โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. และสมาชิก

“พิมพ์พร ว่าที่ ส.ส.เพชรบูรณ์”เชื่อ การสร้างอาชีพในชุมชน คือฐานรากกระตุ้น ศก.พัฒนาท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อม สานต่องานเต็มที่

,

“พิมพ์พร ว่าที่ ส.ส.เพชรบูรณ์”เชื่อ การสร้างอาชีพในชุมชน คือฐานรากกระตุ้น ศก.พัฒนาท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อม สานต่องานเต็มที่

น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ตนมีความตั้งใจในการเข้ามาช่วยเหลือประชาชนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การบริหารจัดการน้ำ และถนนที่ต้องมีการปรับปรุง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในการสัญจร โดยเฉพาะภาคเกษตรที่ต้องอาศัยเส้นทางขนส่งสินค้า ยิ่งขณะนี้เป็นช่วงหน้าฝนต้องเร่งดำเนินการ เพราะเส้นทางยังชำรุดเป็นจำนวนมาก

น.ส.พิมพ์พร กล่าวต่อว่า ตนมีแผนการสร้างอาชีพในชุมชนต่างๆ ส่งเสริมให้ชุมชนรวมตัว และพัฒนาเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยจะมีการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกระดับอาชีพเข้ามาอบรม พัฒนาผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น และจัดหาตลาด เพื่อการกระจายสินค้า ซึ่งเป็นแนวทางเสริมรายได้ให้กับชุมชน รวมไปถึงแนวทางจัดกิจกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้คนในช่วงวัยต่างๆ เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาท้องถิ่น เพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิต ในชุมชนให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเยาวชน และคนรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วม

“ทั้งนี้เห็นว่า ในกิจกรรมที่ร่วมกันได้ จะมีมิติการพัฒนา ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งจะนำไปสู่แนวทางการสร้างงาน สร้างอาชีพในพื้นที่มากขึ้น เพราะปัจจุบันเยาวชนและคนรุ่นใหม่ ไม่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปทำงานนอกพื้นที่ ดังนั้นสิ่งสำคัญจึงต้องมีการระดมความคิดเห็น เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางจังหวัด เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะที่ผ่านมายังขาดเวทีที่จะดึงคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วม”น.ส.พิมพ์พร กล่าว

น.ส.พิมพ์พร กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้จากใจจริง ขอขอบคุณที่ให้โอกาสกลับเข้ามาทำงานเพื่อพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน และขอบคุณที่ให้โอกาสเพชรบูรณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยตนพร้อมจะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่างเต็มกำลังความสามารถ และจะตั้งใจเป็นปากเป็นเสียง ผลักดันการพัฒนาและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนชาวเพชรบูรณ์ เขต 1 อย่างเต็มที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 มิถุนายน 2566

‘ผู้กองธรรมนัส-จุ๊บจิ๊บ’ ร่วมทำบุญวัดป่าลานคำ ต.แม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา พร้อมสักการะ พระพุทธรูปองค์หลวงพ่อขาว เพื่อความเป็นสิริมงคล

,

‘ผู้กองธรรมนัส-จุ๊บจิ๊บ’ ร่วมทำบุญวัดป่าลานคำ ต.แม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา พร้อมสักการะ พระพุทธรูปองค์หลวงพ่อขาว เพื่อความเป็นสิริมงคล

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)เขต1 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วยนางสาวธนพร ศรีวิราช ภริยา เดินทางลงพื้นที่ไปร่วมพิธีทำบุญฉลองหอฉัน ณ วัดป่าลานคำ ตำบลแม่ต๋ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โดยมีพุทธศาสนิกชน และชาวบ้านในพื้นที่ผู้มีจิตศรัทธาร่วมในพิธีทำบุญเป็นจำนวนมาก

