โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ปี: 2024

”รมช.อรรถกร“ยืนยัน กระทรวงเกษตรฯเปิด 73 จุด รับซื้อปลาหมอคางดำ โลละ 15 บาท ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่น ไม่มีกระบวนการวุ่นวาย ชวน คนไทยช่วยกันแก้ปัญหา อย่าส่งมรดก“ปลาหมอคางดำ“ให้ลูกหลาน

,

”รมช.อรรถกร“ยืนยัน กระทรวงเกษตรฯเปิด 73 จุด รับซื้อปลาหมอคางดำ โลละ 15 บาท ครอบคลุมทั่วประเทศ ลั่น ไม่มีกระบวนการวุ่นวาย ชวน คนไทยช่วยกันแก้ปัญหา อย่าส่งมรดก“ปลาหมอคางดำ“ให้ลูกหลาน

วันที่ 3 ส.ค.67 เวลา 09.00 น. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ ตลาดคลองด่าน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อพบปะเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง พร้อมมอบเครื่องมือประมงใช้จับปลาหมอคางดำ โดยได้พูดคุยกับเกษตรกรในพื้นที่ ว่า ได้มีการตรวจสอบไปหลายที่จากกรณีที่พี่น้องประชาชนบอกว่า มีขั้นตอนหลายอย่างในการที่จะเข้าร่วมโครงการกระทรวงเกษตรฯตั้งค่าหัวล่าปลาหมอคางดำกิโลกรัมละ 15 บาท ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงเกษตรฯร่วมด้วยช่วยกันทั้ง 22 หน่วยงาน เราเปิดกว้างไม่ว่าคุณจะเป็นใครเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิง อายุเท่าไหร่ก็ตาม ถ้าคุณมีความสามารถจับปลาหมอคางดำได้มากเท่าไหร่ เรามีจุดรับซื้อทั่วประเทศ 73 จุด โดยไม่ต้องใช้เอกสาร ไม่ต้องผ่านกระบวนการมากมายอย่างที่เป็นข่าว

“ผมมาวันนี้เพื่อจะมาขอความร่วมมืออีกครั้ง และผมเชื่อว่าวันนี้จะไม่ใช่วันสุดท้าย ผมในฐานะตัวแทนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องที่เป็นชาวประมงมาร่วมจับปลาหมอคางดำกับพวกเรา เพราะปัญหาปลาหมอคางดำเป็นปัญหาของพวกเราทุกคน ถ้าเรายังปล่อยให้มีการระบาด นั่นหมายความว่า เราจะส่งต่อมรดกที่เรียกว่าปลาหมอคางดำสู้รุ่นลูกรุ่นหลานของเราต่อไป”นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยุคนี้ ไม่ว่าเป็นกรมประมง กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ดี กรมพัฒนาที่ดิน กรมการเกษตร การยาง หรือแม้กระทั่ง หน่วย
งานอื่นๆ เราทำงานร่วมกัน ในส่วนของกรมประมงจังหวัดสมุทรปราการ ตนขอเรียนว่า ท่านทำงาน ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ ท่านต้องประสานกับหน่วยงาน ในพื้นที่ ต้องขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด และตนได้รับการยืนยันจากนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หากพื้นที่ใดมีการชุกชุมของปลาหมอคางดำ ท่านประสานเข้าไปขอกำลังเขาทหารเพื่อมาช่วยจับได้ ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าอีก 1-2 เดือน เมื่อเรามาประเมินสถานการณ์การปลาหมอคางดำจะต้องดีขึ้น ถ้าพวกเราช่วยกันก็จะแก้ไขปัญหาได้เร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้นายอรรถกร ยังได้ร่วมกิจกรรมปฏิบัติการลงแขกลงคลอง เพื่อจับปลาหมอคางคำร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ โดยชี้ให้เห็นว่ายอมรับตรงๆว่าวันแรกของโครงการก็คือ วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา อาจจะยังมีความไม่เข้าใจ หรืออาจจะเกิดความบกพร่องในเรื่องของการสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะชาวประมงทำให้พี่น้องยังไม่มีความมั่นใจว่า จับมาแล้วจะเอาไปแลกเป็นเงินค่าหัวที่ ร.อ.ธรรมนัส ประกาศไว้ว่า กิโลกรัมละ 15 บาท ได้หรือไม่ ซึ่งขอยืนยันว่า เรายินดี รับทุกกิโล เพื่อที่จะให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในการที่จะนำปลาหมอคางดำออกจากระบบให้มากที่สุด โดยไม่มีกระบวนการยุ่งยาก เราโดยเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดําทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 – 31
สิงหาคม 2567

สําหรับจุดรับซื้อแต่ละจังหวัด มีดังนี้ จังหวัดจันทบุรี มีจุดรับซื้อทั้งหมด 4 จุด จังหวัดระยอง 2 จุด จังหวัด
ฉะเชิงเทรา 3 จุด จังหวัดสมุทรปราการ 6 จุด จังหวัดนครปฐม 1 จุด จังหวัดนนทบุรี 1 จุด จังหวัดสมุทรสาคร 6 จุด จังหวัด สมุทรสงคราม 3 จุด จังหวัดราชบุรี 1 จุด จังหวัดเพชรบุรี 10 จุด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 13 จุด จังหวัดชุมพร 14 จุด จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 จุด จังหวัดนครศรีธรรมราช 5 จุด และจังหวัดสงขลา 1 จุด รวมทั้งสิ้น 73 จุดรับซื้อ

โดยผู้ขายรายย่อย (เกษตรกร ชาวประมง) ไม่มีหลักเกณฑ์กําหนดในการรับซื้อ สามารถนํามาขาย ณ จุดรับซื้อต่าง ๆ ได้ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท ไม่จํากัดจํานวน แต่หากเกษตรที่มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา (ทบ. 1) จับจากบ่อตนเอง ให้แจ้งข้อมูล ทบ.1 กับเจ้าหน้าที่ ณ จุดรับซื้อ เพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลต่อไป

