โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ผู้เขียน: pprpadmin

บิ๊กป้อม นำทัพ พปชร.ประชุมใหญ่สามัญ เปิดโฉมโลโก้พรรค ปลุกพลังตัวใหม่

,

บิ๊กป้อม นำทัพ พปชร.ประชุมใหญ่สามัญ เปิดโฉมโลโก้พรรค ปลุกพลังตัวใหม่

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 เมษายน ที่พรรคพลังประชารัฐ มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส. ตัวแทนภาค และตัวแทนสาขา และสมาชิกพรรค เข้าร่วมกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค, นายอุตตม สาวนายน รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รองหัวหน้าพรรค, นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค และนายวัน อยู่บำรุง กรรมการบริหารพรรค

โดยประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2568 ดำเนินการพรรคการเมืองตามกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน ตามมาตรา 43 และรับรองงบการเงิน ประจำปี 2567 ตามมาตรา 61 ของ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้แทนสาขาพรรคแตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสมาชิกพรรค รวมทัังสิ้นเกินกว่า 250 คนครบองค์ประชุมตามที่กฎหมายกำหนด

พล.อ.ประวิตร กล่าวเปิดประชุมว่า พรรคพลังประชารัฐขอประกาศจุดยืนทางการเมืองในการเป็นพรรค “อนุรักษ์นิยมทันสมัย” ที่มีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะยึดมั่นและปกป้องสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ อนุรักษ์และสืบสาน วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม จารีต ประเพณี และค่านิยมอันดีงามของชาติ โดยขอขอบคุณสมาชิกพรรคทุกคนที่เดินทางมาร่วมประชุมใหญ่ของพรรคในวันนี้

จากนั้นที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองที่ได้ดำเนินในรอบปี 2567 รวมถึงให้ความเห็นชอบงบการเงินของพรรคการเมืองประจำปี 2567 นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบตราสัญลักษณ์พรรคและความหมายของพรรคพลังประชารัฐตราใหม่ มีลักษณะดังนี้ คำว่า “พรรค” อยู่บนกึ่งกลางด้านในของเครื่องหมายพรรคการเมือง เหนือตัวอักษรคำว่า “พลังประชารัฐ” โดยมี คำว่า “พลัง” เป็นสีเขียว, คำว่า “ประชา” เป็นสีน้ำเงิน, คำว่า “รัฐ” เป็นสีแดง อยู่ภายในวงล้อพลวัต ที่มี 3 แถบสี เป็นสีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว บนพื้นสีขาว

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เลือกกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติมตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค 2 ตำแหน่ง ได้แก่ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และนายสุรเดช ยะสวัสดิ์ ด้วยคะแนน 339 ทั้ง 2 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการบริหารชุดใหม่ได้มีการปรับเปลี่ยนจากชุดเดิมหนึ่งตำแหน่งโดยมีการปลด น.ส.กาญจนา จังหวะ ออกจะกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากปรากฎภาพว่าไปร่วมกิจกรรมกับพรรคกล้าธรรม จึงมีการแต่งตั้ง นายธีระชัย และนายสุรเดช เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรคเพิ่มเติม

ที่มา: มติชนออนไลน์
วันที่: 27 เมษายน 2568

นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศรายชื่อประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐสูง

,

นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสหรัฐประกาศรายชื่อประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐสูง สำหรับกรณีของไทย สหรัฐอ้างว่ามีภาษีอยู่ร้อยละ 72 สหรัฐจึงจะคิดภาษีตอบโต้ไทยในอัตรากึ่งหนึ่ง คือร้อยละ 36 โดยรัฐบาลไทยกำลังเตรียมจะเจรจากับสหรัฐว่า รัฐบาลต้องคำนึงถึงความพร้อมของฐานะทางการคลังของประเทศไทยต่อนโยบายทรัมป์ 2.0 เช่นในส่วนของพื้นที่ทางการคลัง เราพร้อมที่จะรับมือความไม่แน่นอนหรือไม่ เพราะนโยบายทรัมป์มีแนวโน้มก่อให้เกิดความปั่นป่วนทางการค้า การเงิน และภูมิรัฐศาสตร์ ไทยจำเป็นต้องมีพื้นที่ทางการคลังที่เพียงพอเพื่อรองรับแรงกระแทกจากภายนอก
นายอุตตม กล่าวต่อว่า ตัวชี้วัดสำคัญที่กำลังสะท้อนความเปราะบางทางการคลังของไทยมีอยู่ 6 ข้อ
1.รายได้สุทธิต่อ GDP เฉลี่ยอยู่ที่เพียง 14.87% GDP (2564-2568) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศกำลังพัฒนาที่ 18-20% (รายงานความเสี่ยงทางการคลัง/สศค.) สะท้อนความสามารถจัดเก็บภาษีที่อ่อนแอ ส่งผลให้รัฐอาจไม่มีงบประมาณเพียงพอรองรับภาวะฉุกเฉิน และต้องพึ่งการกู้เงินมากขึ้นเมื่อเผชิญวิกฤต

