โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

“พล.อ.ประวิตร” ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ชุดใหม่ สอดคล้องการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง

,

“พล.อ.ประวิตร” ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ชุดใหม่
สอดคล้องการเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง

เมื่อวันที่ 16 ส.ค.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามในคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ 115/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ โดยเห็นสมควรให้มีการปรับปรุงยุทธศาสตร์ นโยบายและแนวทางการดำเนินงานของพรรคให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยเฉพาะสภาวะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากวิกฤตทางด้านต่างๆ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี สารสนเทศที่ส่งผลกระทบต่อประชาคมโลก และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในการเรียนรู้ ผ่านช่องทาง สื่อสารออนไลน์ การครอบงำทางความคิด การสร้างทัศนคติ และการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ที่เป็นปัจจัยสำคัญทางการเมือง

ทั้งนี้ได้อาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ. 2561 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 5 พ.ศ.2566 ข้อ 17(1) (จ) (ช) จึงให้ยกเลิกคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ตามบัญชีแนบท้าย และให้แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ดังนี้
1.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานกรรมการ
2.ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า
3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ฃฃ
4.นายวิรัช รัตนเศรษฐ
5.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
6.นายไพบูลย์ นิติตะวัน
7.นางสาวตรีนุช เทียนทอง
8.ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
9.พลเอกกฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์
10.นายอภิชัย เตชะอุบล
11.นายสกลธี ภัททิยกุล
12.พลเอกณัฐ อินทรเจริญ
13.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
14.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
15.นายอุตตม สาวนายน
16.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
17.พลตำรวจเอกธรรมศักดิ์ วิชชารยะ
18.นายนพดล พลเสน
19.นายคณิศ แสงสุพรรณ
20.หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี
21.นายชาญกฤช เดชวิทักษ์
22.นายวราเทพ รัตนากร
23.นายบุรินทร์ สุขพิศาล

โดยมีหน้าที่และอำนาจดังนี้
1. กำหนดยุทธศาสตร์ นโยบายและแนวทางการดำเนินงานของพรรคพลังประชา รัฐให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคตเพื่อตอบสนองต่อ การพัฒนาประเทศ

2.กำหนดบทบาท ท่าทีและจุดยืนทางการเมืองของพรรค ทิศทางและแนวทางในการพัฒนาพรรค บุคคลากรของพรรค สมาชิกพรรค และการบริหารจัดการภายในพรรค เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพและเป็นที่ยอมรับเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน โดยให้สมาชิกพรรคและประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคอย่างเข้มแข็งและเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมโดยตรง

3.ให้ความเห็นชอบ สั่งการ และติดตามประเมินผล กิจกรรมและแผนงานโครงการที่มอบหมายให้คณะกรรมการด้านต่างๆไปดำเนินการ รวมทั้งกิจกรรมของพรรคที่ดำเนินการร่วมกับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก การเสริมสร้างความข้มแข็งทางเศรษฐกิจภาพรวม การดูแลความเป็นอยู่และสวัสดิการของประชาชน การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรคและประชาชน และการสร้างความนิยมทางการเมือง รวมทั้งการเสริมสร้างภาพลักษณ์ด้วยการสื่อสารและประชาสัมพันธ์สมัยใหม่

4.แต่งตั้งคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน ที่ปรึกษา หรือผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อช่วยเหลือในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ

5.รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการต่อหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค

และ 6.ดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการและปฏิบัติงานอื่นตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร”เผย ตัวเลขหนี้นอกระบบลดลงต่อเนื่อง หลังเดินหน้าปราบเชิงรุก เชื่อ แก้ปัญหาได้ยั่งยืน พร้อมจัดหาแหล่งทุน ยกระดับพัฒนาทักษะ สร้างอาชีพมั่นคงให้ ปชช.ที่มีรายได้น้อย

,

“พล.อ.ประวิตร”เผย ตัวเลขหนี้นอกระบบลดลงต่อเนื่อง หลังเดินหน้าปราบเชิงรุก เชื่อ แก้ปัญหาได้ยั่งยืน
พร้อมจัดหาแหล่งทุน ยกระดับพัฒนาทักษะ สร้างอาชีพมั่นคงให้ ปชช.ที่มีรายได้น้อย

