โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. และสมาชิก

“รมว.ธรรมนัส” นั่งประธานแก้ปัญหาประมงทะเลเห็นชอบเพิ่มวันทำประมงสูงสุด 50 วัน 
เตรียมเดินหน้าโครงการแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน มุ่งแก้หนี้พี่น้องเกษตร

,

“รมว.ธรรมนัส” นั่งประธานแก้ปัญหาประมงทะเลเห็นชอบเพิ่มวันทำประมงสูงสุด 50 วัน

เตรียมเดินหน้าโครงการแปลงทรัพย์สินให้เป็นทุน มุ่งแก้หนี้พี่น้องเกษตร

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาประมงทะเล ครั้งที่ 2/2566 โดยมีนายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบการเพิ่มวันทำการประมงให้กับเรือที่ใช้เครื่องมือประสิทธิภาพสูง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระหนี้สินของชาวประมง รวมถึงเป็นการนำสัตว์น้ำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามค่าปริมาณสัตว์น้ำที่ได้รับอนุญาตทำการประมง ปีการประมง 2566 โดยแบ่งเป็น 1)ฝั่งอ่าวไทย กลุ่มเครื่องมือทำการประมงสัตว์หน้าดินเพิ่มวันทำการประมง 50 วัน กลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลาผิวน้ำเพิ่มวันทำการประมง 50 วัน และกลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลากะตักเพิ่มวันทำการประมง 30 วัน 2)ฝั่งอันดามัน กลุ่มเครื่องมือทำการประมงสัตว์หน้าดินเพิ่มวันทำการประมง 20 วัน กลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลาผิวน้ำเพิ่มวันทำการประมง 30 วัน และกลุ่มเครื่องมือทำการประมงปลากะตักเพิ่มวันทำการประมง 50 วัน ซึ่งการจัดสรรวันทำการประมงเพิ่มเติมสำหรับเรือประมงแต่ละลำขึ้นอยู่กับจำนวนวันทำการประมงที่เหลืออยู่ของเรือประมงลำนั้น นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) กฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้องกับภาคการประมง จำนวน 9 ฉบับ พร้อมสั่งการให้เร่งดำเนินการออกประกาศกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องชาวประมงอีกด้วย

ทั้งนี้ รมว.ธรรมนัส ได้ให้ความสำคัญกับการกำจัดกลไกการลักลอบนำเข้าสินค้าประมงผิดกฎหมายสู่ราชอาณาจักรไทย โดยกำชับการเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการตรวจสอบสินค้านำเข้า และการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าประมงตกต่ำ พร้อมทั้งเตรียมจัดทำโครงการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน โดยมอบหมายให้กรมประมงหารือร่วมกับพี่น้องชาวประมงทั้งประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน เพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2566

“ส.ส.ปริญญา ฤกษ์หร่าย” งานวันกีฬาแห่งชาติ ปี 2566 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมสัมมนา ทิศทางกีฬาไทย ณ อาคารรัฐสภา

, ,

“ส.ส.ปริญญา ฤกษ์หร่าย” งานวันกีฬาแห่งชาติ ปี 2566 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมสัมมนา ทิศทางกีฬาไทย ณ อาคารรัฐสภา

18 ธค 2566 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สมาชิกสภาผู้แทยราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกีฬาชุดที่ 26 พร้อมด้วยที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ นายพรรษศรณ์ สาครเสถียร ร่วมงาน ทิศทางกีฬาไทย
ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 ธค 66 ณ.กิจกรรมชั้น B1 อาคาร รัฐสภา เพื่อสร้างโอกาสทางกีฬาให้กับเยาวชน และผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้มีการมอบเกียรติบัตร แก่ ผู้ที่มีส่วน ร่วมสนับสนุนงานของ คณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภาด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 ธันวาคม 2566

“ส.ส.พปชร.นราธิวาส” ลงพื้นที่ปาเสมัส สุไหงโก-ลก นำถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำพล.อ.ประวิตร-เลขาฯ ห่วงใยปชช.สั่งการช่วยเหลือ ติดตาม-เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