นายอรรถกร ยังกล่าวถึงงบประมาณที่จะนำไปใช้ในโครงการรับซื้อปลาหมอคาง เราได้รับความร่วมมือจากการยางแห่งประเทศไทย ในการที่จะใช้เงินทุน ที่ไม่ใช่เงินกองทุนที่เขาจะนำไปใช้ช่วยเหลือพี่น้อง ชาวสวนยาง แต่ตอนนี้เราใช้เงินทุนของการยาง เบื้องต้นจะใช้ 50 ล้าน ในการที่จะระดมนำปลาหมอคางดำออกจากระบบนิเวศให้มากที่สุด แล้วนำไปทำอย่างอื่น โดยเชื่อว่าการนำไปแปรรูปก็จะเป็นประโยชน์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯได้ประกาศ 7 มาตรการ เพื่อแก้ปัญหาปลาหมอคางดำของกระทรวงเกษตรประกอบด้วย
1. จำเป็นต้องกำจัดและนำปลาหมอคางดำออกจากระบบนิเวศของไทยให้มากที่สุด
2. มาตรการรอการกำจัด โดยต้องรอให้ปลาหมอคางดำลดลง หลังจากนั้นจะใช้วิธีธรรมชาติบำบัดโดยการปล่อยปลานักล่าลงไป อาทิ ปลากะพง ปลาอีกง ที่เราเชื่อว่าในช่วงเวลาที่เหมาะและพื้นที่ที่เราศึกษามาแล้ว โดยแต่ละพื้นที่จะใช้ปลานักล่าไม่เหมือนกัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณปลาหมอคางดำได้มากขึ้น
3. นำปลาหมอคางดำที่จับขึ้นมาได้ไปใช้เรื่องอื่นๆ โดยตั้งเป้าภายในปีนี้จนถึงกลางปีหน้าเราจะจับให้ได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 ตัน หรือ 4 ล้านกิโลกรัม
4. มาตรการเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปพื้นที่อื่น
5. ทำความเข้าใจเรื่องการแพร่ระบาดกับประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดที่มีการแพร่ระบาด
6. ใช้การวิจัย นวัตกรรมเข้ามาช่วย เช่น การเหนี่ยวนำโครโมโซม จาก 2n เป็น 4n ซึ่งจะทำให้ปลาเป็นหมัน และเราจะใช้ฟีโรโมน หรือสารคัดหลั่งในการดึงดูดทางเพศ ในการนำแสงสีไปล่อให้ปลาหมอคางดำมารวมอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการจับและกำจัด ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับการใช้แสงสีเขียวล่อหมึก
7. การฟื้นฟู กระทรวงเกษตรฯ จะต้องไปศึกษาแหล่งน้ำที่เราพบปลาหมอคางดำ ในปัจจุบันมีปลา ปู กุ้ง หอย อะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลให้กรมประมงเตรียมเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อคืนระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ให้กลับมา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2567

พล.อ.ประวิตร ประธานโอลิมปิกไทย บุกกรุงปารีส เชียร์สนั่น “น้องวิว กุลวุฒิ” นักตบลูกขนไก่ ปะทะจีน คว้าชัย2เซ็ทรวดเข้ารอบ4คน โอลิมปิก 2024

,

พล.อ.ประวิตร ประธานโอลิมปิกไทย บุกกรุงปารีส เชียร์สนั่น “น้องวิว กุลวุฒิ” นักตบลูกขนไก่ ปะทะจีน คว้าชัย2เซ็ทรวดเข้ารอบ4คน โอลิมปิก 2024

เมื่อ 2 ส.ค.67 ,23.45น. เวลาประเทศไทย มีการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยวรายการ โอลิมปิก ปารีส-2024 และมีการถ่ายทอดสด การแข่งขัน มายังประเทศไทย

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินทางไปให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปารีส-2024 ด้วยในครั้งนี้ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีนักกีฬาทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันมากเป็นประวัติศาสตร์จำนวน 51 คน 17 ชนิดกีฬาระหว่าง วันที่ 26 ก.ค. ถึง 11 ส.ค.67

โอกาสแรกเมื่อ พล.อ.ประวิตร เดินทางถึง ได้เข้าชมการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว ซึ่งน้องวิว กุลวุฒิ ได้พบกับ ฉียู่ฉี มืออันดับ1 ของโลก จากประเทศจีน ณ สนาม Porte de La Chapelle arena โดยมีคณะประกอบด้วย คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล คณะกรรมการไอโอซีและนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ในระหว่างการแข่งขัน พล.อ.ประวิตร ได้ให้กำลังใจส่งเสียงเชียร์และปรบมือให้น้องวิว เป็นระยะด้วยความตื่นเต้นในเกมส์การแข่งขัน ในช่วงที่น้องวิวทำคะแนนได้ ซึ่งการแข่งขันของทั้ง2ชาติ เป็นไปอย่างเข้มข้น เล้าใจ และ มีความภาคภูมิใจที่นักกีฬาทีมชาติไทยสามารถต่อสู้ คับเขี้ยวกับคู่ต่อสู้ซึ่งมีอันดับโลกสูงกว่าได้และสามารถเอาชนะ ฉียู่ฉีเข้ารอบ4คนสุดท้ายได้ในที่สุด 2เซ็ทรวด ด้วยสกอร์ 21:12 และ21:10 นำมาซึ่งความภาคภูมิใจและความดีใจของคนไทยทั่งประเทศ ซึ่งได้รับชมการแข่งขันจากการถ่ายทอดสดมายังประเทศไทยด้วย