โอกาสนี้ ร้อยเอกธรรมนัส ยังได้สักการะพระพุทธรูปองค์หลวงพ่อขาว ศิลปะพม่า ที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 181 ปี ประดิษฐานภายในพระอุโบสถวัดป่าลานคำ ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของชาวชุมชนแม่ต๋ำป่าลาน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป จากนั้นร้อยเอกธรรมนัส ยังได้พบปะทักทายประชาชนและร่วมถ่ายภาพกับชาวบ้านในพื้นที่อย่างเป็นกันเอง

สำหรับวัดป่าลานคำ ตำบลแม่ต๋ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยาถือเป็นวัดเก่าแก่ ที่มีความสวยงาม และมีชื่อเสียงมานาน นอกจากเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์หลวงพ่อขาว ศิลปะพม่า ที่มีอายุเก่าแก่มากกว่า 181 ปีแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานองค์พระใหญ่ พระพุทธมเหศักดิ์สยามมินทร์กิติบุญยลาภ ที่มีหน้าตักกว้าง 10 เมตร สูงกว่า 18 เมตร ซึ่งภายในวัดเป็นสถานที่ร่มรื่น ถือเป็นสถานที่ที่ชาวพะเยาและนักท่องเที่ยวทั่วไปเดินทางมาทำบุญสักการะ ภายในวัดอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มิถุนายน 2566

“ปริญญา ว่าที่ ส.ส.กำแพงเพชร”เผย ชาวบ้านยังรอการแก้ไขปัญหาน้ำ-ที่ดิน มั่นใจ สานงานต่อในสภาฯเต็มที่ หวังยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

,

“ปริญญา ว่าที่ ส.ส.กำแพงเพชร”เผย ชาวบ้านยังรอการแก้ไขปัญหาน้ำ-ที่ดิน มั่นใจ สานงานต่อในสภาฯเต็มที่ หวังยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ว่าที่ ส.ส.เขต 4 จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงปัญหาของประชาชนในจังหวัดกำแพงเพชรที่ต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือยังคงเป็นเรื่องของน้ำ โดยเฉพาะการช่วยเหลือเกษตร ในการเดินหน้าประสานงานกับกรมชลประทาน และกรมเจ้าท่า เพื่อให้มีการซ่อมบำรุง ฝายกั้นแม่น้ำปิง( ฝายวังบัว) ที่มีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนาน เกิดการชำรุด และมีรอยร้าว จึงเป็นห่วง เรื่องของปริมาณน้ำที่อยู่ในช่วงฤดูมรสุม หากมีน้ำมาก และอาจทำให้ฝายกั้นน้ำพังได้ ส่งผลกระทบต่อการกักเก็บน้ำในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเชื่อว่าจะมีความคืบหน้าในการดำเนินโครงการซ่อมบำรุงได้เร็วๆนี้

นายปริญญา กล่าวต่อถึงปัญหาที่ทำกินว่า ต้องผลักดันอย่างต่อเนื่อง ประสานกับหน่วยงาน เพื่อให้สามารถออกโฉนดในการถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน เหมือนจังหวัดอื่นๆ เพราะประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่ ยังประกอบอาชีพทางการเกษตร ให้เป็นไปตามนโยบายของพรรค ต้องการให้ชาวบ้านมีสิทธิ์ในที่ดินโดยโฉนดเป็นของตนเอง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต

นายปริญญา ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนขอบคุณประชาชนในพื้นที่ทุกคนสำหรับทุกๆ คะแนนเสียง ทุกๆ ความไว้วางใจที่มอบให้ตนได้เข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนในสภาอีก 1 สมัย ซึ่งตนจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำการพัฒนามาสู่จังหวัดกำแพงเพชรบ้านของพวกเรา รวมถึงการแก้ไขปัญหาให้กับชาวกำแพงเพชรทุกคนด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 มิถุนายน 2566

“อนันต์ ว่าที่ ส.ส.กำแพงเพชร”ลั่น ต้องใช้งบกรมพัฒนาที่ดิน แก้ปัญหาคุณภาพดินให้เกษตรกรพ้นความยากจน เชื่อ ถ้าฐานไม่แข็งแรง อย่างอื่นก็ไปได้ยาก