15 สิงหาคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงปัญหาหนี้นอกระบบ ที่เป็นเหมือนทุกข์กองโตของประชาชน ทำให้หลายครอบครัวต้องใช้ชีวิตทนทุกข์ จมกับกองหนี้มานาน สุดท้ายไม่เหลือแม้แต่บ้านเรือน ทรัพย์สิน และที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบจึงเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญสำหรับการบริหารประเทศของรัฐบาล ที่ต้องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และขาดโอกาสที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มอิทธิพลมานาน โดยเฉพาะเจ้าหนี้นอกระบบ

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ตนได้ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ลงไปช่วยดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบที่มีมากขึ้น จากกลุ่มนายทุนฉวยโอกาสปล่อยกู้เก็บดอกโหด และส่งแก๊งค์ทวงหนี้เหิมเกริม ข่มขู่และใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้หาเช้ากินค่ำ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมบั่นทอนชีวิตครอบครัวผู้มีรายได้น้อย รวมถึงทุกภาคส่วนราชการที่พยายามขับเคลื่อนแก้ปัญหาทั้งการเจรจาไกล่เกลี่ย และการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนของตำรวจซึ่งบังคับใช้กฎหมายสามารถไกล่เกลี่ย และส่งคืนทรัพย์สินให้กับประชาชนได้จำนวนมาก

“เราต้องเข้าใจว่า ปัญหาหนี้นอกระบบฝั่งรากลึกในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่รอการช่วยเหลือ ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่ยังคงต้องเร่งทำงาน เพื่อเดินหน้าเข้าไปปลดล็อกปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยกับดักความยากจนของสังคมที่สำคัญที่จำเป็นต้องติดตาม รวมทั้งประสานการให้โอกาสและการช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่องกันไปให้สามารถกลับมายืนเข้มแข็งไปด้วยกัน”พล.อ.ประวิตร กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร มองว่า การดำเนินการเพื่อปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ตนจึงได้ประสานไปยัง กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน เพื่อเข้าไปร่วมเสริมการจัดหาแหล่งทุน และพัฒนาทักษะอาชีพให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงโอกาสได้เป็นการช่วยสร้างความเข้มแข็งของผู้มีรายได้น้อยและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 สิงหาคม 2566

“อัครแสนคีรี” วอนหน่วยงานที่ เร่งแก้ปัญหาทางหลวงชำรุด-ออกโฉนดที่ดินทำกิน บรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชาวชัยภูมิ

,

“อัครแสนคีรี” วอนหน่วยงานที่ เร่งแก้ปัญหาทางหลวงชำรุด-ออกโฉนดที่ดินทำกิน บรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องชาวชัยภูมิ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือถึงเรื่องทางหลวงแผ่นดิน โดยได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ว่า ได้รับความเดือดร้อนในการใช้ถนนทางหลวงแผ่นดินในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ หมายเลข 2054 จาก แยกลาดใหญ่ไปยังแยก ช่องสามหมอ และ ทางหลวงหมายเลข 2389 จากเขต เทศบาลแก้งคร้อไปยังบ้านสัมภาษณ์ อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณการใช้ถนนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบรรทุกขนาดใหญ่ซึ่ง บรรทุกพืชผลทางการเกษตร ส่วนมากทำให้ถนนทางหลวงสองเส้นนี้ ซึ่งมีอายุการใช้งานมานาน เกิดความชำรุดทรุดโทรม และที่สำคัญไม่มีไหล่ทาง ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ในระยะเวลาหลาย 10 ปีที่ผ่านมา

“ผมขอฝากไปยังกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามถึงแผนพัฒนา ทางหลวงแผ่นดินเส้นทางดังกล่าว ในระยะสั้น และระยะยาว เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้นำข้อมูลไปประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชน และประสานงานการปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาไขความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชนให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป”นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศเรื่องที่ดินทำกิน เนื่องได้ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ และเขตป่าสงวน เขตป่าไม้ รวมถึงพื้นที่ในความรับผิดชอบของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินหรือ สปก.มาเป็นเวลานาน แต่ประชาชนที่ทำกินและอาศัยอยู่บนที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือหนังสือรับรองการครอบครองที่ดิน ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการพัฒนาพื้นที่ทำกิน และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน หรือสร้างรายได้ในพื้นที่ดังกล่าวได้ ตนจึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเร่งรัดในการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน รวมถึงการเปลี่ยน สปก.เป็นโฉนด เร่งรัดรังวัดที่ดินต่างๆ ที่มีปัญหาด้านโฉนดตกหล่น เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งจะสามารถสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ ครอบครัวชุมชน และประเทศชาติโดยรวมอย่างยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 สิงหาคม 2566

