โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. และสมาชิก

ผู้ช่วย รมว.ทส. ลุยเฟ้นนวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ตามสั่งการ “พัชรวาท” บุกเยี่ยมชม “หอต้นแบบฟอกอากาศฟ้าใส” ทึ่งระบบอัจริยะทำ PM 2.5 ลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจช่วยทำอากาศสะอาดให้กลุ่มเปราะบาง

,

ผู้ช่วย รมว.ทส. ลุยเฟ้นนวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ตามสั่งการ “พัชรวาท” บุกเยี่ยมชม “หอต้นแบบฟอกอากาศฟ้าใส” ทึ่งระบบอัจริยะทำ PM 2.5 ลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจช่วยทำอากาศสะอาดให้กลุ่มเปราะบาง

ที่วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เดินทางไปเยี่ยมชม ต้นแบบหอฟอกอากาศ ระดับเมือง ภายใต้ชื่อ “ฟ้าใส” ของศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)

ร.อ.รชฏ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ตนติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ระยะเร่งด่วนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมกับได้เน้นย้ำเรื่องการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม มาใช้ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งวันนี้ได้รับเชิญจาก RISC ให้มาดู ต้นแบบ หอฟอกอากาศ “ฟ้าใส” มีที่มาจากแนวคิดการฟอกอากาศที่เต็มไปด้วยมลภาวะให้ใสสะอาด ปลอดฝุ่นพิษ PM 2.5 ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านการคิดค้นพัฒนาร่วมกับบริษัท เนสเทค ประเทศไทย จำกัด

“ภาคเอกชนได้ให้ข้อมูลว่าหอฟอกอากาศฟ้าใสสามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หลักการทำงานเริ่มต้นจากการใช้ใบพัดความเร็วสูงดึงอากาศเข้าไปในระบบ และแยกฝุ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ด้วยความเร็วลมและการปล่อยละอองน้ำเพื่อการดักจับฝุ่นสามชั้น โดยระบบอัจฉริยะจะควบคุมการทำงานของมอเตอร์ใบพัดให้สอดคล้องกับความเข้มข้นของฝุ่นละออง จนระดับความเข้มข้น PM2.5 ลดลงถึงเกณฑ์ปกติ หอฟอกอากาศฟ้าใสสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อกระแสลมสงบนิ่ง ในระยะรัศมี 1 กิโลเมตร”

ร.อ.รชฏ กล่าวว่า การดำเนินการหอฟอกอากาศฟ้าใสได้มีการเก็บข้อมูลเชิงลึกมาเป็นระยะเวลา 10 กว่าปี ผ่านการทำงานที่เข้มข้นของทีมวิจัย มีข้อมูลจากการศึกษาและวิจัย มีสถิติที่เห็นประสิทธิภาพการทำงานอย่างละเอียด ในการแลกเปลี่ยนข้อมูดังกล่าวภาคเอกได้นำเสนอให้มีการติดตั้งตามป้ายรถเมล์ โรงพยาบาล โรงเรียน รวมถึงจุดที่เป็นแหล่งรวมกลุ่มเปราะบาง เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดที่อยากให้กลุ่มเปราะบางและประชาชนได้สูดอากาศที่สะอาดปราศจากฝุ่นพิษ ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดวันนี้จะนำเรียนท่านรองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้รับทราบต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” เผยครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด สร้างกลไกแก้ปัญหามลพิษอากาศเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” เผยครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด
สร้างกลไกแก้ปัญหามลพิษอากาศเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไทย

“พัชรวาท” เผย ครม.เคาะแล้วร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ชี้เป็นกฎหมายเชิงรุกครอบคลุม “ป้องกัน – แก้ไข” ลดความซ้ำซ้อนในการสั่งการ มีระบบ “บิ๊กดาต้า” เพื่อบริหารสถานการณ์ สร้างกลไกจัดการหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรม มั่นใจแก้มลพิษทางอากาศ ทำให้คนไทยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงมี

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบต่อร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ…. ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการแก้ปัญหาเชิงรุก ครอบคลุมทุกมิติ เป็นกฎหมายใหม่ที่มีความเฉพาะ ทำให้สามารถบริหารจัดการอากาศสะอาดได้อย่างแท้จริง ป้องกันปัญหาด้านอากาศที่จะเกิดขึ้น และแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศที่มีอยู่ ให้ลดลงและหมดไป มีการบูรณาการการบริหารจัดการบนหลักการของ “การป้องกันไว้ก่อน” แก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนของการดำเนินการ การสั่งการ การปฏิบัติงาน ในแต่ละคณะกรรมการหลักและคณะกรรมการย่อยต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและกลไกที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษอากาศของประเทศ ครอบคลุมแหล่งกำเนิดมลพิษอากาศทุกประเภท มีกลไกการจัดการปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น มีระบบฐานข้อมูลคุณภาพอากาศแห่งชาติ หรือบิ๊กดาต้า เพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ ประชาชนทราบข้อมูลพื้นฐานของคุณภาพอากาศ และมีช่องทางรายงานสภาพปัญหามลพิษอากาศที่เป็นปัจจุบัน เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

“อากาศสะอาดเป็นสิทธิพึงมีที่คนไทยทุกคนต้องได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน กระทรวงทรัพยากรธรรชาติฯ จะทำให้คนไทยมีอากาศที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 พฤศจิกายน 2566

“อัครแสนคีรี”เผยข่าวดีของชาวชัยภูมิ งบประมาณโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาว บรรจุในแผนกระทรวงพลังงานปี 67 แล้ว เตรียมเดินหน้าผลักดันให้สำเร็จ

,

“อัครแสนคีรี”เผยข่าวดีของชาวชัยภูมิ งบประมาณโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาว บรรจุในแผนกระทรวงพลังงานปี 67 แล้ว เตรียมเดินหน้าผลักดันให้สำเร็จ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมกรรมาธิการว่า จากกรณีที่ตนได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปหลายครั้งถึงโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยเขื่อนลำปะทาวซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน สังกัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งขณะนี้เขื่อนลำปะทาว กำลังพบเจอปัญหาวิกฤติ คือการที่ไม่สามารถเก็บน้ำในเขื่อนได้ ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม หรือช่วงพายุเข้าก็จะทำให้น้ำที่อยู่ในเขื่อนไหลทะลัก และเข้าท่วมจังหวัดชัยภูมิ แต่หากมีการดำเนินการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง ก็จะบรรเทาน้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ พื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ และเพิ่มปริมาณน้ำในอำเภอแก้งคร้อได้ด้วย

”การประชุมกรรมาธิการพลังงานช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ทวงถามกระทรวงพลังงานถึงโครงการดังกล่าว จนตอนนี้ทราบว่าโครงการได้บรรจุอยู่ในแผนกระทรวงพลังงานปี 2567 แล้ว และจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณางบประมาณในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งผมจะติดตามและผลักดันให้โครงการผ่านงบประมาณ และสามารถดำเนินการแล้วเสร็จให้กับชาวชัยภูมิให้ได้“นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และแผนอนุรักษ์พลังงาน โดยได้เชิญกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เข้าให้ข้อมูล ซึ่งทำให้ทราบถึงการดำเนินการสำคัญตามแผน AEDP 2018 เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก เป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มพลังงานไฟฟ้า กลุ่มพลังงานความร้อน และเชื้อเพลิงชีวภาพ สามารถดำเนินการส่งเสริม เพื่อให้เกิดการจัดหาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกได้ตามแผน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” สั่งระดมทีมเกาะติดปัญหาฝุ่นPM2.5 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลเกินมาตรฐาน เสนอแนวคิดนำนวัตกรรมแก้ปัญหาเร่งด่วน เปิดเอกชนร่วมแก้ไข

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” สั่งระดมทีมเกาะติดปัญหาฝุ่นPM2.5 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลเกินมาตรฐาน
เสนอแนวคิดนำนวัตกรรมแก้ปัญหาเร่งด่วน เปิดเอกชนร่วมแก้ไข

ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้รับรายงานสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ในเขต กทม.และปริมณฑล พบว่ามีค่าเกินมาตรฐาน จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อภิรัต นิยมการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีการประชุมด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
ทั้งนี้ในการประชุม พล.ต.ท.อภิรัต ในฐานะประธานและมี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อย่างพร้อมเพียง ได้มีหารือถึงสภาพปัญหาโดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ประชุมได้สะท้อนปัญหาว่า ช่วงนี้เป็นช่วงอากาศปิด ทำให้ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ประกอบกับสภาพการจราจร ที่มีปริมาณการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก สำหรับปัญหาควันจากการเผา จะขอความร่วมมือในพื้นที่ปริมณฑลไม่ให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง และขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เสนอให้มีการใช้นวัตกรรมร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่น เช่น การติดตั้งพัดลมยักษ์ตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ของกลุ่มเปราะบาง และตามสถานศึกษา เพื่อให้เป็นเซฟโซน ทำให้เกิดอากาศหมุนเวียน พร้อมกันนี้ยังได้เปิดรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชน เชิญชวนให้มาร่วมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถบรรเทาและแก้ปัญหาได้ และยังเป็นการระดมสมองเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาระดับชาติต่อไป และได้นำเรียนผลการประชุมรายงาน พล.ต.อ.พัชรวาท แล้ว
“ท่านรองนายกฯ และ รมว.ทส.ห่วงใยสุขภาพของประชาชนอย่างมาก ได้เร่งรัดให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ไม่ให้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” ร.อ.รชฏ กล่าวว่าเร็วๆ นี้จะลงพื้นที่สถานการณ์ในจุดที่เป็นต้นกำเนิดฝุ่น ตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท สั่งการเพื่อหามาตรการแก้ไขเพิ่มเติม ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาวต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566

“สส.ไผ่ ลิกค์” นำ พปชร.จับมือหลายภาคส่วน มอบเครื่องกีฬาสนับสนุนเยาวชนไทยให้เข้าถึงกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด

,

“สส.ไผ่ ลิกค์” นำ พปชร.จับมือหลายภาคส่วน มอบเครื่องกีฬาสนับสนุนเยาวชนไทยให้เข้าถึงกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด

24 พ.ย. 2566 นายไผ่ ลิกค์ สส.จังหวัดกำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมกับพรรคเพื่อไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คณะกรรมกรรมาธิการการกีฬา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรม “โครงการสนับสนุนและส่งเสริมการตื่นตัวและการมีส่วนร่วมของการเล่นกีฬาและออกกำลังกายของประชาชน ผ่านกิจกรรมหรือบริการทางการกีฬา” (CSR) โดยกิจกรรมในวันนี้ได้นำอุปกรณ์การกีฬาต่างๆ และกีฬามวย มามอบให้กับทางโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่อ.เมือง จ.กำแพงเพชร อาทิ โรงเรียนบ้านวังทอง ต.วังทอง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน และเพิ่มทักษะทางด้านกีฬาให้กับเยาวชน

สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันและในทิศทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดให้ประชาชนใน จ.กำพงเพชร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการออกกำลังกายและห่างไกลจากยาเสพติด ควบคู่การตื่นตัวกับการส่งเสริมให้เยาวชนไทยโดยฉพาะเด็กๆ ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร มีสุขภาพอนามัยที่ดีจากการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งพัฒนาทักษะและศักยภาพทางด้านกีฬาที่ชื่นชอบ เพื่อค้นหานักกีฬาฝีมือดีให้กับประเทศ เพื่อสานฝันให้เด็กไทยก้าวสู่การเป็นนักกีฬาสมัครเล่น นักกีฬาทีมชาติ และนักกีฬาอาชีพในอนาคต

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ตนยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสระว่ายน้ำ อบจ.กำแพงเพชร (ริมปิง) เพื่อผลักดันและขอสนับสนุนงบประมาณในการสร้างสระว่ายน้ำให้เป็นสระว่ายน้ำมาตรฐานของ จ.กำแพงเพชร เพื่อเป็นสถานที่ออกกำลังการและใช้ฝึกสอนให้กับนักกีฬาว่ายน้ำด้วย