,

“ส.ส.พปชร.นราธิวาส” ลงพื้นที่ปาเสมัส สุไหงโก-ลก นำถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำพล.อ.ประวิตร-เลขาฯ ห่วงใยปชช.สั่งการช่วยเหลือ ติดตาม-เฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

18 ธค 2566 นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.เขต 3 จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ ร่วมกับนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.เขต 2 จ.นราธิวาส นำถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเข้าท่วมพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน โรงเรียนมัสยิด และสถานที่ราชการ ใน 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลปาเสมัส และตำบลสุไหงโก-ลก ซึ่งพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำเพราะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งมีจำนวน 5 หมู่บ้าน มี 399 ครัวเรือน หรือ 2,067 คน ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

“จากเหตุการณ์ที่เกิดสร้างผลกระทบในวงกว้าง ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ได้สั่งการให้ส.ส.สัมพันธ์ และผมลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชนและติดตามผลกระทบอย่างใกล้ชิด พร้อมไปกับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ“ นายอามินทร์กล่าว

โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จะเข้าไปช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1. ต. ปาเสมัส หมู่ที่ 2 บ้านตือระ จำนวน 15 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 55 คน หมู่ที่ 3 บ้านกวาลอซีรา จำนวน 118 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 445 คน หมู่ที่ 4 บ้านมือบา จำนวน 64 ครัวเรือน ราษฏรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 315 คน หมู่ที่ 5 บ้านน้ำตก จำนวน 176 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1,056 คน หมู่ที่ 7 บ้านกวาลอซีรอออก จำนวน 26 ครัวเรือน ราษฏรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 196 คน

2. ตำบลสุไหงโก-ลก ประกอบด้วย – ชุมชนบือเร็ง จำนวน 10 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 43 คน ชุมชนบือเร็งใน จำนวน 20 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 92 คน ชุมชนโปฮงยามู จำนวน 180 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 810 คน ชุมชนท่าประปา จำนวน 83 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 381 คน ชุมชนท่าโรงเลื่อย จำนวน 70 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 322 คน ชุมชนท่ากอไผ่ จำนวน 30 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 138 คน ชุมชนหัวสะพาน จำนวน 86 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 387 คน ชุมชนกือดาบารู จำนวน 20 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 91 คน ชุมชนเสาสัญญาณ จำนวน 89 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 401 คน

สถานที่ราชการ/ศาสนสถาน ได้รับผลกระทบ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย
1.โรงเรียนบ้านตือระ หมู่ที่ 2 ตำบลปาเสมัส
2. ด่านกักกันสัตว์ หมู่ที่ 3 ตำบลปาเสมัส
3.โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง หมู่ที่ 2 ตำบลมูโนะ
4.มัสยิดการีลมาติลอุลยา หมู่ที่ 5 ตำบลปาเสมัส

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 ธันวาคม 2566

“สส. สัมพันธ์” เผย กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯตั้ง 2 อนุ กมธ.เร่ง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน พร้อมติดตามโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

,

“สส. สัมพันธ์” เผย กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯตั้ง 2 อนุ กมธ.เร่ง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืน พร้อมติดตามโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) แก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตามที่ คณะ กมธ. ได้พิจารณาประเด็นหนี้ กยศ. หนี้สินเกษตรกร และหนี้นอกระบบ โดยได้เดินทางไปศึกษาดูงาน จำนวน 1 ครั้ง เรื่อง “การสร้างรายได้เพื่อลดปัญหาหนี้สิน ความยากจนและความเหลื่อมล้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดยะลา โดย กมธ.มีมติให้ตั้งคณะ อนุ กมธ. 2 คณะ คือ 1. คณะอนุ กมธ.ด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน เนื่องจากปัญหาหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ และ 2.คณะอนุ กมธ. พิจารณาศึกษาปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการและยั่งยืน ขึ้นเพื่อพิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ตลอดจนการติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีกรอบระยะเวลาในการดำเนินงาน 120 วัน และจัดทำรายงานผลการพิจารณาศึกษาต่อคณะ กมธ. และสภาผู้แทนราษฎร