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

,

“สส.สัมพันธ” “สส.อามินทร์” นำคณะ“มท.1” และ “รมว.ศึกษาฯ” ลงพื้นที่ ต.มูโนะ ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ”

วานนี้ 1 สิงหาคม 2566 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ (บีลา) กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 3 และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส เขต 2 ร่วมต้อนรับ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องชาวมูโนะที่ประสบเหตุระเบิด “โกดังเก็บพลุดอกไม้ไฟ” ณ ตลาดมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส

พร้อมกันนี้ได้ร่วมประชุมหารือรับมอบนโยบายและข้อราชการต่างๆ และติดตามสถานการณ์โกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ รมต.ช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสนั่น พงษ์อักษร ผวจ.นราธิวาส, รอง ผวจ.นราธิวาส, หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาและช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบเหตุให้ได้รับการเยียวยาให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ทางด้านกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้รับการสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่ร่วมกันสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อวัสดุ”กระเบื้องหลังคา” เพื่อแจกจ่ายมอบใ้หกับพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งส่งผลให้อาคารบ้านเรือนและหลังคาได้รับความเสียหาย โดยมีพี่น้องมาลงทะเบียนกว่า 500 ราย เพื่อมาขอรับการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ได้บริการจัดส่งถึงบ้านเรือนของพี่น้องยังความประทับใจและขอบคุณพร้อมให้กำลังใจซึ่งกันและกันดั่งคำว่า “คนไทยที่ไหนเดือดร้อน..คนไทยย่อมไม่ทิ้งกัน” ทางทีมงานกลุ่มเพื่อน “สส.บีลา-สส.อามินทร์” ซาบซึ้งในน้ำใจจากพี่น้องทั่วสารทิศ ทั่วไทย จึงขอขอบคุณทุกน้ำใจทุกท่าน มา ในโอกาสนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 สิงหาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ตามคำมั่น 4 ปีที่ผ่านมาวางรากฐานพัฒนาแหล่งน้ำกว่า 2 หมื่นแห่งเพิ่มคุณภาพชีวิต เอาประโยชน์ ปชช.เป็นที่ตั้ง

,

“พล.อ.ประวิตร” มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ตามคำมั่น 4 ปีที่ผ่านมาวางรากฐานพัฒนาแหล่งน้ำกว่า 2 หมื่นแห่งเพิ่มคุณภาพชีวิต เอาประโยชน์ ปชช.เป็นที่ตั้ง

1 สิงหาคม 2566 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังคงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ตามคำมั่นที่ให้กับประชาชน “ จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ทำให้พี่น้องคนไทยอยู่ดีกินดี” เพราะทุกปัญหาของประชาชนเขารอไม่ได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตนได้ผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มุ่งมั่นแก้ปัญหาเรื่องปากท้องประชาชน ให้คนไทยกินดีอยู่ดี ตามแนวทางและนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอาชีพของประชากรไทยส่วนใหญ่คือเกษตรกร การพัฒนาแหล่งน้ำ จึงเป็นต้นทุนการประกอบอาชีพที่สำคัญ ที่ได้วางรากฐานการจัดหาน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งปี และยังสามารถรับมือกับภัยแล้ง และอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น เช่นในขณะนี้ ที่ภาวะอากาศในประเทศไทยร้อน ฝนไม่ตกตามฤดูกาล นับเป็นเป้าหมายสำคัญของการพัฒนาแหล่งน้ำที่ยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบ ม่ให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ และสามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีน้ำใช้ในการอุปโภค-บริโภค และภาคการเกษตร