,

“อนันต์ ว่าที่ ส.ส.กำแพงเพชร”ลั่น ต้องใช้งบกรมพัฒนาที่ดิน แก้ปัญหาคุณภาพดินให้เกษตรกรพ้นความยากจน เชื่อ ถ้าฐานไม่แข็งแรง อย่างอื่นก็ไปได้ยาก

นายอนันต์ ผลอำนวย ว่าที่ ส.ส.เขต 3 จ.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาตนทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยทิ้งพื้นที่ ตั้งใจทำเพื่อพี่น้องประชาชนมาตลอด ทั้งงานในสภา และนอกสภา เช่นเดียวกับในครั้งนี้ที่ประชาชนได้มอบโอกาสให้ตน ซึ่งยังมีแผนงานที่ต้องเข้าไปสานต่อให้กับเกษตรกรในกำแพงเพชรอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาดิน
เพราะพื้นดินในประเทศไทยถูกใช้งานเกษตรมานาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ให้ดินอยู่ในสภาพที่จะใช้ปลูกพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการแก้ปัญหานี้จะต้องใช้งบกรมพัฒนาที่ดินในการจัดการ ซึ่งตนก็จะผลักดันในสภาฯเพื่อแก้ปัญหานี้ให้ได้รับการแก้ไข เพราะคุณภาพดินจะต้องดีขึ้นให้ได้ ถ้าฐานไม่แข็งแรง อย่างอื่นก็จะไปได้ยาก

นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ประชาชนในประเทศไทยรวมถึงจังหวัดกำแพงเพชร ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ซึ่งปัญหาที่มีมาอย่างยาวนานก็คือความยากจน ดังนั้นเราต้องแก้ปัญหาที่ต้นน้ำ นั่นก็คือ การบริหารจัดการน้ำ ไม่ว่าจะเป็น การดูแลลำคลอง การทำโครงการแก้มลิง เหล่านี้เป็นหัวใจของ ส.ส.ที่ต้องเร่งทำให้กับประชาชนให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องลดรายได้ เพิ่มรายจ่ายให้เกษตรกร เพราะถ้าผลผลิตที่ได้มีจำนวนต่ำ ทำไปก็ไม่พ้นความยากจน ทั้งนี้ การแก้ปัญหาจะต้องมีการประสานกับหลายหน่วยงาน เช่น กรมทรัพยากรน้ำ,กรมอุทยานแห่งชาติ, สปก.,กรมชลประทาน, กรมทรัพยากรน้ำ เพื่อการแก้ไขแบบบูรณาการ เพราะถ้าไม่เร่งทำ โอกาสทางรอดของเกษตรกรจะยากมาก

ทั้งนี้ นายอนันต์ ยังฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ว่า นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องทำให้ครบวงจร ไม่ใช่แค่ให้เงินกับประชาชน แต่ต้องมีการฝึกอาชีพให้ และสามารถทำได้จริง เพราะการดำเนินการตามนี้จะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน รวมถึงในอนาคตจะสามารถแก้ปัญหาการเมืองได้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 มิถุนายน 2566

“จำลอง ว่าที่ ส.ส.กาฬสินธุ์”เตรียม ผลักดันระบบชลประทาน ช่วยเกษตรกรได้เพาะปลูก สร้างรายได้ พร้อมทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงอย่างเต็มที่

,

“จำลอง ว่าที่ ส.ส.กาฬสินธุ์”เตรียม ผลักดันระบบชลประทาน
ช่วยเกษตรกรได้เพาะปลูก สร้างรายได้ พร้อมทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงอย่างเต็มที่