นายสัมพันธ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กมธ.ได้กำหนดวาระการประชุมวันที่ 20 ธ.ค.66 โดยพิจารณา 3 ประเด็น ประกอบด้วย 1. ติดตามการดำเนินงานโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (Soft loan) โดยเชิญตัวแทนจากศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้อง 2. ปัญหาการบริหารจัดการพื้นที่ป่าไม้ของพื้นที่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัด ยะลา โดยเชิญตัวแทนจาก กรมป่าไม้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และนายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลอัยเยอร์เวง และ 3. ติดตามประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ พ.ศ. 2548 ตามความตกลงระหว่างประเทศ โดยเชิญ กระทรวงคมนาคม มาร่วมประชุม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

,

“พล.ต.อ. พัชรวาท” จับเข่าคุยรองผู้ว่าฯ เชียงราย ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ห่วงกระทบสุขภาพปชช. ตรวจเข้มเผานาข้าว หลังมีข้อมูล “จิสด้า” จับจุด Hotsport พบเผาหลายพื้นที่ ประสานความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “ฟ้าใส”

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปเปิดงานเทศกาลหนาวนี้เที่ยวอุทยานแห่งชาติ ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ได้มีโอกาสพบปะหารือกับนายศรัณยู มีทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ว่าฯ มาร่วมงานดังกล่าว จึงได้ใช้โอกาสนี้หารือเกี่ยวกับข้อห่วงใยเรื่องของไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ที่เชียงราย ซึ่งได้กำชับกับรองผู้ว่าฯและฝากถึงผู้ว่าฯ ให้ช่วยกันตรวจตรา เรื่องการเผาเรือกสวนไร่นาของประชาชน เพราะขณะนี้เข้าใกล้ช่วงของการเตรียมพื้นที่สำหรับทำเกษตรกรรมในฤดูกาลที่จะมาถึงอาจจะมีการเผามากยิ่งขึ้น จนอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนในวงกว้าง

นอกจากนี้ตนได้รับการรายงานข้อมูลจาก จิสด้า พบว่าพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีจุด Hotsport เกิดขึ้นจากการเผานาข้าว แม้ว่าจะมีการรณรงค์อย่างต่อเนื่องก็ยังพบว่ามีการเผาอยู่ ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือทางจังหวัดให้เข้มงวดมากขึ้น เพราะมีอำนาจในการสั่งการแก้ปัญหา อีกทั้งมีข้อมูลจากดาวเทียมชี้พิกัดที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเกิดบริเวณไหน อย่างไร เชื่อว่าจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที อย่างไรก็ตามก็อยากขอร้องพี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือหยุดการเผา เพราะปัญหานี้จะแก้ไขได้ทุกฝ่าย ต้องช่วยกันจึงจะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันตนได้มีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งลาว และเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินยุทธศาสตร์ฟ้าใส ลดการเผาพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่า และร่วมกันให้ข้อมูลกับประชาชนให้ตระหนักปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ปัญหานี้ต้องจับมือกันแก้ไข เพื่อสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชนของเรา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“กระแสร์” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส” แทนชาวหนองคาย หลัง มอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศ

,

“กระแสร์” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส” แทนชาวหนองคาย หลัง มอบ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศ

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดหนองคายต้องขอขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มาตรวจเยี่ยม พบปะเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายเรื่องการปฏิรูปที่ดินการเกษตรและสหกรณ์ อีกทั้งยังได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน หรือ ส.ป.ก.4-01 ให้เกษตรกร จำนวน 30 ราย และมอบเมล็ดพันธุ์ผักและต้นกล้าผักให้กับตัวแทนชุมชน รวมถึงมอบเงินโครงการเกษตรกรชาวสวนยางต้นแบบด้วยเกษตรแบบยั่งยืนเพื่อยกระดับด้วยเศรษฐกิจฐานราก

“ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงเรื่องปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรให้ประชาชนเข้าใจ และท่านยังหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนชาวตำบลหาดคำ ที่เข้าพบเพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดิน หลังจากอาศัยอยู่ในที่ดินดังกล่าวมานาน ซึ่งต้องขอขอบคุณที่กระทรวงเกษตรฯได้ดำเนินนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร เพราะทำให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงสิทธิและแหล่งทุนมากขึ้น รวมทั้งมีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพตามศักยภาพของพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย“นายกระแสร์ กล่าว

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า อีกนโยบายหนึ่งที่น่าชื่นชมก็คือ จุดบริการรับยื่นคำร้องขอออกโฉนดเพื่อการเกษตร ที่จะช่วยเหลือให้ประชาชนมีที่ปรึกษาและเข้าใจในเรื่องกฎหมายได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ โฉนดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่รัฐบาลแจกในครั้งนี้ถือเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นสำคัญของเกษตรกรทั่วประเทศอย่างแท้จริง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่เขตหนองจอก แก้ ‘จน เจ็บ เจ๊ง’ ให้พี่น้องเกษตรกร เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ข้าวปลูกได้ทั้งปี อายุเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน

,

“รมว.ธรรมนัส” ลงพื้นที่เขตหนองจอก แก้ ‘จน เจ็บ เจ๊ง’ ให้พี่น้องเกษตรกร เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ข้าวปลูกได้ทั้งปี อายุเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะและรับฟังปัญหาจากเกษตรกร สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย และสภาเกษตรกรกรุงเทพมหานคร พร้อมหว่านข้าวในแปลงนา โดยใช้โดรนเป็นนวัตกรรมใหม่ และปลูกต้นไม้มงคล ณ โรงสีข้าวชุมชน หมู่ 6 ก้าวหน้า คลองสิบสอง เขตหนองจอก

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าว เตรียมประกาศรับรอง 8 สายพันธุ์ ในเดือนเมษายน ปี 2567 ครอบคลุมข้าวหลายชนิด เช่น ข้าวพื้นนุ่ม ข้าวหอม ข้าวบาเล่ ข้าวสาลี และข้าวญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งทั้ง 8 สายพันธุ์ เป็นพันธุ์ที่สามารถปลูกได้ทั้งปี มีอายุการเก็บเกี่ยวไม่เกิน 95 วัน เป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างให้ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวในเขตภาคกลางทั้งหมดจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์สำหรับรองรับความต้องการ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่นาปรังทั้งหมด ประมาณ 6 ล้านไร่ อีกทั้งยังต้องการให้รับรองข้าวเจ้าหอม มช 10-1 ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยเป็นข้าวที่มีระยะเวลาการปลูกน้อย ผลผลิตเยอะ และมีความเป็นข้าวหอมมะลิถึง 92% มีกลิ่มหอม นุ่ม และรูปทรงสวยงาม ปัจจุบันสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดราชบุรีอยู่ระหว่างการทดลองและปรับปรุงพันธุ์ เพื่อเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการรับของกรมการข้าวต่อไป

นอกจากนี้ ยังรับฟังและหาแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ และราคาข้าว ที่กระทรวงเกษตรฯ จะต้องหามาตรการช่วยเหลือให้พี่น้องชาวนามีความเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป ทั้งนี้ เขตหนองจอกเป็นเขตที่มีขนาดใหญ่สุดใน กทม. สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นท้องทุ่งและเกษตรกรรม มีลำคลองไหลผ่านหลายสาย มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี ตามที่ตั้งแปลง ปี 2566/67 เขตหนองจอก จำนวน 2,047 ครัวเรือน พื้นที่ 49,485 ไร่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