2.สัดส่วนงบประมาณที่ปรับลดได้ยากในปี 2568 สูงเกือบถึง 70% งบประมาณ (เพิ่มจาก 62.72% ในปี 2564) ทำให้เหลืองบลงทุนหรืองบกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยลง ลดความสามารถในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ (รายงานความเสี่ยงทางการคลัง/สศค.) ทั้งนี้ งบประมาณรายจ่ายที่ปรับลดได้ยากประกอบไปด้วย

1. รายจ่ายสวัสดิการประชาชน เช่น เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
2. รายจ่ายสวัสดิการบุคลากรภาครัฐ เช่น ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ เงินบำเหน็จบำนาญ
3. รายจ่ายเงินเดือน เงินสมทบ และค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ
4. รายจ่ายเพื่อชำระหนี้และภาระผูกพันต่างๆ เช่น งบลงทุนผูกพันข้ามปี

3.สัดส่วนภาระดอกเบี้ยจากหนี้สาธารณะต่อรายได้ปี 2568 อยู่ที่ 9%และจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.2 % ในปี 2569 ข้อมูลจากสำนักวิเคราะห์งบประมาณของรัฐสภา เสียงถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ และอาจเพิ่มต้นต้นการกู้เงินในอนาคต ทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้นทั้งระบบ ขณะที่แนวปฏิบัติสากลที่หลายประเทศยึดถือIMF กำหนดไว้ที่ 15%

4.สัดส่วนการขาดดุลงประมาณต่อ GDP ปี 2568 อยู่ที่ -4.5% และปี 2569 จะอยู่ที่ -4.3% (แผนการคลังระยะปานกลาง) ซึ่งสูงกว่าระดับที่มีเสถียรภาพทางการคลัง ซึ่งการขาดดุลไม่ควรเกินร้อยละ 3 หากขาดดุลสูงอย่างต่อเนื่องจะทำให้หนี้พุ่งเร็ว เสี่ยงผิดวินัยการคลัง และเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ข้อมูลสำนักวิเคราะห์งบประมาณ/แผนการคลังของรัฐบาลระบุพยายายามลดการขาดดุลลง

5.ปี 2568 รัฐบาลกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 865,700 ล้านบาท (23.07% งบประมาณ) เกือบชนวงเงินกู้สูงสุด ซึ่งกำหนดไว้ที่ 970,768 ล้านบาท หากเกิดวิกฤติ รัฐจะไม่มีช่องว่างทางกฎหมายให้กู้เพิ่มเพื่อเยียวยาหรือ กระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรา 21 แห่ง พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กำหนดวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลไว้สูงสุด 1.ไม่เกิน 20% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี รวมกับ 2.ไม่เกิน 80% ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น

6.สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาล (ต้นเงิน + ดอกเบี้ย) ต่อรายได้ประจำปีงบประมาณ อยู่ที่ 35.14% โดยเพดานกำหนดไว้ที่ไม่เกินร้อยละ 35 (แผนการคลังระยะปานกลาง) เป็นสัญญาณเตือนด้านวินัยการคลัง จะเบียดงบพัฒนา งบลงทุน และสร้างความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการคลังในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม นายอุตตม ยังได้เสนอแนะการจัดงบประมาณปี 2569 ไปยังรัฐบาลว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณ โดยให้ความสำคัญกับโครงการที่สร้าง “ภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ” เช่นการพัฒนาทักษะแรงงาน การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กในภูมิภาค และการเสริมความสามารถในการแข่งขันของ SMEs รวมถึงต้องจัดงบพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เสริมความเข้มแข็งชุมชน ยกระดับขีดความสามารถผลิตสินค้าบริการป้อนตลาดในประเทศ และสอดคล้องกับห่วงโซ่อุปทานใหม่ในตลาดโลก เพื่อสนับสนุนภาคการส่งออก

“วันนี้หนี้สาธารณะอยู่ที่ 64.21%GDP (4/2568) ซึ่งกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP Research) ประเมินว่าอาจแตะ 70% ใน 2 ปีข้างหน้า และอาจแตะระดับ 80-90% ในอีก 10 ปีข้างหน้า หากไม่มีการปฏิรูปการคลังภาครัฐอย่างจริงจัง” นายอุตตม กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 เมษายน 2568

“พล.อ.ประวิตร” นำทัพ พปชร.ประชุมใหญ่ 27 เม.ย.นี้ เตรียมแก้ข้อบังคับพรรคพร้อมแต่งตั้ง กก.บห.เพิ่มเติม