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า รัฐบาลได้สนับสนุนงบกลาง มาใช้ในโครงการบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง และป้องกันน้ำท่วม โดยบูรณาการทุกหน่วยงานภายใต้การบริหารคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) ที่ได้ผลักดันในการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก ระบบกระจายน้ำเพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค รวมถึงการเกษตรครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งสิ้น 26,830 แห่ง เช่น การขุดเจาะบ่อบาดาล แหล่งน้ำสำรองเพื่อผลิตน้ำประปา ก่อสร้างฝายและสระเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ขุดลอกคลอง และกำจัดวัชพืช ถือว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนและสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

ทั้งนี้ยังมีแผนการพัฒนาโครงการอ่างเก็บน้ำในหลายแห่งที่ยังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ อาทิ โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ต.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการอุปโภคบริโภค และประกอบอาชีพทางการเกษตร หลังจากที่ประชาชนรอคอยมายาวนานถึง 30 ปี เราได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สานฝันให้ประชาชนจนเป็นผลสำเร็จ ซึ่งในปี 2569 ประชาชนในพื้นที่ ต.ป่าแดด จ.เชียงราย และในพื้นที่ใกล้เคียง จะมีแหล่งน้ำไว้ใช้อุปโภค บริโภค และภาคการเกษตร เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี มั่นคง และยั่งยืน ให้กับคนลุ่มน้ำลาวตอนกลาง และตอนล่าง

“การทำงานของผมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีวันใดที่หยุดพัก ดีใจที่ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ผมอาจจะเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่เคยออกมาบรรยายสรรพคุณ คุณงามความดีต่อสาธารณชน เพราะผมเชื่อว่า การทำงานจะต้องวัดจากผลงานที่เป็นประจักษ์ มิใช่การวัดเอาจากคำพูด โดยการเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะโครงการต่างๆ จะส่งผลให้สามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนใช้ประโยชน์ในช่วงหน้าแล้งได้รวม 742 ล้าน ลบ.ม. และยังสามารถนำน้ำบาดาลมาใช้ได้ถึง 91 ล้าน ลบ.ม. โดยมีน้ำดิบผลิตประปาได้อีก 62 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเกิดประโยชน์โดยตรงกับประชาชนถึง 3.65 ล้านครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7.5 ล้านไร่”พล.อ.ประวิตร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 สิงหาคม 2566

“ไผ่ ลิกค์”ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้ ต้องมีกฎหมายรองรับ ตอบให้ชัด ข้อดี-ข้อเสีย วิธีรับมือการใช้

,

“ไผ่ ลิกค์”ชงญัตติเข้าสภาฯ ตั้ง กมธ.พิจารณาบุหรี่ไฟฟ้า ชี้ ต้องมีกฎหมายรองรับ ตอบให้ชัด ข้อดี-ข้อเสีย วิธีรับมือการใช้

1 สิงหาคม 2566นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุญัตติด่วนที่ตนเสนอไป เพื่อขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลประโยชน์ของการมีกฎหมายควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว โดยตนเห็นว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีกฎหมายรองรับและวิธีรับมือกับการบริโภค และการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า แต่สภาพความเป็นจริงเราสามารถพบเห็นการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างแพร่หลาย มีการนำเสนอเพื่อผลกำไรผ่านทางช่องทางสื่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่มีการเสียภาษีทำให้รัฐเสียประโยชน์

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้รับผลกระทบจากปริมาณการรับซื้อลดลงอย่างมาก ทั้งจากมาตรการด้านสุขภาพและการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า จนทำให้ราคาใบยาสูบตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลข้อดีข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า โทษต่อสุขภาพของบุหรี่ไฟฟ้า ยังเป็นที่สงสัยว่าเป็นโทษต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด

“ผมจึงขอเสนอให้สภาฯมาศึกษา และวางแนวทางเพื่อออกกฎหมายในการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้เด็กและเยาวชนมีการใช้การอย่างแพร่หลาย ทั้งที่แนวทางบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย ยังไม่มีงานวิจัยที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนหรือไม่ มีแต่การกล่าวอ้างว่า ไอบุหรี่ไฟฟ้าส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากบุหรี่ไฟฟ้า จึงต้องมีการออกมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น”นายไผ่ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 สิงหาคม 2566