,

“สส.ปกรณ์” ยินดีชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับการแปลง สปก.เป็นโฉนดรุ่นแรก 150 แปลง พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจ ปชช.เพื่อรักษาสิทธิ สร้างความมั่นคงในชีวิต

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.เขต1 แม่ฮ่องสอน พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าแปลงสปก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อเกษตกร ของ จ.แม่ฮ่องสอนว่า จะมีพี่น้องประชาชนได้รับโฉนดในรอบแรกในวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ประมาณ 150 แปลง หรือ ประมาณ 150 ครอบครัว ที่ถือครองที่ดินเพื่อทำการเกษตรอยู่หลายร้อยไร่ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคง สามารถนำที่ดินไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ยิ่งขึ้น ภายใต้การขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ไว้ และยังเป็นการสานต่อนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรไทยทั่วประเทศ
ทั้งนี้พื้นที่ สปก.4-01 ที่จะได้การแปลงเป็นโฉนดนั้น เป็นพื้นที่ ๆ เกษตรกรได้รับหนังสือเอกสารสิทธิ และประกอบอาชีพอยู่แล้ว ซึ่ง สปก.จังหวัดได้ทำการพิสูจน์สิทธิเสร็จสิ้นในกลุ่มแรก และอยู่ระหว่างพิสูจน์สิทธิในกลุ่มทั้งหมด 3,966 ราย ที่ถือครองที่ดินถึง 4,885 แปลง คิดเป็น 15,349 ไร่ ซึ่งจะทยอยเปลี่ยนแปลงเป็นโฉนดต่อไป

“ที่ผ่านมา ผมได้ประสานงานกับสปก.จังหวัดอย่างใกล้ชิด และได้ทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรในการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบปฎิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถรักษาสิทธิ และนำไปสู่กระบวนการพิจารณาได้อย่างรวดเร็ว ตามแนวทางที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้มีข้อสั่งการให้ สส.ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน” นายปกรณ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 ธันวาคม 2566

“สส.กระแสร์”เชื่อ โครงการห้วยหลวง ช่วยแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวย วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ

,

“สส.กระแสร์”เชื่อ โครงการห้วยหลวง ช่วยแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวย วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เสร็จ

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 อำเภอเมือง พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึง ลุ่มน้ำสวย ที่เป็นเขตติดต่อระหว่างอำเภอ เป็นบ้านหัวสวย ตำบลนาพู่ โดยช่วงนี้พี่น้องประชาชนจะทำนาปรัง ทำให้น้ำขาดแคลนในลุ่มน้ำสวยที่ไหลมาจากในเขตจังหวัดอุดรธานีมาเข้าที่อำเภอสระใคร ตำบลคอกช้าง ผ่านไปยังเขตอำเภอเมือง ไปยังตำบลโพนสว่าง ตำบลวัดธาตุ เทศบาลวัดธาตุ ไหลเรื่อยๆไปสิ้นสุดที่ตำบล บ้านเดื่อ แล้วไหลลงไปสู่ แม่น้ำโขง

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง ซึ่งจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่เกษตรกรรองรับ ที่ของเกษตรกรประมาณ 3 แสนไร่ซึ่ง ตนทราบข่าวจากชลประทานว่าปีหน้าจะผันน้ำโขงขึ้นมาสู่ลำห้วยหลวงแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกับลุ่มน้ำสวย ถ้าน้ำที่ผันขึ้นมาจากแม่น้ำโขง อีกส่วนหนึ่งแยกเข้ามา ลงไปสู่ลุ่มน้ำสวยนั้น จะทำให้พี่น้องประชาชนที่ตนได้กล่าวขึ้นมาข้างต้นนี้ คงจะมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ ครม.สัญจรไปที่ จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเขตการเลือกตั้งของตนที่ จังหวัดหนองคาย มีพื้นที่ติดกับจังหวัดหนองบัวลำภู คณะรัฐมนตรีหลายท่านได้เดินทางเข้าสู่จังหวัดหนองคาย เพื่อไปกราบขอพรหลวงพ่อพระใส เพราะเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดหนองคาย และพี่น้องจาก สปป.ลาว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ชูแคมเปญ “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” ร่วมใจในวันสิ่งแวดล้อมไทย

