โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

“ชัยวุฒิ”สักการะพระบรมธาตุ เมืองคอน ขอปักธงพปชร.เป็นรัฐบาล มั่นใจคะแนนนิยม พล.อ.ประวิตร เป็นนายก พร้อมสานต่องานเพื่อประชาชน

“ชัยวุฒิ”สักการะพระบรมธาตุ เมืองคอน ขอปักธงพปชร.เป็นรัฐบาล

มั่นใจคะแนนนิยม พล.อ.ประวิตร เป็นนายก พร้อมสานต่องานเพื่อประชาชน

​ เมื่อเวลา 15.20 น.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยได้เดินทางมา กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ทำพิธีห่มผ้ารอบพระบรมธาตุ และสวดอิติปิโส ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณสนามหน้าเมือง ถนนราชดำเนิน ในช่วงเย็น

นายชัยวุฒิ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสของพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ในขณะนี้อาจจะดีกว่าพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ประชาชนในพื้นที่นครศรีธรรมราชก็ให้ความรักทั้งลุงตู่และลุงป้อมอยู่แล้ว ดูจากการเลือกตั้งเมื่อปี 62 ที่ผ่านมา ก็ได้รับ ส.ส.ถึง 4 คน วันนี้เมื่อทั้ง 2 ลุงแยกกันทำงาน ตนก็เชื่อมั่นว่า พรรคพลังประชารัฐก็ได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจจนประชาชนมีความเชื่อมั่นและรัก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือ ลุงป้อม และอยากให้เขาไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน

กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ขอแรงสนับสนุนจากชาวเมืองคอนในฐานะสะใภ้เมืองคอน นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ลุงป้อมก็เป็นนายหัวเมืองคอน ทำงานเพื่อประชาชน ช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจังหวัดนครศรีธรรมราชจะมีปัญหาอะไร พล.อ.ประวิตรก็ลงมาดูแลโดยตลอด ตนมั่นใจว่า คะแนนนิยมดีกว่าแน่นอนส่วนจะได้ ส.ส.กี่คนนั้น ก็คงจะระบุได้ยาก รู้เพียงแค่ว่าพล.อ.ประวิตร สู้ทุกที่ สู้ทุกเขต เพราะเราเป็นพรรคใหญ่และที่ผ่านมาก็เป็นแกนนำรัฐบาล เราก็สู้ทุกเขตทั่วประเทศ

นายชัยวุฒิ ได้เข้าขอพรให้ชนะเลือกตั้ง ให้ประชาชนรักและศรัทธาในพรรคพลังประชารัฐ เลือกพรรคพลังประชารัฐให้เข้าไปเป็นรัฐบาล ทำหน้าที่เพื่อประชาชน

ส่วนกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศพร้อมลาออกจากหัวหน้าพรรค หากเพื่อไทยจับมือร่วมรัฐบาลกับ พปชร.หรือ รทสช.นายชัยวุฒิ กล่าวว่า จริงๆ ก็ไม่อยากให้ นพ.ชลน่าน ลาออก ก็เห็นใจท่านแต่ในอดีตที่ผ่านมาก็เคยเห็นหัวหน้าพรรคลาออกมาแล้ว เพราะหัวหน้าพรรคก็อาจจะคิดไม่ตรงกับพรรคก็ได้ ทั้งนี้ก็คงต้องดูผลการเลือกตั้ง ไม่อยากให้รีบตัดสินว่า ใครจะจับมือกับใคร ที่สำคัญวันนี้นโยบายหรืออุดมการณ์บางอย่างของเรากับเขา ก็อาจจะไม่ตรงกัน แต่ถ้าหากมีการจับมือร่วมกันทำงาน ก็คงต้องมีการพูดคุย ทำข้อตกลงร่วมกัน แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว ไม่สามารถจับมือกันได้ ก็คงต้องแยกย้ายกันทำงาน

“การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย เพราะทุกพรรคก็มีนโยบายที่แตกต่างกัน ผู้สมัครก็แตกต่างกันประชาชนก็คงเลือกผู้สมัครที่มาทำงานรับใช้ได้ ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราก็พร้อมที่จะทำงานรับใช้ชาวนครฯทุกคน ขอให้ทุกคนเลือกพรรคที่รัก เลือกคนที่ใช่คนที่ชอบ อย่าไปยึดติดกับฝ่าย เพราะภายหลังการเลือกตั้ง มันไม่มีผ่านหรอกครับ ก็สลายกันไปหมด ต่างฝ่าย ต่างอาจจะมาจับมือกันร่วมรัฐบาลไป ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้หมด”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 เมษายน 2566

" ,