,

วันที่ 22 เม.ย.ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองโฆษกพรรค พปชร. แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารประจำสัปดาห์ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติให้วันที่ 27 เมษายน เวลา 09.00 น.พรรคพลังประชารัฐ จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ อาคารรัชดาวัน กรุงเทพฯ
โดยเป็นการประชุมใหญ่ตามกฎหมายพรรคการเมือง เพื่อรายงานผลการดำเนินงาน ตามมาตรา 43 และรับรองงบการเงิน ประจำปี 2567 ตามมาตรา 61 ของ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 รวมถึงการพิจารณาแก้ข้อบังคับพรรค และแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติมด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 เมษายน 2568

‘ลุงป้อม’ส่งกำลังใจคนไทย! สงกรานต์ขอให้มีความสุข เริ่มต้นสิ่งดีๆ

วันเสาร์ ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2568, 10.33 น.

‘พล.อ.ประวิตร’ ส่งกำลังใจถึงประชาชนในเทศกาลปีใหม่ไทย ขอคนไทยทุกคนประสบความสำเร็จ มีแต่สิ่งดีๆ ตลอดไป

12 เมษายน 2568 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ส่งคำอำนวยพร เนื่องในเทศกาลสงกรานต์​ ปีใหม่ไทย ในปีนี้ ขอทุกท่านจงประสบความสำเร็จ เริ่มต้นปีใหม่อีกปี มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา สิ่งร้ายๆ ก็ขอให้ผ่านไป มีสุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดให้สมความปรารถนา ปราศจากโรคภัย อันตรายใดๆ ทั้งปวง และส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชน ให้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้ท่านพร้อมครอบครัว ประสบแต่ความสุข สมบูรณ์พูนผลทุกประการ ขออวยพรให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว มีความสุขตลอดไป เหมือนดั่งสายน้ำที่ไหลรินไม่มีวันสิ้นสุด

 

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 เมษายน 2568

จุดยืนประชารัฐจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเราไม่เอากาสิโน

วันนี้(3 เม.ย.)เวลา 10.30 น.ที่อาคารรัฐสภา พรรคประชารัฐ นำโดยนายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค และ สส.สกลนคร เขต 5 ,นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ สส.พังงา เขต 2 นายสุธรรม จริตงามสส.นครศรีธรรมราช ,นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1,นายคอซีย์ มามุ สส. ปัตตานี เขต 2, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาศูนย์นโยบายและวิชาการเดินเท้าเข้าให้กำลังใจ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย,ศปปส.,กองทัพธรรม ที่ชุมนุมค้านร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ บริเวณข้างรัฐสภาฝั่งวัดแก้วฟ้า

โดยนายชัยมงคล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเคารพในจิตวิญญาณการต่อสู้ และเชื่อว่าไม่มีพลังอะไรจะใหญ่เท่าพลังของประชาชน การพนันกาสิโน สถานบันเทิงครบวงจร เป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยปฏิเสธมาตลอด ในวันนี้ตนอยากวิงวอนไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้กลับมาทำหน้าที่ที่ควรเป็น คือเป็นตัวแทนของประชาชน ฟังเสียงประชาชน เรายืนยันว่าจะต่อสู้คัดค้านอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสภา หากในสภาพ่ายแพ้ เราพร้อมที่จะเดินออกมาสู้พร้อมกับประชาชน เพื่อบอกกับรัฐบาลว่าอย่าทำร้ายประชาชน และ ฟังเสียงประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ยังมีปัญหาอีกหลายเรื่องที่ประชาชนต้องการการแก้ไข การเร่งพิจารณาเรื่องกาสิโนเช่นนี้ตนมองว่าเป็นการมองข้ามหัวประชาชน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 เมษายน 2568

“พปชร.”จี้ รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือพายุเศรษฐกิจจะถาโถมหลายลูก แนะ ควรเร่งทำความเข้าใจกับอเมริกาด่วน หลังไทยโดนกำแพงภาษี 36%

“พปชร.”จี้ รัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือพายุเศรษฐกิจจะถาโถมหลายลูก แนะ ควรเร่งทำความเข้าใจกับอเมริกาด่วน หลังไทยโดนกำแพงภาษี 36%