“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ที่ผ่านมาผมได้พยายามส่งเสริมทางด้านการกีฬาทุกมิติ เพื่อให้เด็กไทยมีทักษะทางด้ายนกีฬาที่ดี และวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมมือกันในการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการกีฬาให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดกำพำแพงเพชร และเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านกีฬาทุกประเภทให้กับเยาวชน โดยจะร่วมกันปรับปรุงสนามกีฬาให้มีมาตรฐาน รวมถึงกีฬาเอ็กซ์ตรีม เพื่อสร้างโอกาสให้กับเยาวชนและการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ โดยเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด“

ทั้งนี้ งานดังกล่าวได้มี นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ดร.สุปราณี คุปตาลา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายนายปริญญา ฤกษ์หร่าย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะคณะกรรมกรรมาธิการการกีฬา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิธีเปิดด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566

“ชนนพัฒฐ์” ลุยลงพื้นที่ช่วยเหลือ ปชช.อย่างหนัก หลังสงขลาอ่วม! ฝนถล่ม แถมน้ำทะเลสาบหนุนท่วมบ้าน 4 อำเภอ

,

“ชนนพัฒฐ์” ลุยลงพื้นที่ช่วยเหลือ ปชช.อย่างหนัก หลังสงขลาอ่วม! ฝนถล่ม แถมน้ำทะเลสาบหนุนท่วมบ้าน 4 อำเภอ

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนและให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูฝน ทำให้มีฝนตกหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วพื้นที่ของภาคใต้ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในครั้งนี้ มีน้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตรบางส่วน และบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะบริเวณ 4 อำเภอลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และฝั่งอ่าวไทย ทั้ง อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.กระแสสินธุ์ และ อ.ระโนด ซึ่งมีตำบลที่อยู่ริมทะเลสาบได้รับความเสียหาย โดยที่บ้านบางหลังไม่สามารถอยู่อาศัยได้ สัตว์เลี้ยงต้องอพยพไว้ที่สูง

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อบรรเทาสาธารณภัยในครั้งนี้ และซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นในที่พักอาศัยอาศัยของประชาชนกว่า 200 คนถึง 300 ครัวเรือนในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานขอรับหน่วยงานเอกชนนำข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

”ในขณะนี้ด้วยสถานการณ์ฝนตกหนัก ส่งผลให้มีน้ำท่วมขัง พื้นที่บริเวณบ้านพักอาศัย พื้นที่การเกษตร ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขต 4 ของเรา และยังมีความกังวลว่าอาจจะมีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ไปจนถึงวันที่ 23 พ.ย.นี้ ผมจึงขอให้พี่น้องประชาชนทุกคน ดูแลรักษาสุขภาพ และขนย้ายสิ่งของที่จำเป็นขึ้นบนที่สูง รวมถึงติดตามประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิดด้วย“นายชนนพัฒฐ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2566

“2 สส. นราธิวาส พปชร.เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำท่วมหนัก อ.สุไหงโก – ลก ซ้ำรอยปี 65 ลั่น เพราะความห่วงใย มันรอไม่ได้

,

“2 สส. นราธิวาส พปชร.เตรียมพร้อมรับมือหากเกิดน้ำท่วมหนัก อ.สุไหงโก – ลก ซ้ำรอยปี 65 ลั่น เพราะความห่วงใย มันรอไม่ได้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการทำบุญอุมเราะห์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตนได้เดินทางกลับประเทศไทยทันที และรีบลงพื้นที่ร่วมกับ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พร้อมด้วย นายอำเภอสุไหงโก-ลก,ผอ.ชลประทาน,รองผู้การนราธิวาส และผู้กำกับ สภ.สุไหงโก-ลก เพื่อสังเกตุการณ์ระดับนํ้าในเขตพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก บ้านมูโนะ และเทศบาลตำบลบูเก๊ะตา เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำฝนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ฝนตกหนักมาหลายวัน

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงปลายเดือน พ.ย.ไปจนถึง ธ.ค.ของทุกปี พื้นที่หลายจังหวัดในภาคใต้จะต้องเผชิญกับมรสุมฝนตกกระหน่ำอย่างหนัก อย่างเมื่อตอนปี 65 ที่ผ่านมา ในอำเภอสุไหงโก-ลก มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 5,000 ครัวเรือน จำนวนประมาณ 20,000 คน ในปีนั้นน้ำท่วมบริเวณตลาดมูโนะเต็มพื้นที่หลังจากที่พนังกั้นน้ำเก่า ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกแตก ทำให้กระแสน้ำได้ท่วมเพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้าง รวมทั้งกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยว บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

“หากเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ พื้นที่จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงมาก ถือเป็นความเสียหายอย่างหนักต่อพี่น้องประชาชน อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้น้ำมีความเชี่ยวกราก ส่งผลทำให้ตลิ่งชำรุดและเกิดความเสียหาย ดังนั้น เราจึงต้องเฝ้าระวังเหตุอุทกภัย และเตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน ในยามเกิดเหตุ โดยขณะนี้ก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเฝ้าสังเกตุการณ์ และเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้ว เพราะความห่วงใย..มันรอไม่ได้ ”นายสัมพันธ์ กล่าว

ด้านนายอามิทร์ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้เพื่อรับฟังและบรรยายสรุปเรื่องปริมาณน้ำ รวมถึงแผนรับมือของกรมชลประทาน และการป้องกันน้ำท่วม แบริเออชั่วคราว ที่บ้านตันหยงมะลิ เพื่อการป้องกันน้ำเข้าท่วม ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก จากการที่ได้ดูและสำรวจ เบื้องต้นเชื่อว่าปีนี้มาตรการทางเทศบาลเมืองสุไหงโกลก ได้มีมาตรการป้องกันไว้อย่างรัดกุม และเชื่อว่าเราน่าจะผ่านวิกฤตน้ำท่วมในปีนี้ไปได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท”กำชับกรมอุทยาน-ป่าไม้-ทรัพยากรทางทะเล ดูแลความปลอดภัย-จัดสถานที่เหมาะสม”รับท่องเที่ยวไฮซีซั่น”

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท”กำชับกรมอุทยาน-ป่าไม้-ทรัพยากรทางทะเล
ดูแลความปลอดภัย-จัดสถานที่เหมาะสม”รับท่องเที่ยวไฮซีซั่น”

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงมาตรการเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวนี้ว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ในแต่ละปีจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงได้กำชับไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยเฉพาะหัวหน้าอุทยานให้เตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่ การดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ที่พักสะอาด ลานกางเต้นท์เป็นระเบียบ ขณะเดียวกันในช่วงวันหยุดยาวคาดว่าจะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ได้เน้นย้ำการบริหารจัดการเพื่อจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับพื้นที่ นักท่องเที่ยวได้สัมผัสแห่งความสุข ไม่อยากให้เกิดภาพความความแออัด ให้ท่องเที่ยวอย่างความสะดวก ปลอดภัย ขณะเดียวได้เน้นย้ำให้เข้มงวดเรื่องห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปที่พักเขตอุทยาน และให้มีการกำจัดขยะ เพื่อให้เป็นการท่องเที่ยวควบคู่กับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม

“รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้ความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ และดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ดังนั้นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นกระทรวงที่สามารถสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม ก็อยากให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส และเกิดความประทับใจหลังจากเดินทางกลับ”

สำหรับอุทยานแห่งชาติที่อยากแนะนำให้เดินทางไปในช่วงฤดูหนาว โดยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้คัดเลือกที่สุดแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นมีทั้งทางบกและทางทะเล อาทิ ศาลาดุสิตาอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง, จุดชมวิวยอดดอยผ้าห่มปกอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก, โมโกจูอุทยานแห่งชาติแม่วงก์, สันหนอกวัว อุทยานแห่งชาติเขาแหลม, หุบเขาแห่งดอกไม้ หรือพญาเสือโคร่งภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า,ป่าเปลี่ยนสีอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว, เกาะแปดอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันและหาดท้ายเหมือง อุทยานแห่งชาติเขาลําปี – หาดท้ายเหมือง เป็นต้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566