ภายหลังการแข่งขัน พล.อ.ประวิตร ได้ถ่ายรูปร่วมกับน้องวิว เพื่อแสดงความยินดีและอวยพรขอให้ น้องวิว ให้ได้รับเหรียญทองเพื่อ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และ ขอให้คนไทยร่วมให้กำลังใจน้องวิว ประสบความสำเร็จในนัดต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2567

”ทีมโฆษก พปชร.“เผย“สามารถ”ขอโทษและยุติบทบาทที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การเป็นพรรคร่วม รบ.แล้ว ย้ำ “พปชร.”เป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนให้ความเคารพ“พล.อ. ประวิตร”

,

”ทีมโฆษก พปชร.“เผย“สามารถ”ขอโทษและยุติบทบาทที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การเป็นพรรคร่วม รบ.แล้ว ย้ำ “พปชร.”เป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนให้ความเคารพ“พล.อ. ประวิตร”

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค เรียกนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มาทำการพูดคุยถึงพฤติกรรมที่แสดงความคิดเห็นที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลนั้น ในประเด็นดังกล่าว ได้มีการพูดคุยตามที่เป็นกระแสข่าวจริง โดยมีนายสันติ และ นายสามารถฯ และตน ได้พูดคุยทำความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อย

ทั้งนี้นายสันติ ได้ตักเตือนนายสามารถให้เข้าใจมารยาททางการเมือง เพราะถึงแม้ว่าการแสดงความคิดเห็นของนายสามารถจะเป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นไปตามสิทธิของกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่การแสดงความคิดเห็นนั้นมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนายสามารถได้กล่าวขอโทษ และยืนยันที่จะหยุด ยุติการกระทำทุกอย่างที่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในการร่วมรัฐบาลทันที ซึ่งได้มีการนำเรียนให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ทราบแล้ว และจะแจ้งให้กรรมการบริหารพรรค รวมถึงสส.และสมาชิกพรรครับทราบในโอกาสต่อไป

“พรรคเราปกครอง ดูแลลูกพรรคเหมือนครอบครัวเดียวกัน เมื่อผิดหรือพลาดไปก็ตักเตือนกัน ทำให้ถูกต้อง แต่ถ้ายังดื้อดึงก็จะมีมาตรการตามระเบียบของพรรคต่อไป ผมยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งเดียวไม่มีแตกแยก โดยทุกคนให้ความเคารพท่านหัวหน้าพรรคมาโดยตลอด“ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ก่อนที่ พล.อ.ประวิตรฯ จะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส ท่านไม่ได้ห่วงถึงปัญหาดังกล่าว บอกเพียงแค่ว่าเป็นเรื่องในบ้าน และมอบหมายให้นายสันติจัดการให้เกิดความเรียบร้อย เรื่องที่ห่วงมากกว่าก็คือ ปัญหาความยากจน ปากท้องชาวบ้าน และปัญหาปลาหมอคางดำ จึงได้ให้ สส.และแกนนำในพื้นที่ร่วมดำเนินการกับกระทรวงเกษตรฯ ขับเคลื่อนนโยบาย 7 มาตรการปราบปลาหมอคางดำให้เป็นผล ส่วนอะไรที่ทำได้ก่อนก็ให้รีบช่วยชาวบ้าน เช่น เปิดตลาดรับซื้อปลาหมอคางดำราคาสูง เพื่อสร้างแรงจูงใจในการออกล่าจับปลามาขาย การแปรรูปอาหารจากปลาหมอคางดำ จะทำให้ปัญหาลดลงเป็นการแบ่งเบาภาระของรัฐบาล

“ในฐานะที่ท่านหัวหน้าพรรคเป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สิ่งที่ท่านเป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คือ ประเทศไทยจะได้เหรียญทองกี่เหรียญในกีฬาโอลิมปิก 2024 ปีนี้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรฯได้เดินทางไปให้กำลังใจนักกีฬาระหว่างวันที่ 2-5 ส.ค.รวมทั้งอยากให้พี่น้องชาวไทยช่วยส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาไทยชิงชัยโอลิมปิก 2024 ด้วย”พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2567

ประธานโอลิมปิก จัดเลี้ยงขอบคุณ/ให้กำลังใจนักกีฬาปารีส-2024 ชื่นชมผลงาน สะท้อนศักยภาพนักกีฬาไทย สูงขึ้น

,

ประธานโอลิมปิก จัดเลี้ยงขอบคุณ/ให้กำลังใจนักกีฬาปารีส-2024 ชื่นชมผลงาน สะท้อนศักยภาพนักกีฬาไทย สูงขึ้น

เมื่อ 4 ส.ค.67, 18.30 น. (เวลาประเทศฝรั่งเศส) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำให้แก่นักกีฬาทีมชาติไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ สตาฟโค้ชและสมาคมกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปารีสเกมส์-2024 ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมี เอกอัครทูต ศรัณย์ เจริญสุวรรณ และภริยาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ทั้งนี้ มีนักกีฬาทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 จำนวนทั้งสิ้น 51คน 17 ชนิดกีฬา ซึ่งถือเป็น ประวัติศาสตร์ที่มีนักกีฬาไทย ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน ในครั้งนี้

สำหรับงานเลี้ยง ได้จัดอาหารบุฟเฟ่ต์ บรรยากาศ สบาย ๆ ชิวๆ สไตล์คนไทย มีอาหารไทย เช่น ผัดกะเพราไก่ ,แกงเขียวหวานทะเล,ส้มตำไทย,ลาบหมู,ไก่ทอด และทอดมันกุ้ง เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร ได้ถ่ายรูปร่วมกับคณะนักกีฬา และได้กล่าวแสดงความชื่นชม ขอบคุณ ให้กำลังใจนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้องทุกคน ที่มาร่วมงาน ในวันนี้ พร้อมขอให้ทุกคนได้มุ่งมั่น พยายาม พัฒนาความสามารถของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังได้กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมานักกีฬาได้มีการเตรียมความพร้อม ในการฝึกซ้อมและสามารถได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาระดับโลก คือกีฬาโอลิมปิก ปารีสเกมส์-2024 ในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญที่มีนักกีฬาทีมชาติของไทยได้เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวนมาก และได้ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม หลายรายการ กีฬาย่อมมีแพ้ มีชนะเป็นเรื่องธรรมดา การรู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัยเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งการเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ผ่านการแข่งขันกีฬานั้นเป็นเรื่องที่น่ายกย่องสำหรับคนไทย จึงขอขอบคุณแทนคนไทย ที่นักกีฬาทุกคน ทุกสมาคม ได้ทุ่มเท ตั้งใจแข่งขันและทำหน้าที่ของตนด้วยดีและเรายังมีรายการแข่งขันอีก ซึ่งยังมีความหวังที่จะได้รับเหรียญ จึงขอให้นักกีฬา ได้ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อชื่อเสียงประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ที่ตั้งตารอคอยความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติไทย ในครั้งนี้ พร้อมทั้งขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูตและภริยาที่ให้การต้อนรับ และสนับสนุนทีมนักกีฬาทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่ทุกคน ในโอกาสนี้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 สิงหาคม 2567

”สส.อัคร“เผย โครงการขุดเจาะบ่อบาดาล หมู่ 2 บ้านหนองหมู เสร็จพร้อมใช้แล้ว เชื่อ บรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำให้ ปชช.พร้อมเพิ่มแหล่งน้ำดิบให้เกษตรกรใช้เพาะปลูกได้

,

”สส.อัคร“เผย โครงการขุดเจาะบ่อบาดาล หมู่ 2 บ้านหนองหมู เสร็จพร้อมใช้แล้ว เชื่อ บรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำให้ ปชช.พร้อมเพิ่มแหล่งน้ำดิบให้เกษตรกรใช้เพาะปลูกได้

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเรียบร้อยของโครงการขุดเจาะน้ำบาดาลของ อบจ.เพชรบูรณ์ ต.ประดู่งาม หมู่ที่2 บ้านหนองหมู อ.ศรีเทพ ตามการร้องขอจากองค์การบริหารส่วนตำบลประดู่งาม เนื่องจากภัยแล้งทิ้งช่วงเป็นระยะยาวนาน จึงได้บูรณาการการทำงานร่วมกันในการจัดหาน้ำให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคได้ใช้ประโยชน์อย่างทั่วถึง และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว

ที่ผ่านมาพื้นที่อำเภอวิเชียรบุรี และศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ต้องเผชิญกับปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยมาโดยตลอด ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์มีครัวเรือนทั้งหมดเกือบ 300,000 ครัวเรือน ทำอาชีพเกษตรกรรมไปแล้วเกือบ 100,000 ครัวเรือน ถือว่าเป็นอาชีพหลักของคนในพื้นที่ ทุกคนต่างหวังว่าน้ำฝนจะตกมาในปริมาณที่พอเพียง และตกตามฤดูกาล แต่ฝนกลับไม่ตกและ น้ำก็กักเก็บไม่พอ ทำให้พืชผลเสียหายทางการเกษตรเสียหายหนัก

“สภาพภูมิศาสตร์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีแม่น้ำป่าสักเป็นหัวใจหลัก ซึ่งมีความยาวราว 350 กิโลเมตร ไหลผ่านตั้งแต่เหนือสุดไปถึงใต้สุดของจังหวัดก็จริง แต่ปัญหาคือความลาดชันของแม่น้ำป่าสัก จุดสูงสุดของความลาดชันอยู่ที่ 190 เมตรส่วน จุดต่ำสุดอยู่ที่อำเภอศรีเทพ อยู่ที่ประมาณ 40 เมตร จากความลาดชันนี้ทำให้อำเภอวิเชียรบุรีและศรีเทพ ไม่สามารถเก็บกักได้จากแม่น้ำป่าสักและไหลออกไปจังหวัดอื่นเกือบหมด ดังนั้น จึงเกิดความยากลำยากที่จะหาน้ำมาบริโภคและทำการเกษตร ซึ่งผมเชื่อว่า โครงการขุดเจาะบ่อบาดาล จะสามารถเพิ่มแหล่งน้ำดิบ เพื่อใช้ในการเกษตรในช่วยหน้าแล้งได้“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 สิงหาคม 2567

“ลุงป้อม“นำโชคให้ทัพนักกีฬาไทย บุกปารีส”เชียร์ดุเดือด ปรบมือทุกจังหวะ ส่งกำลังใจติดขอบมา 2 สนาม ยังไร้พ่าย แถมพลิกโค่นมือหนึ่งของโลกได้สำเร็จ

,

“ลุงป้อม“นำโชคให้ทัพนักกีฬาไทย บุกปารีส”เชียร์ดุเดือด ปรบมือทุกจังหวะ ส่งกำลังใจติดขอบมา 2 สนาม ยังไร้พ่าย แถมพลิกโค่นมือหนึ่งของโลกได้สำเร็จ

พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางออกจากประเทศไทยตั้งแต่เย็นวันที่ 1 ส.ค.ไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปให้กำลังใจนักกีฬาของประเทศไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 33 ซึ่งมีนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันมากเป็นประวัติการณ์ จำนวน 51 คน 17 ชนิดกีฬา

ทันทีที่ไปถึง พล.อ. ประวิตร ได้เข้าชมการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว ซึ่ง วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พบกับ ฉือหยู่ฉี มืออันดับ 1 ของโลกจากประเทศจีน และทุกครั้งที่กุลวุฒิทำคะแนนได้ ก็จะได้รับเสียงปรมมือและ กำลังใจจาก พล.อ. ประวิตร จนในที่สุดนักกีฬาทีมชาติไทยสามารถเอาชนะมือวางอันดับหนึ่งของโลกจากประเทศจีย เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายได้ สร้าความภาคภูมิใจและความดีใจของคนไทยทั้งประเทศ รวมถึง พล.อ. ประวิตร ที่เก็บอาการความยินดีเอาไว้ไม่อยู่ ถึงขั้นยิ้มแก้มปริ พร้อมอวยพรขอให้กุลวุฒิได้รับเหรียญทอง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย พร้อมขอให้คนไทยร่วมให้กำลังใจกุลวุฒิให้ประสบความสำเร็จในนัดต่อไป

วันถัดมา “บิ๊กป้อม”ก็ยังเดินสายให้กำลังใจนักกีฬาชาวไทยแบบติดขอบสนาม โดยได้เข้าชมการแข่งขันมวยสากลหญิง รอบก่อนรองชนะเลิศ (8คนสุดท้าย)ซึ่งเป็นพบกันของ นักมวยหญิงไทย“จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง”รุ่น 66 กิโลกรัม กับนักชกประเทศตุรกี “บิ๊กป้อม”ได้ส่งเสียงเชียร์ และปรบมือในจังหวะสำคัญของการออกอาวุธ อย่างดุเดือด ตื่นเต้น และนักชกไทยก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทะลุเข้าสู่รอบชิงเหรียญทอง ได้อย่างน่าชื่นชม

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า วันนี้“ลุงป้อม”ของเรา ยังไม่มีคำว่าผิดหวัง หลังทุกแม๊ตซ์ที่ไปเชียร์นักกีฬาไทยยังไม่พบคำว่าพ่ายแพ้ แถมยังพลิกโผเอาชนะคู่แข่งแบบเหนือความคาดหมาย จนหลายมองว่า หรือลุงป้อมจะเป็น“มาสคอต”นำโชคให้กับทัพนักกีฬาไทย หรืออีกนัยหนึ่ง ก็น่าจะมาจากการสนับสนุนและเอาใจใส่ของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง สร้างขวัญและกำลังให้กับนักกีฬา จนสามารถคว้าเหรียญกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชมสำเร็จ พล.ต.ท.ปิยะฯ กล่าวยืนยันว่า พล.อ.ประวิตรฯ ไม่กังวลปัญหาในพรรคแต่อย่างใด ท่านยังเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนเคารพรัก ตอนนี้ ยังคงเดินหน้าทุ่มเทแรงกายแรงใจเชียร์ให้ นักกีฬาของไทยคว้าชัยโอลิมปิก 2024 และนำเหรียญทองมาฝากพี่น้องคนไทยให้มากที่สุด อยากให้คนไทยรวมใจส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยด้วยครับ

ที่มา: https://www.chadthukkrasae.com/2024/08/blog-post_4.html?m=1
วันที่: 5 สิงหาคม 2567

“วิว-กุลวุฒิ” คว่ำ“ลีซิเจีย“ ทะลุชิงเหรียญทองโอลิมปิก 2024 เติมความสุขให้คนไทย พล.อ.ประวิตร ตามเชียร์ขอบสนาม ภูมิใจสุดๆ วิวเลือดนักสู้

,

“วิว-กุลวุฒิ” คว่ำ“ลีซิเจีย“ ทะลุชิงเหรียญทองโอลิมปิก 2024 เติมความสุขให้คนไทย พล.อ.ประวิตร ตามเชียร์ขอบสนาม ภูมิใจสุดๆ วิวเลือดนักสู้

เมื่อ 4 ส.ค.67 ,15.50น. (เวลาประเทศไทย) มีการแข่งขันกีฬาแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ รายการโอลิมปิก ปารีส-2024 ณ สนามกีฬา Porte de La Chapella Arena กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส น้องวิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พบกับ Lee Zii Jia นักแบดมินตัน มืออันดับ 7 ของโลก จากประเทศมาเลเซีย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานฯและหัวหน้านักกีฬา ,นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูตฯและภริยา, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล คณะกรรมการไอโอซี และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ,พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ได้เดินทางมาชมการแข่งขัน และให้กำลังใจน้องวิว ต่อเนื่องเพื่อติดตามผลงานจากแมตช์ก่อนหน้าที่น้องวิวสามารถเอาชนะนักแบดมินตัน มือหนึ่งของจีนมาได้อย่างเด็ดขาด 2เซ็ทรวด สำหรับนัดนี้ หากน้องวิว เอาชนะคู่ต่อสู้จากมาเลเซีย จะทำให้ได้เข้าชิงเหรียญทองทันที ซึ่งในวันนี้ พล.อ.ประวิตร และคณะได้เข้าชมการแข่งขัน เกาะขอบสนามด้วยความตื่นเต้น และเต็มเปี่ยมด้วยกำลังใจที่จะมอบให้น้องวิว อีกแมตช์ เพราะเป็นแมตช์ที่สำคัญยิ่งที่จะทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุขและ ภาคภูมิใจอีกครั้ง ซึ่งน้องวิว ก็ทำได้ตามที่คาดหวังสามารถเอาชนะนักตบลูกขนไก่จากมาเลเซีย ได้อย่างขาดลอย 2เซ็ตรวด ด้วยเลือดนักสู้ของคนไทยอย่างแท้จริง ที่ทำให้ผู้ชมในสนามแข่งขันและทั่วโลกเห็นถึงความมุ่งมั่น ความสามารถ และความแข็งแกร่งของนักกีฬาทีมชาติไทย ในวันนี้

พล.อ.ประวิตร ได้ส่งเสียงเชียร์พร้อมปรบมือให้กำลังใจ ตลอดเวลาที่ชมการแข่งขันของน้องวิว ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์ของแต่ละฝ่ายในสนามเนื่องจากเป็นนัดตัดเชือก ก่อนชิงชนะเลิศ ซึ่งกำลังใจของนักกีฬาสำคัญมาก ทั้งจากกองเชียร์ในสนามและนอกสนามของคนไทยที่รับชมทางทีวีถ่ายทอดสด จากประเทศไทย กระทั่งน้องวิว ได้รับชัยชนะในที่สุด ด้วยสกอร์ 21:14 และ 21:15 สามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นผลสำเร็จ นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่น้องวิว พร้อมด้วยทีมสตาฟโค้ช และสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ที่ได้ร่วมกันสร้างผลงานอันล้ำค่าให้กับคนไทยได้ชื่นชมและมีความสุขเพิ่มขึ้น ซึ่งตนจะติดตามและให้กำลังใจอีกความสำเร็จของน้องวิว ในแมตช์สำคัญต่อไปด้วย

ภายหลัง เสร็จสิ้นการแข่งขัน พล.อ.ประวิตร ได้พบกับน้องวิวและได้กล่าวแสดงความยินดีอีกครั้ง ที่น้องวิวสามารถนำชัยชนะมาให้คนไทยทั้งประเทศได้สำเร็จซึ่ง พล.อ.ประวิตร จะได้ติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้น้องวิวประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติในแมตช์ชิง ต่อไป

 

 

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 สิงหาคม 2567

บิ๊กป้อม ชื่นชม กุลวุฒิ เข้าตัดเชือก ปัดตอบคำถามทัพไทยจะได้กี่เหรียญ

,

บิ๊กป้อม ชื่นชม กุลวุฒิ เข้าตัดเชือก ปัดตอบคำถามทัพไทยจะได้กี่เหรียญ

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่เดินทางมายังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อร่วมเชียร์นักกีฬาโอลิมปิกเกมส์ของไทย และเข้ามาชมการแข่งขันแมตช์ที่ “วิว”​ กุลวุฒิ วิทิตศานต์​ นักแบดมินตัน มือ 8 ของโลก ระเบิดฟอร์ม โค่น ฉี ยู่ฉี มือ 1 ของโลก จากจีน 2-0 เกม พร้อมกับผ่านเข้ารอบตัดเชือกแบดมินตัน ชายเดี่ยว โอลิมปิกเกมส์​ 2024 ได้ออกมากล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมชื่นชม กุลวุฒิ หลังจบแมตช์การแข่งขันกับผู้สื่อข่าว

ทั้งนี้ ”บิ๊กป้อม”​ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ”ตนต้องแสดงความดีใจกับ วิว ด้วย ที่สามารถเอาชนะนักกีฬามือ 1 ของโลก ได้ และอยากขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้วิวอีก 2 แมตช์​ เพื่อได้เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ต่อไป ต้องขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้กำลังใจกับน้องวิวครับ”​

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าในกีฬาโอลิมปิกเกมส์​ 2024 ทัพนักกีฬาไทยจะได้กี่เหรียญในโอลิมปิกเกมส์รอบนี้ พลเอก ประวิตร ตอบกลับสั้นๆว่า “ผมยังไม่รู้หรอก แล้วผมจะรู้ได้ยังไง“​ ก่อนที่จะเดินหันหลังออกจากวงสัมภาษณ์ไปในทันที

ที่มา: มติชนออนไลน์… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/sport/olympic2024/news-olympic2024/news_4715461#google_vignette
วันที่: 2 สิงหาคม 2567

“สส.จำลอง” กระทุ้งกระทรวงพาณิชย์ ประกันราคามันสำปะหลัง 3 บาทต่อกก. แจงต้นทุนเกษตรกรยังถึงจุดไม่คุ้มทุน หวั่นผู้ปลูกมันฯรายได้ติดลบกระทบอาชีพ

,

“สส.จำลอง” กระทุ้งกระทรวงพาณิชย์ ประกันราคามันสำปะหลัง 3 บาทต่อกก.
แจงต้นทุนเกษตรกรยังถึงจุดไม่คุ้มทุน หวั่นผู้ปลูกมันฯรายได้ติดลบกระทบอาชีพ

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงสถานการณ์ปัญหามันสำปะหลังว่า ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่า ราคารับซื้อมันสำปะหลังตกต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี โดยต้นทุนการผลิตของผู้ปลูกมันสำปะหลัง ไม่คุ้มกับราคาต้นทุน ปัจจุบันจังหวัดกาฬสินธุ์ราคามันสำปะหลังอยู่ที่ 1 บาทกว่า ไม่ถึง 2 บาท ซึ่งต้นทุนการผลิต จุดคุ้มทุนอยู่ที่ 3 บาท เพราะต้องมีค่าไถ 750 บาทต่อไร่ ,ค่าพันธุ์ 500 บาทต่อไร่,ค่าปลูก 800 บาทต่อไร่,ค่าดายหญ้า 800 บาทต่อไร่,ค่าปุ๋ย ค่าแรง 1,100 บาทต่อไร่,ค่าไถกลบไถเบิก 500 บาทต่อไร่,ค่ารักษาโรคใบด่าง โรคใบหยิก 200 บาท,ค่าโดรนฉีดยาอีกไร่ละ 100 บาท,ค่าเก็บผลผลิตไร่ละ 600 บาท

นายจำลอง กล่าวต่อว่า ส่วนค่าเช่าที่ธนารักษ์สำคัญ ในพื้นที่ท้ายเขื่อนห้วยเม็กหนองกุงศรีท่าคันโท ที่อยู่ท้ายเขื่อนลำปาว ปีไหนที่น้ำหลาก เขาเก็บน้ำเยอะก็ปรากฏว่า น้ำท่วมแต่ไม่ได้รับการชดเชย เรื่องนี้อยากให้รัฐบาลตระหนักว่า ถ้าพี่น้องเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังอยู่ท้ายเขื่อนถูกน้ำท่วมก็ให้ชดเชยด้วย ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายรวมเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 7,185. 65 บาท นี่คือต้นทุน ปัจจุบันนี้ถ้ากิโลละ 2 บาท ไร่ละประมาณ 3 ตันคิดเป็น 6,000 บาทจะติดลบอยู่ 1,185.65 บาท เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลังติดลบ ส่งผลต่อผลผลิตเสียหาย

“ผมมีวิธีแก้ไขคือ ลดต้นทุนการผลิตและขอกราบเรียนนโยบายรัฐบาลที่แพลนออกมาว่าปุ๋ยขึ้นราคา จริงๆแล้วเป็นประโยชน์ เป็นการลดต้นทุนปุ๋ย ที่ผ่านมาปุ๋ยถุงละ 60 บาท ปัจจุบันนี้ถุงละ 1,000กว่าบาท รวมถึง ประกันราคามันสำปะหลังเกษตรกรผู้ปลูกมัน 3 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้ พี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ไม่ได้รับการชดเชยในการเช่าที่ธนารักษ์ ซึ่งควรจะชดเชยให้เขา เพราะธนารักษ์เอาค่าเช่ากับเขาไปแล้ว”นายจำลอง กล่าว

นายจำลอง กล่าวต่อว่า หากย้อนไปในอดีต ปัญหาราคาสำปะหลัง ถึงขั้นมีการปิดรัฐสภาที่ถนนอู่ทองใน เพราะพี่น้องเกษตรกรเกิดความเดือดร้อนจึงเกิดความวุ่นวาย จึงขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยเหลือเยียวยาในการประกันราคามันสำปะหลังให้กับพี่น้องเกษตรกรอย่างน้อยกิโลกรัมละ 3 บาท ถึงจะมีกำไรและจุดคุ้มทุนอยู่ตรงนั้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 สิงหาคม 2567

“อัครแสนคีรี” เสนอการบริหารจัดการ “เขื่อนลำปะทาว” จ.ชัยภูมิ แก้น้ำท่วม น้ำแล้ง ซ้ำซาก

,

“อัครแสนคีรี” เสนอการบริหารจัดการ “เขื่อนลำปะทาว” จ.ชัยภูมิ
แก้น้ำท่วม น้ำแล้ง ซ้ำซาก

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเขื่อนลำปะทาว ทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของพี่น้องประชาชน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูน้ำหลาก ในหลายจังหวัดได้เกิดวิกฤตน้ำท่วม เช่น จังหวัดตาก จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งจังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีวิกฤตน้ำท่วมในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และปีนี้คาดว่ามีปริมาณน้ำฝนสูงขึ้นตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายน 1 ในสาเหตุที่น้ำท่วมเทศบาลเมืองหนัก 3 ปีติดต่อกัน เกิดจากวิกฤตน้ำล้นเขื่อนลำปะทาวล่าง ผนวกกับน้ำที่ไหลมาจากอำเภออื่นๆ มาบรรจบกัน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมหนักส่งผลเสียต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจจำนวนมาก

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า จากสถิติพบว่าช่วงฤดูน้ำหลากน้ำจะไหลเข้าเขื่อนบนราว 4-5.4 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ในส่วนของเขื่อนล่างน้ำจะไหลเข้าตั้งแต่ 1.69 ถึง 7.6 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ในขณะที่ปริมาณน้ำที่สามารถพร่องออกไปได้สูงสุดอยู่เพียงแค่ 3 แสนลูกบาศก์เมตร/วัน ซึ่งที่จริงแล้วถ้าเราบริหารจัดการเขื่อนลำปะทาวได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถช่วยบรรเทาเหตุน้ำท่วมในเทศบาลเมืองและยังเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่แห้งแล้ง เช่น อำเภอแก้งคร้อ

“ผมขอเสนอไปยังกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและกรมชลประทาน รวมถึงจังหวัดชัยภูมิ ควรจัดตั้งคณะกรรมการบริหารน้ำเขื่อนลำปะทาว ร่วมกันหลายฝ่าย เพื่อบริหารน้ำสำหรับการเกษตรแล้วก็อุปโภคบริโภครวมถึงการบรรเทาอุทกภัยน้ำท่วมไม่ใช่แค่การผลิตกระแสไฟฟ้าเท่านั้น เพื่อแก้ปัญหาระยะสั้นเขื่อนล่างควรเร่งพร่องน้ำก่อนฤดูน้ำหลาก ควรติดตั้งระบบสูบจากเขื่อนล่าง ขึ้นเขื่อนบน โดยเมื่อน้ำใกล้ล้นเขื่อนล่างให้สูบไปเก็บไว้ที่เขื่อนบน แล้วพร่องออกทางอำเภอแก้งคร้อให้มากขึ้น ซึ่งจะบรรเทาน้ำในเทศบาลเมือง น้ำท่วมรวมถึงเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่แห้งแล้งในอำเภอแก้งคร้อ สุดท้ายควรเพิ่มประตูระบายน้ำ สำหรับเขื่อนล่าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพร่องน้ำเพราะปัจจุบันพร่องได้แค่ 300,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน ในขณะที่ปริมาณน้ำ สามารถเข้ามาสูงสุดถึง 7 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เท่ากับไม่ถึงไม่ถึง 3 วันน้ำก็ล้นเขื่อนล่างเข้าไปท่วมเทศบาลเมือง”นายอัครแสนคีรี กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 สิงหาคม 2567

“สส.จำลอง” แนะ ใช้ต้นสะเดากำจัดแมลง วอน ”ก.พาณิชย์-เกษตรฯ“พัฒนานวัตกรรมชีวมวล แก้ปัญหาให้เกษตรกรโดยด่วน

,

“สส.จำลอง” แนะ ใช้ต้นสะเดากำจัดแมลง วอน ”ก.พาณิชย์-เกษตรฯ“พัฒนานวัตกรรมชีวมวล แก้ปัญหาให้เกษตรกรโดยด่วน

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหามันสำปะหลัง โดยตนได้ลงพื้นที่สำรวจ ที่รับซื้อมันสำปะหลังในพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับราคาที่ตกต่ำ ไม่คุ้มกับการลงทุน และยังมีโรคระบาด หรือเรียกว่า โรคใบด่าง ซึ่งเกิดจากแมลงชนิดหนึ่ง เป็นไวรัสแพร่ระบาดในโรคในแมลงหวี่ขาวยาสูบหรือที่เรียกว่า Bemisia tabaci โรคนี้จะทำให้ต้นมันสำปะหลังแคระ แกน แล้วก็ง่อย ใบมันจะหด และก็จะทำให้แป้งมันไม่มีคุณภาพ ผลผลิตที่ได้รับก็ถูกปฏิเสธจากการรับซื้อ หรือไม่ได้ประโยชน์เลย

“ผมขอฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ราคามันสำปะหลังไม่ดียังไม่พอ แถบบ้านผมอยู่ท้ายเขื่อนลำปาว น้ำชลประทานก็จะมาท่วม อีกทั้งพี่น้องประชาชนก็เช่าที่กรมธนารักษ์ในการทำมาหากิน ซึ่งปัจจุบันนี้กรมธนารักษ์ก็ปรับราคาการเช่าที่ทำกินกับพี่น้องประชาชนขึ้นมาอีก ทำให้พี่น้องเกษตรกรขาดทุนในการทำไร่มันสำปะหลังอย่างยิ่ง“นายจำลอง กล่าว

นายจำลอง กล่าวต่อว่า อีกปัญหาหนึ่งที่ชาวบ้านเดือดร้อนคือ การกำจัดแมลงจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร ซึ่งตนไปหาข้อมูลมาแล้วพบว่า ต้นสะเดาสามารถกำจัดแมลงนี้ได้ ตนจึงอยากฝากกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมั่นใจว่าท่านรัฐมนตรีใส่ใจเรื่องนี้อยู่แล้ว และให้ความสำคัญกับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่งอยู่แล้ว ในรัฐบาลชุดนี้

“ผมอยากมีการพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับชีวมวล เพราะปัจจุบันนี้ พี่น้องเกษตรกรใช้โดรนฉีดสารเคมี ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง จึงขอให้รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯทั้ง 2 กระทรวง พิจารณาให้มีการรีบๆแก้ไขให้กับพี่น้องเกษตรกรโดยด่วน”นายจำลอง กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 31 กรกฎาคม 2567

“สส.ปกรณ์”จี้ มหาดไทย แจงให้ชัด ปม เมืองล่าเสี้ยวอาจอพยพคนเข้าแม่ฮ่องสอน ชี้ สร้างความสับสนให้ชาวบ้าน แนะ รีบเคลียร์ก่อนกระทบ ศก.-การท่องเที่ยว

,

“สส.ปกรณ์”จี้ มหาดไทย แจงให้ชัด ปม เมืองล่าเสี้ยวอาจอพยพคนเข้าแม่ฮ่องสอน ชี้ สร้างความสับสนให้ชาวบ้าน แนะ รีบเคลียร์ก่อนกระทบ ศก.-การท่องเที่ยว

นายปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนในฐานะตัวแทนของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยการนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้นำโครงการดีๆ อย่าง โครงการคลินิกเกษตรและโครงการแม่ฮ่องสอนโมเดล เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาความยากจนและเป็นการพัฒนาอาชีพแบบยั่งยืนให้กับคนเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า วานนี้(30 ก.ค.)ได้มีสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเรื่องเมืองล่าเสี้ยว รัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ที่มีการสู้รบกันอย่างหนักที่ทำให้ประชาชนในเมืองล่าเสี้ยวนั้น มีแนวทางว่าจะอพยพออกจากเมืองล่าเสี้ยว ซึ่งพี่น้องประชาชนชาวเมืองราชส่วนใหญ่ก็เป็นชาวไทยใหญ่ที่จะอพยพออกมาจากเมืองล่าเสี้ยว โดยหมุดหมายที่สำคัญที่หนึ่งที่จะอพยพมานั้น คือ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตามข่าว ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและพื้นที่ใกล้เคียงนั้นมีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะข่าวนั้นแพร่ไปทั่วในโลกโซเชียล

“เพื่อให้ความมั่นใจและความสบายใจของพี่น้องประชาชน ผมอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องแผนการรองรับต่างๆเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ไม่เช่นนั้น ประชาชนจะเกิดความสับสน และจะส่งผลกระทบต่อในเรื่องของเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการค้าต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน”นายปกรณ์ กล่าว

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า ในอดีตเคยมีการสร้างข่าวเท็จ ขยายข่าวเกินความเป็นจริง ทำให้จังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้นเสียโอกาส และเสียชื่อเสียงมาแล้ว จึงไม่อยากให้เหตุการณ์แบบในอดีตเกิดขึ้นอีกจึงขอฝากให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสื่อสารข้อมูลที่ชัดเจนให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 31 กรกฎาคม 2567