วันนี้(3 เม.ย.)เวลา 09.30 น.ที่อาคารรัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาศูนย์นโยบายและวิชาการ โดยนายธีระชัย กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความห่วงใยในปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคตอันใกล้นี้ ที่ด้านหน้าดูเหมือนว่าจะมีเมฆหมอกพายุที่ตั้งเค้าอยู่หลายลูก แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลยังไม่มีแผนในการเตรียมรับมือที่จะรับมือ และเรายังโชคร้ายเผชิญกับปัญหาแผ่นดินไหวอีกด้วย ในขณะนี้มีความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ประการแรก หลายประเทศในยุโรปที่เตรียมจะส่งกำลังทหารเข้าไปประจำในประเทศยูเครน อันจะนำไปสู่การปะทะกับรัสเซีย ประการที่สองสหรัฐกับอิสราเอล อาจทิ้งระเบิดศูนย์พัฒนานิวเคลียร์ในอิหร่าน ทั้งสองเรื่องอาจจะทำให้ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นฉับพลัน

นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ล่าสุด สหรัฐเพิ่งประกาศตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เหตุการณ์ของโลกกำลังจากกระทบเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยสหรัฐตั้งอัตราภาษีนำเข้าตอบโต้ไทย 36% ได้คำนึงไปถึงการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และการกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนกว่าปกติเพื่อช่วยส่งออกด้วย เมื่อบวกกับภาษีฐานอีก 10% จะเป็น 46% อันนี้เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลจำเป็นต้องวางแผน รัฐบาลจึงต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และมาแถลงต่อประชาชนว่า ประชาชนจะรับมืออย่างไร

“เราได้มีการเตือนให้รัฐบาลเตรียมพร้อมล่วงหน้ามานานแต่ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้า ผมแนะนำให้รัฐบาลเร่งสอบถามสหรัฐให้ เราเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐไม่สูงเท่าไหร่ แต่สหรัฐอ้างว่า เราเก็บถึง 72% ซึ่งมาจากมาตรการการกีดกันที่ถือว่าประเทศไทยมี และจากการที่เขาประเมินว่า เรามีการบริหารค่าเงินบาท เพื่อช่วยในการส่งออก เราต้องเข้าไปชี้แจงและทำความเข้าใจว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร เรื่องนี้ต้องรีบดำเนินการ“

ด้าน มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า แผ่นดินไหวจะกระทบเศรษฐกิจมากกว่าที่คิด ข้อแรกคือ จะกระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ ข้อสอง จะทำให้มูลค่าคอนโดที่เป็นหลักประกันสินเชื่อลดลง และ ข้อสาม ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่สร้างความมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย และระบบการเตือนภัย ที่ครอบคลุมทั้งคนไทยและต่างชาติที่เป็นนักท่องเที่ยว ย่อมจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างแน่นอน อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ คุณจะใช้ซิมการ์ดของไทยหรือต่างชาติ ก็จะได้รับการแจ้งเตือน พร้อม ๆ กันทุกคนในวินาทีก่อนที่จะเกิดเหตุ แต่ประเทศไทยใช้งบประมาณไปกว่า 1.7 พันล้านบาท เพื่อให้ส่ง SMS แจ้งเตือน แต่ 1 ชั่วโมง ส่งได้ไม่ถึง 200,000 คน

“รัฐบาลทำมาตลอดตั้งแต่ปี 66 แต่กลับไม่ได้อะไรเลย เป็นระบบที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องคนไทย และวันนี้ก็ยังมีการตื่นตระหนกอยู่ บางสถานที่ก็ยังมีการอพยพอยู่ เพราะความเชื่อมั่นมันไม่เกิด นักท่องเที่ยวก็อาจจะมีความกังวลใจ และอาจทำให้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศด้วย และขอเตือนให้กระทรวงการคลังเฝ้าระวังเป็นพิเศษเรื่องความเสี่ยงเรื่องหุ้นกู้บริษัทอสังหาฯ ที่อาจประสบปัญหากระแสเงินสดติดขัดฉับพลันได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นปัญหาลูกโซ่”มล.กรกสิวัฒน์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 เมษายน 2568

“พลังประชารัฐ”ประกาศค้าน“เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์“หัวชนฝา หากพ่ายแพ้ในสภาฯ พร้อมลงถนน สู้เคียงข้างประชาชน

“พลังประชารัฐ”ประกาศค้าน“เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์“หัวชนฝา หากพ่ายแพ้ในสภาฯ พร้อมลงถนน สู้เคียงข้างประชาชน

วันนี้(3 เม.ย.)เวลา 10.30 น.ที่อาคารรัฐสภา พรรคประชารัฐ นำโดยนายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค และ สส.สกลนคร เขต 5 ,นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ สส.พังงา เขต 2 นายสุธรรม จริตงามสส.นครศรีธรรมราช ,นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1,นายคอซีย์ มามุ สส. ปัตตานี เขต 2, นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาศูนย์นโยบายและวิชาการเดินเท้าเข้าให้กำลังใจ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย,ศปปส.,กองทัพธรรม ที่ชุมนุมค้านร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ บริเวณข้างรัฐสภาฝั่งวัดแก้วฟ้า