นายจำลอง ภูนวนทา ว่าที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จ. กาฬสินธุ์ เขต 3พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยที่เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดกาฬสินธุ์(สจ.) รวมถึงลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.มา 6 สมัย ใช้เวลากว่า 24 ปี ในอดีตแม้ยังไม่ได้เป็น ส.ส.แต่ตนก็ทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งในครั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณชาวกาฬสินธุ์ที่ให้ความไว้วางใจและโอกาสได้มาทำหน้าที่เป็น ส.ส.โดยตนจะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน เป็นปาก เป็นเสียง ผลักดันแผนงานโครงการตลอดจนการนำเสนอนโยบายต่างๆ เพื่อมาพัฒนากาฬสินธุ์ให้ดีขึ้น ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้

นายจำลอง กล่าวต่อว่า ปัญหาในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก ที่ยังขาดแคลนเรื่องน้ำในการเกษตรกรรม แม้ว่าในพื้นที่จะมีเขื่อนลำปาวซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่ก็ยังไม่มีระบบชลประทานให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตอนบนของเขื่อนเลย ทำให้ประชาชนเหล่านั้นไม่สามารถนำน้ำในเขื่อนมาใช้ทำการเกษตรได้มากเท่าที่ควร สิ่งจำเป็นที่สุดคือการผลักดันระบบชลประทานให้เกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนอาชีพมีรายได้มีอาชีพที่มั่นคงและมีรายได้ที่แน่นอนมากยิ่งขึ้น และลดปัญหาการอพยพแรงงานเข้าสู่ เมืองหลวงต่อไป

“แผนกรมชลประทานที่วางระบบชลประทานดำเนินการตามแผนในปี 67 ในฐานะที่ผมได้รับเลือกเป็น ส.ส.ในพื้นที่จะเข้ามาติดตาม และผลักดันเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพราะประชาชนให้ความหวังและมีความต้องการสูง โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 ที่กระผมรับผิดชอบซึ่งประกอบด้วย อ.หนองกุงศรี อ.ห้วยเม็ก และ อ.ท่าคันโท ผมจะผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาจัดหาแหล่งน้ำ จัดหาที่ดินทำกิน ช่วยให้เกษตรกรได้เพาะปลูกพืชสร้างรายได้ให้กับครอบครัว รวมถึงการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร เพื่อให้ประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน”นายจำลอง กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 มิถุนายน 2566

“กระแสร์ ว่าที่ ส.ส.หนองคาย”เผย เร่งประสานภาครัฐ หวังยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ย้ำ ต้องเกิดรัฐสวัสดิการดูแลคนไทยให้ทั่วถึง

,

“กระแสร์ ว่าที่ ส.ส.หนองคาย”เผย เร่งประสานภาครัฐ หวังยกระดับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ย้ำ ต้องเกิดรัฐสวัสดิการดูแลคนไทยให้ทั่วถึง

12 มิถุนาย 2566 นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ ว่าที่ ส.ส.จังหวัดหนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ ๆ ตนดูแลอยู่เป็นลักษณะเขตเมือง ได้รับประโยชน์จากโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทำให้เกิดบรรยากาศความคึกคักของพื้นที่ มีประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เพื่อเดินทางต่อไปยังสปป.ลาว ตนมองว่าต้องเร่งส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัด ทั้งทางวัฒนธรรม ศาสนา ซึ่งมีวัดหลวงพ่อพระใส ที่เป็นนับถือของคนทั้งฝั่งไทยลาว ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนได้เพิ่มขึ้น จึงต้องเตรียมความพร้อม โดยการประสานหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคายมากขึ้น

“ในส่วนของการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนนั้น ส่วนใหญ่อยากให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวหนองคายให้ดีขึ้น ผมก็จะดำเนินการตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ได้หาเสียงไว้ ไม่ว่าพรรคเราจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ผมจะผลักดันเพื่อให้เกิดรัฐสวัสดิการที่ดูแลคนไทยทุกคนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และเป็นธรรมให้ได้ และที่สำคัญ เราจะร่วมกันพัฒนาจังหวัดหนองคาย เพราะจังหวัดหนองคายคือบ้านของเรา”