“สันติ” รมช.สธ. ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร

,

“สันติ” รมช.สธ. ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ให้กับวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กทม. นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราขทานผ้าพระกฐินในปีนี้ โดยมีข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (สส.) จ.เพชรบูรณ์ ประกอบด้วย นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ นายวรโชติ สุคนธ์ขจร นายอัคร ทองใจสด ตลอดจนประชาชนเข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้บวงสรวงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ถวายภัตตาหารอพลแด่พระสงฆ์-สามเณร ทั้งพระอาราม จากนั้นประกอบพิธีถวายผ้ากฐินพระราชทาน เสร็จพิธีได้มอบทุนการศึกษาแก่โรงเรียนวัดหงส์รัตนาราม และเยี่ยมพบปะประชาชน ก่อนเดินทางกลับ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2566

”วรโชติ“สส.เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ร่วม สส.วันเพ็ญ สำรวจอ่างเก็บน้ำห้วยจั๊กจั่น เตรียมขยายอ่างบรรจุน้ำ ชงเข้างบปี 68 เพื่อให้เกษตรกรมน้ำใช้ โดยไม่ต้องพึ่งแต่น้ำฝน

,

”วรโชติ“สส.เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ร่วม สส.วันเพ็ญ สำรวจอ่างเก็บน้ำห้วยจั๊กจั่น เตรียมขยายอ่างบรรจุน้ำ ชงเข้างบปี 68 เพื่อให้เกษตรกรมน้ำใช้ โดยไม่ต้องพึ่งแต่น้ำฝน

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ตนและ ท่านวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส.เพชรบูรณ์ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วย นายธนาวุฒิ สินประเสริฐ สมาชิกสภาจังหวัด(สจ.),ผอ.กรมชลประทานที่ 10 ลพบุรี ลงพื้นที่ตำบลบ่อไทย อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสำรวจอ่างเก็บน้ำห้วยจั๊กจั่น เพื่อนำโครงการเพิ่มความจุน้ำเข้าแผนปีงบประมาณ 2568 และโครงการขุดลอกคลองปู่เจ้าพร้อมสะพาน​ ฝายกั้นน้ำ และฝายระบายน้ำให้เชื่อมโยงกับโครงฝายกุดขนวน เพื่อให้เกิดประโยชน์ ​และแก้ปัญหา​น้ำท่วมให้กับ​พี่น้อง​เกษตรกร​

นายวรโชติ กล่าวต่อว่า จังหวัดเพชรบูรณ์มีพื้นที่อยู่ในลุ่มน้ำถึง 5 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำชี ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำโขง แต่จะมีส่วนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสักมากที่สุดถึงร้อยละ 70 ของจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ยาวประมาณ 350 กิโลเมตร ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเพชรบูรณ์ เผชิญทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม โดยพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม จะอยู่สองฝั่งของแม่น้ำป่าสัก แบ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมปานกลาง และเสี่ยงสูง ส่วนพื้นที่เผชิญภัยแล้ง มักพื้นที่ลาดชัน และภูเขาสูง โดยร้อยละ 60 ของพื้นที่ ถือว่ามีปัญหาภัยแล้งระดับต่ำ และอีกร้อยละ 35 มีปัญหาภัยแล้งระดับปานกลาง ที่เหลือเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับสูง

“ประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำทั้งเพื่ออุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตร ซึ่งถ้าสามารถขยายอ่างเก็บน้ำห้วยจั๊กจั่นได้สำเร็จ จะช่วยให้ราษฎรในตำบลนี้และใกล้เคียงมีน้ำทำการเกษตรและน้ำอุปโภคบริโภคด้วย จะได้ไม่ต้องเสี่ยงทำสวน ทำไร่ โดยอาศัยน้ำฝนเพียงพออย่างเดียว“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท”ชวนลอยกระทงรักษ์โลก ใช้วัสดุธรรมชาติร่วมสืบสานประเพณีไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท”ชวนลอยกระทงรักษ์โลก
ใช้วัสดุธรรมชาติร่วมสืบสานประเพณีไทย