โดยนายชัยมงคล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเคารพในจิตวิญญาณการต่อสู้ และเชื่อว่าไม่มีพลังอะไรจะใหญ่เท่าพลังของประชาชน การพนันกาสิโน สถานบันเทิงครบวงจร เป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยปฏิเสธมาตลอด ในวันนี้ตนอยากวิงวอนไปยังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้กลับมาทำหน้าที่ที่ควรเป็น คือเป็นตัวแทนของประชาชน ฟังเสียงประชาชน เรายืนยันว่าจะต่อสู้คัดค้านอย่างเต็มที่ทั้งในและนอกสภา หากในสภาพ่ายแพ้ เราพร้อมที่จะเดินออกมาสู้พร้อมกับประชาชน เพื่อบอกกับรัฐบาลว่าอย่าทำร้ายประชาชน และ ฟังเสียงประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง ยังมีปัญหาอีกหลายเรื่องที่ประชาชนต้องการการแก้ไข การเร่งพิจารณาเรื่องกาสิโนเช่นนี้ตนมองว่าเป็นการมองข้ามหัวประชาชน

“จุดยืนประชารัฐจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชนเราไม่เอากาสิโน“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 เมษายน 2568

สส.พปชร.ซัด รัฐบาล ไม่สนใจคนตายจากเหตุแผ่นดินไหว กลับเร่งเดินหน้าเปิดบ่อนเสรีในประเทศ ชี้ ได้เงินเข้าประเทศ แต่ต้องแลกด้วยปัญหาในสังคม

สส.พปชร.ซัด รัฐบาล ไม่สนใจคนตายจากเหตุแผ่นดินไหว กลับเร่งเดินหน้าเปิดบ่อนเสรีในประเทศ ชี้ ได้เงินเข้าประเทศ แต่ต้องแลกด้วยปัญหาในสังคม

วันนี้ (3 เมษายน 2568) เวลา 11.00 น.ที่อาคารรัฐสภา พรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายชัยมงคล ไชยรบ รองหัวหน้าพรรค และ สส.สกลนคร เขต 5 ,นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และ สส.พังงา เขต 2 นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช ,นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1,นายคอซีย์ มามุ สส. ปัตตานี เขต 2 ร่วมกันแถลงข่าวประกาศจุดยืนคัดค้านและต่อต้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ.

โดยนายชัยมงคล กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศชาติมีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสหรัฐประกาศตั้งกำแพงภาษีตอบโต้ หรือราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำอย่างหนัก ซึ่งเป็นเรื่องด่วนที่ต้องดำเนินการ แต่รัฐบาลกลับไม่ทำ แต่กลับมาทำเรื่องบ่อนการพนัน วันนี้ก็มีกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้านและต่อต้าน แต่ภายในรัฐสภาดูลุกลี้ลุกลน ดูผิดปกติ แต่จุดยืนของพรรคพลังประชารัฐเราไม่เอาด้วยกับเรื่องนี้แน่นอน เรารู้ดีว่าเอาเข้าสภา เราก็สู้เสียงส่วนใหญ่ที่จะต้องโหวตลงมติเห็นด้วยกับรัฐบาลไม่ได้ เพราะน่าจะมีผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝงอยู่ โดยที่ไม่คิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นมากมายเกินกว่าประเทศไทยจะรับได้

“พรรคพลังประชารัฐเข้าใจว่า การเปิดธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรจะมีเม็ดเงินเข้ามาในประเทศ แต่มันไม่คุ้มค่ากับความสูญเสียที่คนไทยจะถูกทำให้อ่อนแอ ประชาชนจะติดการพนันทั้งประเทศแล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศนี้ ข้ออ้างที่บอกว่าเราต้องการเงินจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศนั้น รัฐบาลรู้ดีว่า ท้ายที่สุดเงินในคาสิโนนั้นจะมาจากประชาชนคนไทย และอยู่ในกลุ่มของคนที่มีความหวังในการเสี่ยงดวง” นายชัยมงคล กล่าว

ส่วนการดำเนินการต่อไปของพรรคพลังประชารัฐนั้น นายชัยมงคล กล่าวว่า เราเชื่อว่าที่ประชุมสภาจะลงมติผ่านวาระที่ 1 ไปแน่นอน แต่ในช่วงผิดสมัยประชุม สส.พรรคพลังประชารัฐจะนำเรื่องนี้ไปขยายผล โดยเราจะลงพื้นที่ไปชี้แจงกับประชาชนให้ลุกขึ้นมาแสดงจุดยืนคัดค้านรัฐบาล ซึ่งหากรัฐบาลพยายามดึงดันที่จะปิดจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว ตนเกรงว่ารัฐบาลอาจจะอยู่ไม่ถึงวาระที่ 2 และ 3 เพราะม็อบของประชาชนจุดติดแน่นอน ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา ขอให้กลับมาตัวตนของตัวเอง ออกมายืนอยู่ข้างประชาชน และปกป้องประเทศชาติได้แล้ว  