พปชร.ประชุมใหญ่สามัญเลือก กก.บห.ชุดใหม่ เดินหน้าทางการเมืองเลือก“พล.อ.ประวิตร”นั่งหัวหน้านำทัพต่อ

,

พปชร.ประชุมใหญ่สามัญเลือก กก.บห.ชุดใหม่ เดินหน้าทางการเมืองเลือก“พล.อ.ประวิตร”นั่งหัวหน้านำทัพต่อ พร้อม“รอ.ธรรมนัส” นั่งเลขาธิการ ด้าน “พล ต.อ.พัชรวาท” ขึ้นประธานที่ปรึกษาพรรค “วราเทพ” รับหน้าที่แม่บ้านพรรค นั่งผอ.สำนักงานพรรค

29 กรกฎาคม 2566 พรรคพลังประชารัฐ ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 3/2566 ของ เพื่อกำหนดกิจกรรมของพรรคโดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ตามที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมีคำสั่ง มอบหมาย ทั้งนี้ในการประชุมนายไพบูลย์ ได้อ่านหนังสือลาออก ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่มีถึงคณะกรรมการบริหารพรรค ระบุว่าในฐานะหัวหน้าพรรค มีความประสงค์ขอลาออกจากหัวหน้าพรรค ตั้งแต่ วันที่ 29 ก.ค. 2566 เวลา 8.30น.

จากนั้นเมื่อเข้าสู่วาระการเลือกตำแหน่งหัวหน้าพรรคนายอรรถกร ศิริลัทธยากรได้ เสนอชื่อพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค อีกครั้งโดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นเข้ามาเป็นคู่ชิง ก่อนที่จะแจกบัตรเลือกตั้งให้สมาชิกลงคะแนนรวมถึงเลือกกรรมการบริหารพรรคตำแหน่งอื่นๆ รวม 21 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติ เลือกพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคกลับเข้ามารับตำแหน่งอีกครั้ง และมีมติ เลือกรองหัวหน้าพรรคจำนวน 5 คน ประกอบด้วย 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ 2.นายไพบูลย์ นิติตะวัน 3.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ 4.นายวิรัช รัตนเศรษฐ 5.นางสาวตรีนุช เทียนทอง

ที่ประชุม ยังได้มีมติ ให้ ร.อ ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นเหรัญญิกพรรค พล.อ. กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เป็นนายทะเบียนพรรค พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมเพิ่มเติมอีก 12 คนเพื่อให้ครบตามข้อเสนอให้มีการขยายจำนวนคณะกรรมการเป็น 21 คน ประกอบด้วย 1.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ 2.นายยงยุทธ สุวรรณบุตร 3.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร 4.นายสกลธี ภัททิยกุล 5.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ 6.นายอภิชัย เตชะอุบล 7. นายอัครวัฒน์ อัศวเหม 8.นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา 9.นายไผ่ ลิกค์ 10.นายสุธรรม จริตงาม 11. นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ และ 12.นางสาวกาญจนา จังหวะ

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ลงนามในคำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ ๑๓ /๒๕๖๖ แต่งตั้งประธานที่ปรึกษาพรรค เพื่อให้การดำเนินงานของพรรคลังประชารัฐ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์ ตามนโยบายของพรรค ซึ่งอาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ พ.ศ.๒๕๖๑ และแก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๑๗ (๑) (ณ) แต่งตั้ง พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ ให้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค รวมทั้งได้มีคำสั่งแต่งตั้งนาย วราเทพ รัตนากร กรรมการฝ่ายนโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เป็น ผ.อ.สำนักพรรค

การประชุมครั้งนี้ มีสมาชิกเข้าร่วมประชุม ที่มีสมาชิกพรรค ผู้แทนสาขาพรรค ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และสมาชิกพรรค เกิน 250 คน เข้าร่วมครบองค์ประชุมตามที่กฎหมายกำหนด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 กรกฎาคม 2566

“ร.อ.ธรรมนัส”ยืนยัน”พล.อ.ประวิตร”ทำหน้าที่ ส.ส.เต็มที่ โต้ ไม่ได้นั่งหลับในสภาฯ วอน อย่าดิสเครดิต ผิดมารยาททางการเมือง