มุ่งให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ไขเพื่อเดินหน้าลดปัญหาการปล่อยคาร์บอนสู่เป้าหมายNet Zero

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีและกล่าวปาฐกถาพิเศษ เนื่องใน “วันสิ่งแวดล้อมไทย” และ “วันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” ที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดขึ้น ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนเครือข่ายชุมชนปลอดขยะและโรงเรียนปลอดขยะ และเครือข่าย ทสม. เข้าร่วม

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า วันนี้นับจากจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมไทย ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำรัสให้การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานที่ดูแล อนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้น้อมนำตามแนวพระราชดำรัสของพระองค์มาปฏิบัติโดยตลอด ทั้งยังส่งเสริมให้ประชาชน ทุกคนมีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อดูแลรักษาโลกใบนี้ให้สืบทอดต่อไปจนถึงอนุชนรุ่นหลัง และนอกจากวันนี้จะเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทยแล้ว ยังเป็นวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ซึ่งตนต้องขอบคุณเครือข่าย ทสม. ที่มีส่วนร่วมและประสานกลไกในการดำเนินงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง

“ปัจจุบันโลกใบเดียวของเราได้ส่งสัญญาณ และปี 2566 กำลังจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า เป็นปีที่ร้อนที่สุด ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องร่วมกันลงมือทำ เพื่อให้ลูกหลานของเรามีโลกใบนี้ที่อาศัยอยู่ได้ต่อไป ซึ่งประเทศไทยได้ให้คำมั่นสัญญาต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยได้ทำตามสิ่งที่ได้ให้คำมั่นไว้อย่างแน่นอน พร้อมให้ความร่วมมือ เพื่อยกระดับการดำเนินงานต่อไป มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี พ.ศ. 2593 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2608” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของประชาชนคนไทยทุกคน ที่จะมีส่วนร่วมในการปกป้อง ดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนเรื่องใกล้ตัวให้เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ปรับเปลี่ยนทัศนคติและรูปแบบการใช้ชีวิตชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดในการรณรงค์จัดกิจกรรมฯ ในปีนี้ ที่ว่า “เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก ลดโลกเดือด” และขอใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้ผู้คนได้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งรับ ปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกัน เริ่มจากการ “เปลี่ยนเรา” และขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลให้ “เปลี่ยนโลก” เพื่อ “ลดโลกเดือด”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

“สส. อามินทร์”จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการอาคารศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จ.นราธิวาส หลังสร้างเสร็จมาหลายปี แต่กลับไม่ได้ใช้งาน ปล่อยทรุดโทรม ชี้ สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

,

“สส. อามินทร์”จี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดการอาคารศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จ.นราธิวาส หลังสร้างเสร็จมาหลายปี แต่กลับไม่ได้ใช้งาน ปล่อยทรุดโทรม ชี้ สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.จังหวัดนราธิวาส เขต 2 อำเภอตากใบ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงเรื่องศูนย์แสดงสินค้าชุมชน จังหวัดนราธิวาส ตั้งอยู่บริเวณหน้าด่านศุลกากร อำเภอ สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเรื่องที่รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่เป็นเขตดินแดนติดกับประเทศมาเลเซีย เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นนโยบายหลักสำคัญของรัฐบาล ที่ผ่านมาได้ดำเนินการขับเคลื่อนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลา5-8 ปีที่ผ่านมาจนมีโครงการก่อสร้างอาคารต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน

“แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนได้รับกลับไม่ก่อประโยชน์เลยแม้แต่น้อย อาคารที่ถูกสร้างและเสร็จโดยสมบูรณ์ แต่ไม่มีการใช้งาน ปล่อยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาทั้งทั้งที่สร้างเสร็จมาแล้วไม่ต่ำกว่า5 ปี ก็ยังไม่เห็นหน่วยงานใดมารับผิดชอบ อาคารแห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น ท้องถิ่นเทศบาล ที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง หรือหน่วยงานใดที่ได้เสนอโครงการก่อสร้างอาคารชุดนี้ ผมถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินอย่างที่สุด จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบแก้ไข กฎระเบียบต่างๆ เพื่อที่จะได้ใช้อาคารแห่งนี้ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน”นายอามินทร์ กล่าว

นายอามินทร์ กล่าวต่อถึงความคืบหน้าการสร้างอาคาร เรียน 4 ชั้นของอาคารเรียนมิตรภาพที่ 223 โดยตน
ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้อำนวยการโรงเรียนว่า การสร้างอาคารมีความล่าช้ามากว่า6 ปี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายกับนักเรียนและโรงเรียนเป็นอย่างมาก ที่ต้องสูญเสียโอกาสในการที่จะมีสถานศึกษาที่ดี และเพียบพร้อมสมบูรณ์ ตนได้สอบถามปัญหาเบื้องต้นทราบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ได้นำเรื่องส่งถึง สำนักงานงบเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

“ผมในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ขอให้สำนักงาน สพฐ. หรือสำนักงบอนุมัติงบประมานสำหรับการก่อสร้างอาคารเรียนที่ยังค้างอยู่ให้แล้วเสร็จด้วย“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566

”สส.นเรศ“ขอ จ.เชียงใหม่หามติร่วมตัดสินเส้นทางชนบทที่4053 อยู่ในความรับผิดชอบของใคร จะได้แก้ไขปัญหาให้ ปชช.ชี้ เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

,

”สส.นเรศ“ขอ จ.เชียงใหม่หามติร่วมตัดสินเส้นทางชนบทที่4053 อยู่ในความรับผิดชอบของใคร จะได้แก้ไขปัญหาให้ ปชช.ชี้ เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

นายนเรศ ธำรงศ์ทิพยคุณ สส.เขต 9 จังหวัดเชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายกฯบริหารส่วนตำบลแม่วินและผู้ใหญ่บ้านบ้านม่อนยะ ถึงถนนเส้นทางชนบทที่4053 เส้นทางระหว่างบ้านม่อนยะ ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จนไปถึง บ้านห้วยน้ำจางหมู่6 ตำบลบ่อแก้ว อำเภอสะเมือง กม.ที่ 9.7 ซึ่งทางอบต.ได้ทำหนังสือแจ้งว่า ถนนได้มีความเสียหาย แต่ทางหลวงชนบทได้บอกว่า ได้ถ่ายโอนถนนไปแล้ว

นายนเรศ กล่าวต่อว่า ต่อมาท้องถิ่นก็ได้ติดต่อไปยัง อบจ.แต่ถนนเส้นดังกล่าวก็ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.อีก ตนขอให้จังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นเจ้าภาพบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามติร่วมกันว่า ถนนเส้นนี้อยู่ในความรับผิดชอบของใคร เพื่อจะได้เข้าไปแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชนต่อไป เพราะสถาพถนนขณะนี้เป็นอันตรายต่อการสัญจรมาก

“ผมยังได้รับการร้องเรียนจากนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลแม่วาง และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล บ้านกาด กรณีทางหลวงหมายเลข 1013 ช่ว บ้านกลาง ถึงแม่วิ นกม.ที่ 1-8 ในช่วงหน้าฝน หรือในช่วงฝนตกหนักน้ำ เกิดน้ำนองท่วมถนน พื้นผิวถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้พี่น้องซึ่งอยู่สองข้างทางถนนเส้นนี้ ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีทางระบายน้ำ ไม่มีช่องทางที่น้ำจะระบายออกได้ ประกอบกับเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมา จึงขอให้กรมทางหลวงช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนด้วย“นายนเรศ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2566