ด้านนายฉกาจ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลเร่งบรรจุวาระดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราคัดค้านมาโดยตลอด แต่รัฐบาลเร่งรีบทั้งที่มีปัญหาเหตุแผ่นดินไหว มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจมัวแต่เดินหน้าทำบ่อนพนันภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าจะพิจารณาในวันพุธที่ 9 เม.ย.แต่วันนี้พรรคพลังประชารัฐเป็นเพียงแค่พรรคเล็ก ๆ เราไม่มีมือพอที่จะไปคัดค้านเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมสภาได้ แต่คนที่จะช่วยได้มากที่สุดคือ พลังของประชาชนที่ต้องแสดงจุดยืนว่า คนไทยไม่ต้องการบ่อนเสรีในประเทศนี้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 เมษายน 2568

บิ๊กป้อม เสียใจเหตุแผ่นดินไหว ย้ำ พปชร.เตือนแล้ว ให้ รบ. ปรับปรุงระบบเตือนภัย

บิ๊กป้อม เสียใจเหตุแผ่นดินไหว ย้ำ พปชร.เตือน รบ. ปรับปรุงระบบเตือนภัยแล้ว ซัด นายกฯ มีหน้าที่รับผิดชอบ อย่าโทษคนอื่น

เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 1 เมษายน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.และคณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้อาคาร สตง.ที่กำลังก่อสร้างถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดย พล.อ.ประวิตรแสดงความเสียใจและขอไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว

ทั้งนี้ได้เตือนรัฐบาลมาตั้งแต่เดือน ก.ย.2567 ที่เกิดเหตุอุทกภัยในภาคเหนือ ให้ปรับปรุงระบบการเตือนภัยไปยังประชาชนว่า จะมีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ รวมไปถึงแนวทางการดำเนินการอพยพประชาชน และสถานที่พักพิงชั่วคราว แต่ผ่านมากว่า 7 เดือน รัฐบาลก็ยังไม่มีความคืบหน้า ไม่ได้มีการพัฒนาหรือการปรับปรุงระบบการเตือนภัย และในประเทศที่พัฒนาแล้ว ระบบการเตือนภัยไม่ว่าจะเป็น เพลิงไหม้ขนาดใหญ่ แผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย หรือภัยพิบัติอื่น จะแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับก็อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และควรจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ โดยเร็วที่สุดหรือ ก่อน 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจว่าจากข้อมูลที่รัฐบาลแจ้งเตือนจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร ตลอดจนการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

“นายกฯไม่จำเป็นต้องโยนความผิดให้ใคร เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการกำกับดูแลและควบคุมการปฎิบัติงานของทุกภาคส่วน ในฐานะเป็นผู้นำคณะรัฐบาลให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้กำหนดเอาไว้ ถ้ารัฐบาลมีความใส่ใจในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น และหากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ประชาชนได้รับการแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว ความเสียหายคงจะไม่หนักเท่านี้อย่างแน่นอน” พล.ต.ท.ปิยะกล่าว

ที่มา:https://www.matichon.co.th/politics/news_5120569
วันที่: 1 เมษายน 2568

พปชร. เปิด 7 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ มั่นใจ ครั้งหน้าพลังประชารัฐโตกว่านี้แน่

พปชร.เปิด 7 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ น้องสาวดร.สุรินทร์ โผล่ด้วย “ฉกาจ” ยัน ไม่ส่งชิงเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน เขต 8 บอกให้เกียรติเจ้าพื้นที่เดิม มั่นใจ ครั้งหน้าพลังประชารัฐโตกว่านี้แน่

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ จำนวน 7 ราย ดังนี้ นางฮูวัยดิย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 จ.นครศรีธรรมราช นายประจวบเหมาะ ภักดีชน ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 4 จ.นครศรีธรรมราช นายแสงไทย จริตงาม ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช นายกอเซ็ง แซมะซู ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต 5 นราธิวาส นายกามิน มุชิ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 ยะลา นายสมมิตร ทองเหลือ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 2 ชุมพร และนายสมพงศ์ ทั่งศรี ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 ประจวบคีรีขันธ์