นายกระแสร์ ยังกล่าวถึงเกษตรกร จ.หนองคายว่า ถือว่าเป็นโชคดี ที่พื้นที่เกษตรกรตั้งอยู่ติดกับลำน้ำโขง ทำให้ไม่ต้องเผชิญปัญหาภัยแล้ง สามารถทำนาปี และนาปรังได้ตลอดทั้งปี แต่ปัญหาเรื่องของน้ำฤดูมรสุมที่จะมีปริมาณน้ำมาก ทำให้บางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ต้องรอการระบายน้ำ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เรื่องนี้คงต้องเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ และประสานเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเป็นการเฉพาะหน้า

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มิถุนายน 2566

“โชติวุฒิ ว่าที่ ส.ส.สิงห์บุรี”เร่งประสานช่วยชาวบ้านหลังได้รับเงินเยียวยาน้ำท่วมน้อยกว่าความเสียหาย เผย ถึงได้เป็น ส.ส.แต่ยังเป็นคนเดิม พบง่าย ใช่คล่อง

,

“โชติวุฒิ ว่าที่ ส.ส.สิงห์บุรี”เร่งประสานช่วยชาวบ้านหลังได้รับเงินเยียวยาน้ำท่วมน้อยกว่าความเสียหาย เผย ถึงได้เป็น ส.ส.แต่ยังเป็นคนเดิม พบง่าย ใช่คล่อง

นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สิงห์บุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงการพัฒนาพื้นที่ จ.สิงห์บุรี ว่า หลักๆ เป็นเรื่องการส่งเสริมภาคเกษตร เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพเพาะปลูกข้าวเป็นหลัก น้ำจึงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ต้องมีการบริหารให้เพียงพอในช่วงฤดูแล้ง รวมถึงการส่งเสริมการลดต้นทุนภาคเกษตรให้อยู่รอดต่อไปได้ หากน้ำสามารถบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพ ทำให้ชาวนาเพาะปลูกได้ต่อเนื่อง

“ปัญหาอุทกภัยคืออีกหนึ่งเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข เพราะพื้นที่ จ.สิงห์บุรี เป็นพื้นที่รับน้ำ ต้องผลักดันให้มีการก่อสร้างเขื่อนริมสองฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 50-60% อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ก็ได้มีประชาชนที่ประสบอุทกภัย ปี 2565 มาร้องเรียนเรื่องการได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาน้อยเกินกว่าความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งผมก็ได้ประสานไปยัง จ.สิงห์บุรี และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้นำปัญหาที่เกิดขึ้นไปตรวจสอบและเร่งหาทางการแก้ไขให้ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน”

นายโชติวุฒิ กล่าวต่อว่า จ.สิงห์บุรี เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญของประเทศ เพราะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีความอุดมสมบูรณ์และมีอาหารที่หลากหลาย แต่ด้วยปัจจัยระยะทาง กรุงเทพ ถึงสิงห์บุรี ระยะทางกว่า 100 กม.ทำให้นักท่องเที่ยวที่จะพักค้างคืนมีจำนวนน้อย จึงต้องเร่งส่งเสริมให้เข้าพักมากขึ้น โดยการร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้นำชุมชนสนับสนุนจัดกิจกรรม มากขึ้นทั้งในรูปแบบจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน หรือกิจกรรมอื่นๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีกิจกรรมเหล่านี้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีการค้าขาย มีรายได้ เศรษฐกิจในท้องถิ่นก็จะดีขึ้น

“ตัวผมไม่เคยยึดติด วันนี้ผมได้เป็น ส.ส. แต่ผมก็ยังเป็นผมคนเดิมที่ทุกท่านคุ้นเคย และรู้จักกันดี ยังคงพบง่าย ใช้คล่อง และพร้อมทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ เพื่อพัฒนาเมืองสิงห์บุรีของเราให้เจริญยิ่งขึ้น”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 มิถุนายน 2566