,

“ร.อ.ธรรมนัส”ยืนยัน”พล.อ.ประวิตร”ทำหน้าที่ ส.ส.เต็มที่ โต้ ไม่ได้นั่งหลับในสภาฯ วอน อย่าดิสเครดิต ผิดมารยาททางการเมือง

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่โลกออนไลน์แชร์รูปของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)คล้ายนั่งหลับในที่ประชุมสภาฯว่า พล.อ.ประวิตร จะเอาเวลาที่ไหนไปนั่งหลับ เพราะระหว่างที่นั่งอยู่ในสภาฯ มีแต่คนเดินมาทักทาย ยกมือไหว้ตลอดเวลา ซึ่งภาพที่ออกมาน่าจะเป็นช่วง ที่พล.อ.ประวิตร กำลังขยับเก้าอี้ เนื่องจากนั่งไม่พอดีไม่สะดวก จนนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ต้องเข้ามาช่วยขยับอยู่หลายครั้ง ซึ่งตนนั่งอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา ก็ยังไม่เห็นว่า ท่านหลับตอนไหน

“ตลอดเวลาที่ พล.อ.ประวิตร นั่งประชุมในห้องสภา ด้วยท่านเป็นผู้ใหญ่ที่นักการเมืองให้ความเคารพ จึงปรากฎภาพที่หัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ และ ส.ส.จำนวนมาก เข้ามาทักทายและกล่าวต้อนรับ ซึ่งท่านไม่ได้นั่งอยู่เฉย ๆ เลย มีแต่คนแวะเวียนมาหา จึงแปลกใจว่า เอาเวลาใดไปนั่งหลับ ผมมองว่า การเผยแพร่รูปในลักษณะที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง หรือมีเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะอาจจะต้องการจะดิสเครดิตและทำลายภาพลักษณ์ของ พล.อ.ประวิตร ถือว่าผิดมารยาททางการเมือง ไม่ควรที่จะมาใช้วิธีเช่นนี้”ร.อ.ธรรมนัส กล่าว



ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 05 กรกฎาคม 2566

ส.ส.พปชร.13 คน เข้ารายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎรเพิ่ม 2 วัน รวม ส.ส.พร้อมทำหน้าที่ดูแลประชาชนแล้ว 30 คน

,

ส.ส.พปชร.13 คน เข้ารายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎรเพิ่ม
2 วัน รวม ส.ส.พร้อมทำหน้าที่ดูแลประชาชนแล้ว 30 คน

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานผล การเข้ารายงานตัว ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ใหม่ เป็นวันที่ 2 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. โดยวันนี้มี ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เดินทางเข้ารายงานตัวจำนวน 13 คน ประกอบด้วย นายทวี สุระบาล ส.ส.ตรัง,นายองอาจ วงษ์ประยูร ส.ส.สระบุรี,นายอนุรัตน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา,นายวิริยะ ทองผา ส.ส.มุกดาหาร,นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ ส.ส.จังหวัดหนองคาย

ส.ส.เพชรบูรณ์ ประกอบด้วย นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ,นางพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ,นายอัคร ทองใจสด ,นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์,นายวรโชติ สุคนธ์ขจร และ ส.ส.กำแพงเพชร ประกอบด้วย นายปริญญา ฤกษ์หร่าย,นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์,นายอนันต์ ผลอำนวย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 มิถุนายน 2566

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการจ.กำแพงเพชร ติดตามเรื่องน้ำ-ที่ดิน “วราเทพ”นำ4 ว่าที่ ส.ส. ร่วมต้อนรับ

,

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการจ.กำแพงเพชร ติดตามเรื่องน้ำ-ที่ดิน “วราเทพ”นำ4 ว่าที่ ส.ส. ร่วมต้อนรับ

วันที่ 29 พ.ค. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ จ. กำแพงเพชร เพื่อตรวจราชการโดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมคณะเพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำที่แก้มลิงหนองดงขวัญ ต.หนองปลิง อ.เมือง พร้อมกับมอบนโยบายและพบปะประชาชน