นายฉกาจ กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 จ. นครศรีธรรมราชหรือไม่ว่า พรรค พปชร.จะไม่ส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพราะให้เกียรติพรรคเดิม เราในฐานะที่เป็นฝ่ายค้านก็เตรียมการเลือกตั้งในปี 70 และเราเห็นใจพรรคเจ้าของพื้นที่เดิม ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองเหมือนกัน เคยทำงานร่วมกันมา นอกจากนี้ เสียงของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลก็ต่างกันมาก ถ้าเราได้เพิ่มมาอีกหนึ่งเสียงก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ไม่มากนัก ดังนั้น เราเตรียมความพร้อมในการลงสมัคร สส. ครั้งต่อไปน่าจะเหมาะสมกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ใช่ว่าประเมินแล้วจะสู้คู่แข่งไม่ได้จึงไม่ส่งใช่หรือไม่ นายฉกาจ กล่าวว่า ไม่ใช่ พรรคเรามีผู้มาเสนอตัวเยอะ และเราตัดสินใจนานแล้วที่จะไม่ส่งลงกับครั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะมาลงกับเราก็ได้ตัดสินใจย้ายจากพรรค พปชร.ไปสังกัดพรรคอื่น เพื่อมีเวลาตามที่กฎหมายกำหนดที่จะสมัคร สส. ในพรรคนั้น เราจึงไม่ประสงค์ที่จะส่งแต่ต้น ทั้งนี้ ในอนาคตข้างหน้า เราเชื่อแน่ว่า เราจะโตขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นเราเตรียมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า ครั้งนี้เราไม่ตัดสินใจส่ง แต่ได้บอกให้ฐานเสียงไปช่วยพรรคอื่นที่เป็นพันธมิตรกับเราหรือไม่ นายฉกาจ กล่าวว่า จริงๆ ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เขตนี้ผู้สมัคร สส. พรรค พปชร.ได้ที่สอง คะแนนห่างจากคนที่ได้ที่หนึ่ง 2,000 – 3,000 คะแนน ไม่ใช่ว่าเราสู้ไม่ได้ แต่เราให้เกียรติพื้นที่เดิม เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคภูมิใจไทยใช่ นายฉกาจ กล่าวว่า ส่วนหนึ่ง คิดว่าก็ยังทำงานร่วมกันได้ เราให้เกียรติเขา

ที่มา: https://www.naewna.com/politic/874226
วันที่: 1 เมษายน 2568

4 ลูกเรือกลับถึงไทย เผยภาพวิดีโอคอลขอบคุณ “บิ๊กป้อม” เคลมช่วยเจรจาสำเร็จ

4 ลูกเรือไทย กลับถึง จ.พังงา หลังเมียนมาปล่อยตัว เผยภาพวิดีโอคอลขอบคุณ “พล.อ.ประวิตร” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคลมช่วยเจรจาสำเร็จลุล่วง

วันที่ 30 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเจ้าของเรือและลูกเรือประมงไทยชาวพังงา ถูกทางการเมียนมาจับตัวไปพร้อมเรือ ส.เจริญ รวมระยะเวลา 120 วัน และล่าสุดถูกปล่อยตัวและได้เดินทางกลับไทยแล้วนั้น วันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. นายไพรัช เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายพิชญพัทธ์ เรืองชาตรี นายอำเภอตะกั่วทุ่ง น.ส.สมพรทิพย์ สุขวโรดม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา พ.ต.อ.จิระวัฒน์ สาระรัมย์ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า นายทวี แพใหญ่ นายกสมาคมประมงจังหวัดพังงา นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันต้อนรับ นายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 68 ปี หรือ โกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 และนายสมปอง วิวัฒน์ อายุ 61 ปี ช่างเครื่องเรือ ส.เจริญชัย 8 กลับบ้าน

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมคณะ เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าของขวัญให้ลูกเรือประมงไทย 4 คน ที่เดินทางกลับจากประเทศเมียนมา ณ บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอตะกั่วป่า และโรงพยาบาลตะกั่วป่า เข้าสอบถามด้านสุขภาพ รวมถึงมีการนิมนต์พระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์เป็นการรับขวัญและเป็นสิริมงคลแก่ผู้ถูกปล่อยตัวด้วย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวตอนหนึ่งว่า ได้สอบถามด้านสุขภาพของเจ้าของเรือและลูกเรือ พร้อมให้ทางสาธารณสุขเข้าดูแลสุขภาพ จากนี้ครอบครัวของชาวประมงหมดทุกข์หมดโศก พร้อมได้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

ทางด้าน นายวิโรจน์ หรือ โกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาครั้งนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ ยอมรับว่าขณะถูกจับกุมและถูกกักขังในพม่าลำบากและเครียดมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ลูกเรือไทย 4 คนที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัว กลับถึงบ้านน้ำเค็ม จ.พังงา ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีครองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านวิดีโอคอล หลังมีรายงานว่า สส.พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ประสานขอความช่วยเหลือโดยตรง ทำให้การเจรจาสำเร็จอย่างรวดเร็ว ส่วนเรือคาดว่าจะได้คืนในไม่ช้า

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2850197
วันที่: 1 เมษายน 2568

“ชัยมงคล” มัดรวมปัญหา mou44-กาสิโน-ที่ดินอัลไพล์-ปัญหาราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ-ยาเสพติด ไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร” ขอ นายกฯกลับตัวกลับใจเร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

“ชัยมงคล” มัดรวมปัญหา mou44-กาสิโน-ที่ดินอัลไพล์-ปัญหาราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ-ยาเสพติด ไม่ไว้วางใจ “แพทองธาร” ขอ นายกฯกลับตัวกลับใจเร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน

เมื่อเวลา 20.20น. วันที่ 25 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวอภิปรายว่า จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยให้สัมภาษณ์เรื่อง MOU 2544 ที่ระบุว่า”เส้นเขตแดนที่คุยกันไม่รู้จบ เมื่อไม่รู้จบแบ่งไม่ได้ก็ขุดมาแบ่งกัน“ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นของคนไทยไม่ว่าจะเป็นใต้น้ำหรือบนดินอย่างชอบธรรม แต่นายกฯกำลังจะเอาทรัพยากรที่อยู่ใต้น้ำซึ่งมีมูลค่ามากกว่า10ล้านล้านบาท ไปประเคนให้กับประเทศกัมพูชาแบบนี้ถือเป็นข้อตกลงระหว่างคนในครอบครัวนายกฯกับประเทศกัมพูชาหรือไม่เพราะได้ข่าวว่ามีความสนิทสนมกันมาก ตนขอเตือนให้นายกฯถอยออกมาอย่าเอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกกับผลประโยชน์ส่วนตน นี้เป็นประเด็นแรกที่ตนไม่ไว้วางใจ

นายชัยมงคล กล่าวต่อว่า ในเรื่องของเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ สถานบันเทิงครบวงจร ที่กำลังศึกษาก่อนนำเข้าที่ประชุมครม.อีกครั้งนั้น เรื่องนี้นายกฯไม่ได้บอกกับประชาชนตอนหาเสียงแต่จะเอามาทำ ซึ่งเราทุกสอนกันมาตลอดว่าการพนันเป็นสิ่งไม่ดี แต่นายกฯกลับจะเอามาทำให้ถูกฎหมาย เอามามอมเมาประชาชนโดยบังหน้าด้วยคำว่าสถานบันเทิงครบวงจร มีกาสิโนเพียง10 เปอร์เซนต์เท่านั้น แต่ทราบหรือไม่ว่าพื้นที่แค่นี้คือพื้นที่ทำลายประเทศ ทำลายความเป็นมนุษย์ของคนไทย กาสิโนคือผ้าคลุมปีศาจที่กำลังให้ประเทศชาติหายนะ นอกจากนั้นยังมีการทำพนันออนไลน์ซึ่งเป็นอสูรตัวจริงมาทำให้ถูกต้องตามกฎหมายตนจึงอยากถามว่าท่านใช้สมองส่วนไหนคิด การพนันไม่สามารถทำให้ประเทศเจริญได้ เพื่อนบ้านมีกาสิโนมากมายแต่ยังมีคนต่างด้าวยังเข้ามาทำงานประเทศไทย ขอนายกฯหยุดทำลายชาติ ทำลายคนไทย พรรคพลังประรัฐไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว

นายชัยมงคล กล่าวอีกว่า เรื่องของที่ดินอัลไพล์ ได้ข้อเท็จจริงชัดเจนว่าเป็นที่วัด แต่ครอบครัวของนายกฯยังไม่ยุติด้วยความโลภ ทำให้เห็นว่านายกฯขาดจริยธรรม ขาดความซื่อสัตย์สุจริต มีอีกหลายเรื่องที่นายกฯพูดแล้วไม่ทำ วันที่นายกฯหาเสียงบอกว่าคนไทยจะมีกินมีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี นั้นถือเป็นสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับประชาชนแต่ก็ไม่ได้ทำตามที่พูดไว้ ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเกษตรกรยากจน เรียกร้องให้นายกฯเร่งแก้ปัญหาแต่กลายเป็นลมที่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ทั้งปัญหายาเสพติดและความมั่นคงที่จะยังได้รับการแก้ไขอย่างมาก ตนขอร้องให้นายกฯกลับตัวกลับใจเร่งแก้ไขปัญหาประชาชนจะชื่นชม ความเป็นนักการเมืองไม่ควรอยู่ใต้อาณัติใคร ยิ่งเป็นอาณัติที่ไม่มีประโยชน์ต่อชาติแล้ว เรายืนหยัดในหลักการที่จะไม่สนับสนุนให้คนไม่ดีได้ปกครองบ้านเมือง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 มีนาคม 2568