“ภาคภูมิ”เตรียมติดตามเร่งรัดการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน วางระบบถนน ไฟฟ้าเข้าถึงชุมชน ที่อยู่ห่างไกล

,

“ภาคภูมิ”เตรียมติดตามเร่งรัดการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน วางระบบถนน ไฟฟ้าเข้าถึงชุมชน ที่อยู่ห่างไกล

นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ตาก เปิดเผยว่า ในพื้นที่ จ.ตาก มีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ในด้านการเข้าถึงระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ถนน วางโครงข่ายโทรศัพท์ การพัฒนาสถานศึกษา ระบบสาธารณสุข และที่ทำกินของประชาชนบนพื้นที่สูง และชุมชนต่างๆ เนื่องจากพื้นที่จังหวัดเป็นพื้นที่ป่า ต้องประสานงานขออนุญาต เพื่อขอใช้พื้นที่ในการดำเนินการ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลผืนป่า เป็นผู้อนุญาต เร่งรัดขั้นตอน เพื่อช่วยเหลือประชาชนเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งนี้จากการที่ตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้เป็นตัวแทนทำหน้าที่ในสภาฯ พร้อมที่จะติดตามและเร่งรัดเรื่องนี้ต่อไป ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมาการขออนุญาตใช้พื้นที่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ใช้เวลานานมาก ทำให้ประชาชนขาดโอกาสเป็นจำนวนมาก

ในปัจจุบันจังหวัดตากมีการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ยังเป็นป่า และดอยสูง นอกจากนี้ประชาชนยังมีความหลากหลายทางชาติพันธ์ที่ต้องดูแล คุณภาพชีวิต ที่ผ่านมาการพัฒนาเป็นไปด้วยความยากลำบากในการเข้าถึงความเจริญ เพราะติดเงื่อนไขของกฎหมาย และระเบียบต่างๆ แต่หากสามารถลดหรือยกเว้นได้ ก็จะทำให้เกิดพัฒนาระบบเศรษฐกิจทั้งจังหวัด เป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสิทธิ์ของประชาชนที่ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมกัน”นายภาคภูมิ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 มิถุนายน 2566

“องอาจ ว่าที่ ส.ส.สระบุรี”มั่นใจ จะทำหน้าที่ ส.ส.ให้ดีตอบแทนความไว้วางใจของ ปชช.เดินหน้า พัฒนาระบบน้ำ ไม่แล้ง ไม่ท่วม เพื่อเกษตรกร

,

“องอาจ ว่าที่ ส.ส.สระบุรี”มั่นใจ จะทำหน้าที่ ส.ส.ให้ดีตอบแทนความไว้วางใจของ ปชช.เดินหน้า พัฒนาระบบน้ำ ไม่แล้ง ไม่ท่วม เพื่อเกษตรกร

นายองอาจ วงษ์ประยูร ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สระบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวว่า ภาย
หลังจากที่ได้รับชัยชนะในพื้นที่ เขต 4 จ. สระบุรี ตนได้ทำงานลงพื้นที่ต่อเนื่อง แต่ขณะนี้ยังรอการรับรองจากคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้มีการขอบคุณไปยังผู้นำชุมชน ต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน การเข้ามาทำงานในครั้งนี้ ตนขออาสาดูแลทุกคน โดยการสานผลงานเก่า สร้างผลงานใหม่ ให้ชาวสระบุรี มีน้ำใช้ พัฒนาระบบน้ำ ชลประทานที่ดี ไม่แล้ง ไม่ท่วม เพื่อชุมชนและพี่น้องเกษตรกรชาวสระบุรีอย่างต่อเนื่องเพราะการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ ต้องให้เพียงพอความต้องการใช้ของภาคเกษตร ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวถึง 70% ด้วยเกษตรกรมีความต้องการเพาะปลูกปีละ 2 ครั้งขึ้นไปทั้งนาปี และนาปรัง