ทั้งนี้มีกำหนดการที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนพรานกระต่ายพิทยาคม ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย เพื่อร่วมพิธีมอบสมุดประจำตัวจัดสรรที่ทำกินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว ป่าเขาสว่าง และป่าคลองห้วยทราย ให้ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ในลักษณะแปลงรวมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมกับมอบนโยบายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างมีอาชีพที่มั่นคงลดปัญหาการบุกรุกป่า

อย่างไรก็ตามพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ถือเป็นจังหวัดแรกที่พล.อ.ประวิตร กลับมาลงพื้นที่หลังการเลือกตั้ง และพรรคพลังประชารัฐได้รับคะแนนเสียงยกจังหวัด โดยมีนายวราเทพ รัตนากร ในฐานะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมเลือกตั้งจ.กำแพงเพชร นำว่าที่ส.ส. กำแพงเพชร ร่วมต้อนรับ โดย 4 ว่าที่ส.ส.กำแพงเพชร ประกอบด้วย นายไผ่ ลิกค์ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ นายอนันต์ ผลอำนวย และนายปริญญา ฤกษ์หร่าย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤษภาคม 2566

“สุธรรม” พร้อมรับหน้าที่ ส.ส.หน้าใหม่เมืองคอน เร่งทำงานพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

,

“สุธรรม” พร้อมรับหน้าที่ ส.ส.หน้าใหม่เมืองคอน เร่งทำงานพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

นายสุธรรม จริตงาม ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ. นครศรีธรรมราช เขต 6 เปิดเผยว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้เสียงสนับสนุนในการได้รับเลือกตั้งในพื้นที่เขต 6 ซึ่งตนได้ทำงานกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีทีผ่านมา ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น ทั้งนโยบายของพรรค และการเข้าถึงพื้นที่ของตนเอง จนสามารถรับรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชน ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้เป็นที่ว่าที่ ส.ส.หน้าใหม่ของจังหวัด โดยตนจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี โดยมีเป้าหมายทำให้ประชาชนอยู่ดี กินดีขึ้น

“ตำแหน่งที่ผมได้รับมอบหมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ผมพร้อมจะทำงานอย่างเต็มที่ และเต็มกำลัง เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลง ภายใน 6 เดือน ถึง 1 ปีให้เป็นผลสำเร็จ”นายสุธรรม กล่าว

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า ปัญหาส่วนใหญ่ของประชาชนในพื้นที่มีความหลากหลาย ทั้งเรื่องปากท้อง ค่าครองชีพ ราคาสินค้าเกษตร ที่ได้รับผลกระทบในภาพรวม จำเป็นที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบางเรื่องจะเป็นเรื่องที่ยาก และเกี่ยวข้องหลายภาคส่วน ในฐานะ ส.ส.ตนจะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงและประสานงานให้ดีที่สุดเพื่อให้พี่น้องได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤษภาคม 2566

เปิดพื้นที่พปชร. 3 จังหวัดกวาดทุกเขตรักษาแชมป์ !!! ว่าที่ ส.ส. ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชน ในสภาผู้แทนราษฎร เดินหน้านำทุกปัญหาสู่การแก้ไข ทำทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีอาชีพมั่นคง สร้างรายได้ที่ยั่งยืน ตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

,

เปิดพื้นที่พปชร. 3 จังหวัดกวาดทุกเขตรักษาแชมป์ !!! ว่าที่ ส.ส. ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชน ในสภาผู้แทนราษฎร เดินหน้านำทุกปัญหาสู่การแก้ไข ทำทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีอาชีพมั่นคง สร้างรายได้ที่ยั่งยืน ตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ว่าที่ส.ส.พปชร. 3 จังหวัด พร้อมทำงาน
เมืองเพชรบูรณ์
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ
น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ เขต 1
นายจักรัตน์ พั้วช่วย เขต 2
นายบุญชัย กิตติธาราทรัพ เขต 3
นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เขต 4
นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เขต 5
นายอัคร ทองใจสด เขต 6

เมืองพะเยา
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เขต 1
นายอนุรัตน์ ตันบรรจง เขต 2
นายจีรเดช ศรีวิราช เขต 3

เมืองกำแพงเพชร
นายไผ่ ลิกค์ เขต 1
นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ เขต 2
นายอนันต์ ผลอำนวย เขต 3
นายปริญญา ฤกษ์หร่าย เขต 4

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 พฤษภาคม 2566