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สำหรับเทศกาลลอยกระทงที่จะมาถึงนี้ อยากเชิญชวนพี่น้องชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มาร่วมสืบสานประเพณีไทยในแบบรักษ์โลก รักประเพณีไทย ร่วมการอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยการประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ใบตอง กาบกล้วย กระทงขนมปัง เป็นต้น ไม่ตกแต่งกระทงด้วยวัสดุที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ เช่น ลวดเย็บกระดาษ ตะปู กากเพชร เป็นต้น
นอกจากนี้อยากเชิญชวนให้ลอยกระทงร่วมกัน 1 ครอบครัว 1 กระทง หรือไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มก็สามารถลอยร่วมกันได้ หรือจะร่วมลอยกระทงออนไลน์ ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดปริมาณขยะกระทง ลดโลกเดือด อีกทั้งประหยัดเงินในกระเป๋า
นอกจากนี้อยากขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าที่ทำกระทงจำหน่าย ขอให้งดใช้โฟม และหันมาทำกระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ง่าย ซึ่งที่ผ่านมา ถือว่ามีความตื่นตัวในเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ปีนี้ก็อยากให้ยึดหลักการเดียวกัน
การลอยกระทง ถือเป็นประเพณีที่คนไทยมีขึ้นเพื่อระลึกถึงคุณค่าของสายน้ำ และขอขมาต่อพระแม่คงคา จึงต้องร่วมกันรักษาประเพณีดั้งเดิมนี้ไว้ ควบคู่ไปกับการร่วมกันรักษาคุณภาพของแหล่งน้ำ ทั้งแม่น้ำ คู คลอง หนอง บึง โดยในแต่ละปีพบว่าภายหลังจากวันลอยกระทงจะพบขยะกระทงตกค้างตามแหล่งน้ำสาธารณะต่างๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องใช้พลังงานและทรัพยากรเพื่อจัดการ

ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากเชิญชวนประชาชนร่วมกันลอยในจุดที่เป็นบึง หรือบ่อน้ำแทนแม่น้ำขนาดใหญ่เพื่อง่ายต่อการจัดเก็บกระทง อย่างไรก็ตาม คาดหวังปีนี้ประชาชนจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในลดจำนวนขยะจากกระทงให้ลดน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2566

”กระแสร์“สานต่องาน“พล.อ.ประวิตร“พัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง แก้ไขปัญหาอุทกภัย เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ใช้ในหน้าแล้ง

,

”กระแสร์“สานต่องาน“พล.อ.ประวิตร“พัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง แก้ไขปัญหาอุทกภัย เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ใช้ในหน้าแล้ง

วันนี้(18 พ.ย.)นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ต้อนรับท่านวิเชียร ศิริสุวรรณคูหา ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำที่ 3 อุดรธานี พร้อมคณะที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพยากรน้ำในพื้นที่ตำบลคอกช้าง และตำบลบ้านฝาง โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และ สจ. ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ เพื่อที่จะได้พัฒนาให้กับชุมชนในพื้นที่ในการใช้ประโยชน์

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ขณะนั้น ได้มอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาห้วยโมง จ.หนองคาย พร้อมทั้งเตรียมแผนรับมือฝนทิ้งช่วง ป้องกันการขาดแคลนน้ำ และแผนรับมือน้ำท่วม โดยกำชับให้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประชาชนสามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

”ขณะนี้โครงการดังกล่าวกำลังดำเนินการ โดยมีแผนหลักการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง ได้จัดทำแผนปฏิบัติการเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรเทาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำและบรรเทาปัญหาอุทกภัย ซึ่งในอนาคตเมื่อโครงการสำเร็จจะช่วยเสริมเรื่องคุณภาพชีวิตชาวหนองคายที่อยู่ปลายลำน้ำโมงให้ดีมากยิ่งขึ้น ที่มีอยู่ปัจจุบันก็ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่อยู่แล้ว หากมีการพัฒนาศักยภาพการเก็บกักน้ำ มีช่องทางระบาย การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก็จะช่วยประชาชนได้ดีขึ้น ประชาชนประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก มิติการใช้น้ำมีความจำเป็นอย่างมาก การบริหารจัดการน้ำในห้วงของน้ำที่มีเหลือ ไว้ใช้ในหน้าแล้ง กรณีการสูบน้ำโขงเข้ามาในพื้นที่เพื่อช่วยให้พี่น้องมีทรัพยากร มีเครื่องมือในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น“นายกระแสร์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2566