นายองอาจ กล่าวต่อว่า ตนจะทำหน้าที่ ส.ส.อย่างเต็มที่ ทั้งในการประสาน และผลักดันในระดับกระทรวง โดยกรมชลประทาน และในสภาฯ ที่สามารถตั้งกระทู้ถามถึงความคืบหน้าในการจัดการน้ำให้เพียงพอ ซึ่งถือเป็นนโยบายของพรรค ที่ได้หาเสียงไว้ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีนโยบาย “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน ” ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาชน ชาวสระบุรี มีความประสงค์ และต้องการให้แก้ปัญหาเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งภัยแล้งและอุทุกภัย

“ผมขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่น และความไว้วางใจที่มอบให้ผมและพรรคพลังประชารัฐ ผมจะนำประสบการณ์ทั้งในและนอกสภา มาทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด”นายองอาจ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 มิถุนายน 2566

“วิริยะ ว่าที่ ส.ส.มุกดาหาร”เผย วางแผนงานพัฒนาโครงการฝ่ายชะลอน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้งหลังฝนทิ้งช่วงยาว เตรียมทำงานทันทีหลัง กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.

,

“วิริยะ ว่าที่ ส.ส.มุกดาหาร”เผย วางแผนงานพัฒนาโครงการฝ่ายชะลอน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้งหลังฝนทิ้งช่วงยาว เตรียมทำงานทันทีหลัง กกต.ประกาศรับรอง ส.ส.

นายวิริยะ ทองผา ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.มุกดาหาร เขต 1 กล่าวถึงปัญหาของพื้นที่ภาคอีสานในปัจจุบันที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากฝนทิ้งช่วง โดยสิ่งที่จะต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนเบื้องต้นเป็นเรื่องของการจัดหาแหล่งน้ำ โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโครงการที่จะต้องเร่งส่งเสริมให้เกิดขึ้นในพื้นที่คือ การพัฒนาโครงการฝ่ายชะลอน้ำ และพัฒนาอ่างเก็บน้ำซึ่งถือว่าเป็นปัญหาที่สำคัญ

นายวิริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนปัญหาแรงงานในพื้นที่ตอนนี้ก็ประสบกับภาวะขาดแคลนจึงจำเป็นจะต้องมีแผนส่งเสริมอาชีพเพื่อให้คนอยู่ถิ่นฐานมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดรับกับแผนการจัดหาน้ำ ถ้ามีน้ำการย้ายถิ่นฐานก็จะลดลง ปัญหาขาดแคลนแรงงานก็จะน้อยลงไปด้วย เพราะพื้นที่ภาคอีสานยังสามารถที่จะทำกินได้เป็นอย่างดี

“ในขณะนี้ผมเพิ่งได้รับตำแหน่งเป็นว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็คงจะต้องรอผลการรับรองจากคณะกรรมการเลือกตั้งหรือ กกต.ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งหากรับรองแล้วก็จะมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเร่งดำเนินการทันที โดยพบกับผู้ว่าฯรายการจังหวัดและหัวหน้าสำนักงานต่างๆ”นายวิริยะ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 มิถุนายน 2566

“ชัยมงคล ว่าที่ ส.ส.สกลนคร”เชื่อ ปักธงสำเร็จเพราะนโยบาย พปชร.-รถไฟความเร็วสูง เดินหน้าแก้หนี้สินให้เกษตรกร

,

“ชัยมงคล ว่าที่ ส.ส.สกลนคร”เชื่อ ปักธงสำเร็จเพราะนโยบาย พปชร.-รถไฟความเร็วสูง เดินหน้าแก้หนี้สินให้เกษตรกร

นายชัยมงคล ไชยรบ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.สกลนคร เขต 5 กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ขอขอบพระคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ตน ซึ่งเป็นคนสว่างแดนดินให้ได้เป็นผู้แทน การได้รับเลือกครั้งนี้เป็นตนตั้งใจจะเปลี่ยนเพื่อพัฒนาสว่างแดนดินให้ดีขึ้น จะถือโอกาสทำงานพัฒนาเมืองสว่างฯ ให้เจริญก้าวหน้า เรามีเป้าหมายชัดเจนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยต้องแก้ไขปัญหาหนี้สิน ควบคู่กับการสร้างรายได้ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนประสบกับหนี้สินทั้งในและนอกระบบจำนวนมาก

นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนได้บอกกับประชาชนในพื้นที่ก็คือ ตนจะผลักดันให้จังหวัดสกลนครมีการพัฒนาด้านคมนาคมด้วยรถไฟความเร็วสูงเพื่อการขนส่ง และสกลนครจะต้องอยู่ในแผนของการวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะนำรถไฟความเร็วสูง จากอุดรธานี ผ่านสกลนคร ไปนครพนม แม้ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม เรื่องนี้คือยุทธศาสตร์ในการพัฒนาที่ตนตั้งใจว่าจะทำให้ได้ และประชาชนก็ขานรับเป็นอย่างดี เพราะสาเหตุที่ทำให้ประชาชนตัดสินใจให้ตนมาเป็นผู้แทนฯนอกเหนือจากนโยบายของพรรคพลังประชารัฐแล้ว ก็มาจากนโยบายรถไฟความเร็วสูงด้วย

“รถไฟความเร็วสูงที่จะเกิดขึ้น จะทำให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน เพราะจะสามารถส่งออกผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่การที่ต้องนำเอางบประมาณจากภาครัฐลงไปสนับสนุนอยู่ตลอดเวลา และก็แก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น”นายชัยมงคล กล่าว

นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า ตนยังมีโครงการระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตรด้วยที่ตั้งใจจะผลักดันให้สำเร็จเพราะเป็นบริหารการจัดการน้ำและส่งเสริมวิถีชุมชนการเกษตรที่ยั่งยืน โดยจะสูบน้ำจากบ่อบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าเซลล์ ถือเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน และยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนทางการเกษตรโดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมันอีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 มิถุนายน 2566

“รัชนี ว่าที่ ส.ส.ร้อยเอ็ด”ประกาศ พร้อมดูแล ปชช.แก้ปัญหาทุกเรื่องตามที่หาเสียงไว้ เชื่อ ทำงานไม่เคยหยุด จนได้ใจชาวร้อยเอ็ด ส่งเข้าสภาฯอีกสมัย

,

“รัชนี ว่าที่ ส.ส.ร้อยเอ็ด”ประกาศ พร้อมดูแล ปชช.แก้ปัญหาทุกเรื่องตามที่หาเสียงไว้ เชื่อ ทำงานไม่เคยหยุด จนได้ใจชาวร้อยเอ็ด ส่งเข้าสภาฯอีกสมัย

นางรัชนี พลซื่อ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จ.ร้อยเอ็ด เขต 3 กล่าวถึงการทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาภายหลังได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่า สิ่งแรกจะต้องเน้นการนำนโยบายของพรรคที่เราได้หาเสียงไว้เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องที่ทำกินและแก้ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงการประสานงานเพื่อให้ได้เอกสารสิทธิ์ สปก.เพื่อการทำอาชีพเกษตรที่มั่นคงสร้างรายได้ให้กับครอบครัวตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ

นางรัชนี กล่าวต่อถึงเรื่องของพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นถนนที่ได้ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นผลงานในช่วงที่ผ่านมาของตนเอง และจำเป็นที่ต้องทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงเส้นทางที่ชำรุดให้คงสภาพใช้งานเพื่อการสัญจรที่สะดวกของประชาชน ซึ่งส่วนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนจนได้รับคะแนนเสียง และชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้

“เราไม่เคยหยุดที่จะทำงาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งก็ตาม ครอบครัวพลซื่อ พร้อมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และประชาชนสามารถเข้าถึงในทุกรูปแบบ แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งพบปะ โทรศัพท์ ทั้งงานบุญ งานลงพื้นที่ ไม่เคยขาด”นางรัชนี กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 มิถุนายน 2566