับปล้นคนจน เอื้อคนรวย เป็นการผลักภาระมาให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรหาแนวทางและมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสม กับสภาพเศรษฐกิจและบริบทของสังคมไทย ไม่ใช่ไปลอกแบบจากต่างประเทศเหมือนลอกข้อสอบ ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก การจัดเก็บภาษีจากเศรษฐกิจดิจิทัล ภาษีกลุ่มฟุ่มเฟือย หรือภาษีกลุ่มคนรวย หรือเก็บภาษีกลุ่มคนมั่งคั่งจะดีกว่า การปรับปรุงประสิทธิภาพและพัฒนาโครงสร้าง การจัดเก็บภาษี ซึ่งยังมีการประกอบธุรกิจหรือกิจการบางอย่างที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบภาษี การขยายฐานภาษี และการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่รัฐ ยังดีกว่าการผลักภาระให้แก่คนทั้งประเทศ ดังนั้นรัฐบาลต้องวางแผนและตัดสินใจให้รอบคอบ

“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะค้านการขึ้น VAT15% และจะพิจารณานำเรื่องนี้ เข้าคณะทำงานศูนย์วิชาการและนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ เพื่อหาแนวทางและวิธีการที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย และจะไม่ทอดทิ้ง พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ระบุ.-316-สำนักข่าวไทย

ที่มา: สำนักข่าวไทย https://tna.mcot.net/
วันที่: 7 ธันวาคม 2567

Mass media

Compaign 2019

คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ของฝ่ายการเมือง

ข่าวประชาสัมพันธ์, สื่อออนไลน์

คัดค้าน ร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ของฝ่ายการเมือง พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า “ตามที่พรรคการเมืองบางพรรค .

ธีระชัย-หม่อม กร ชี้ MOU ปี 2544 โมฆะ ฟาดรัฐบาลทำขั้นตอนผิด เสี่ยงเสียดินแดน

ข่าวประชาสัมพันธ์, สื่อออนไลน์

ธีระชัย-หม่อม กร ชี้ MOU ปี 2544 โมฆะ ฟาดรัฐบาลทำขั้นตอนผิด เสี่ยงเสียดินแดน (วันที่ .

“เลขาฯพปชร.เตรียมดำเนิน คดีแพ่ง-อาญา บุคคลทั้งที่เคยและไม่เคยเป็นสมาชิกพรรค ที่พูดพาดพิงให้ชื่อเสียงพรรคและบุคคลในพรรคเสียหาย ย้ำ เอาผิดให้ถึงที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์, สื่อออนไลน์

“เลขาฯพปชร.เตรียมดำเนิน คดีแพ่ง-อาญา บุคคลทั้งที่เคยและไม่เคยเป็นสมาชิกพรรค ที่พูดพาดพิงให้ชื่อเสียงพรรคและบุคคลในพรรคเสียหาย ย้ำ เอาผิดให้ถึงที่สุด วันนี้(29 พ.ย.)นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ .