โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

“สนธิรัตน์” ลุยเวทีดีเบตเมืองย่าโม โชว์แก้ปัญหาระบบสาธารณสุขไทยครบวงจร ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลพี่น้องประชาชน

“สนธิรัตน์” ลุยเวทีดีเบตเมืองย่าโม โชว์แก้ปัญหาระบบสาธารณสุขไทยครบวงจร ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลพี่น้องประชาชน

วันที่ 18 เม.ย. 2566 ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ ร่วมเวทีดีเบต “เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย” ในหัวข้อเรื่องระบบสาธารณสุข ซึ่งจัดขึ้นโดยช่อง 7 HD ซึ่งคำถามแรกเป็นเรื่องของการรักษาในระบบโรงพยาบาลรัฐที่บางครั้งมีการวินิจฉัยโรคผิด มีการจองคิวยาว พรรคมีวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร โดยนายสนธิรัตน์ ได้ตอบคำถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล และได้ดูแลกระทรวงสาธารณสุข อย่างแรกคือต้องแก้ระบบสาธารณสุข โดยใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้ว เช่น ต้องผลักดันให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) เป็นโรงพยาบาลหน้าบ้านของประชาชน ให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น พี่น้องไม่ต้องลำบากนั่งรถไปหาหมอไกลๆ และขอเงินค่ารถจากใคร ใช้ รพ.สต. รองรับเรื่องสุขภาพของประชาชน ผ่านเครื่องมือ Telemedicine และ Telepharmacy หมอและคนไข้อยู่ที่ไหนก็สามารถรักษาได้ ให้บริการทัดเทียมกัน

นอกจากนี้ที่พรรคพลังประชารัฐได้ทำสำเร็จมาแล้ว คือการเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพของประชาชนทั่วประเทศ หากประชาชนประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย สามารถให้หมอเข้าถึงข้อมูลแล้วรักษาพี่น้องได้ทันที ท้ายสุดต้องยกระดับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วยการส่งเสริมความรู้ ทุนการศึกษาให้สามารถดูแลประชากรในพื้นที่ รวมทั้งเพิ่มจำนวนของอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น เพื่อดูแลผู้สูงอายุติดเตียงและติดบ้าน ขอย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้คิดจากความฝัน แต่คิดจากสิ่งที่มีอยู่ และคิดจากสิ่งที่ทำอยู่แล้ว และจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เมื่อได้รับโอกาสเป็นรัฐบาลในสมัยหน้า

จากนั้นนายสนธิรัตน์ ได้ตอบคำถามเรื่องกรณีที่มีคนดังจัดงานระดมทุนซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ จนสังคมตั้งคำถามว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลหรือไม่ หากพรรคของท่านเป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้แบ่งเป็น 2 มิติ มิติแรกคือคนไทยเป็นคนมีจิตใจกุศล มีใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เราเห็นด้วย อย่ามองเป็นเรื่องลบอย่างเดียว แต่อีกมิติคือการแก้ไขปัญหาของคนที่เข้ามาเป็นรัฐบาล สาเหตุหนึ่งเกิดจากการจัดการงบประมาณ ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งงบที่เสียไปกับบุคลากร งบค่าน้ำ ค่าไฟ และงบสร้างสิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น ซึ่งต้องเร่งแก้ไข รวมถึงต้องขจัดเรื่องคอร์รัปชั่นในหน่วยงาน ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐสามารถจัดการได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ยกตัวอย่างการจองคิวหาหมอ ให้จองคิวผ่านมือถือ ช่วยลดคนแจกบัตรคิว ลดคนจองคิว นอกจากนี้ ต้องปฏิรูปโดยใช้คนป่วยเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาลโดยใช้เทคโนโลยี ใช้ รพ.สต. และอสม.เข้ามาช่วย สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระจายปัญหาไปข้างนอก ลดความเหลื่อมล้ำในมิติสุขภาพ พร้อมทั้งต้องสร้างแรงจูงใจให้กับพี่น้องประชาชนในการดูแลตัวเอง มีการกระจายเครื่องมือดูแลสุขภาพ และเครื่องมือสาธารณสุขให้เข้าถึงประชาชน เพื่อป้องกันก่อนป่วย และลดภาระทางงบประมาณของรัฐบาลในระยะยาว

นายสนธิรัตน์ ยังได้ตอบคำถามถึงการประเมินเก้าอี้ ส.ส. ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐได้ที่นั่งจาก จ.นครราชสีมา 6 ที่นั่ง ถือเป็นความกรุณาของชาวโคราช ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐมุ่งหวังว่าขอรักษาอย่างน้อย 6 ที่นั่ง แต่จะได้มากหรือน้อยกว่านี้อยู่ที่พี่น้องชาวโคราช จึงขอฝากพี่น้องชาวโคราชได้เลือกพรรคพลังประชารัฐ ไปก้าวความขัดแย้ง ก้าวพ้นความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขไทย เพื่อให้สามารถดูแลพี่น้องได้อย่างทั่วถึง เท่าเทียมและครบวงจร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 เมษายน 2566

" ,