โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

“สันติ” รมช.สธ.ส่งเสริมอาหารไทย กินเป็นยาเสริมสุขภาพสร้างศก.ท้องถิ่น

“สันติ” รมช.สธ.ส่งเสริมอาหารไทย กินเป็นยาเสริมสุขภาพสร้างศก.ท้องถิ่น

หนุนกรมการแพทย์แผนไทยฯวิจัยสรรพคุณพืชสมุนไพรทุกภูมิภาค

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานเสวนาทางวิชาการและนิทรรศการอาหารเป็นยาครั้งที่ 1/2566 ภายใต้แนวคิด “อาหารไทยถิ่น กินเป็นยา” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2566 โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการนำอาหารไทย สมุนไพรไทย มาช่วยสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างกระแสให้ประชาชนหันมาใส่ใจการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น บริเวณลาน MBK Avenue A ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ กรุงเทพมหานคร

นายสันติ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีส่วนสนับสนุนในการสร้างรายได้ให้กับประเทศสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวที่ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับประชาชนจำนวนมาก การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้านอาหารสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศนับแสนล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ธุรกิจด้านอาหารจึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่มีความสำคัญยิ่งต่อการท่องเที่ยวจากข้อมูลของกรมการท่องเที่ยวจะเห็นได้ว่า รายได้จากการท่องเที่ยวในด้านอาหาร มีสัดส่วนถึง 20 % ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมดของประเทศ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมากเนื่องจากอาหารเป็นสิ่งจำเป็นสามารถสอดแทรกอยู่ในทุก ๆ การท่องเที่ยว และทุกช่วงเวลา อาหารไทยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเทศหลายรายการจนเกิดเป็นรายการอาหารประจำชาติที่นักท่องเที่ยวรู้จักอย่างแพร่หลาย

“รัฐบาลได้กำหนดรายการอาหาร ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไว้จำนวน 6 รายการ ได้แก่ ผัดไทย ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ส้มตำ มัสมั่น และต้มข่าไก่ นอกจากนี้มีรายการอาหารที่น่าสนใจมากมายที่ควรส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เช่น ผัดกะเพรา ผัดฉ่า เครื่องดื่มสมุนไพร ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 ได้ ” นายสันติ กล่าว

นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมโภชนาการอาหารไทยเพื่อสุขภาพให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ได้ตระหนักรับรู้ว่าอาหารไทย สมุนไพรไทย มีคุณค่าได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารไทยที่ถูกต้อง สอดแทรกด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย สามารถให้คำแนะนำเมนูอาหารในการดูแลสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเบื้องต้นได้ เช่น ปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ นอนไม่หลับ ท้องผูก ช่วยสร้างมูลค่าและคุณค่าของอาหารไทย เป็นการผสม “ศาสตร์” ความชำนาญการดูแลสุขภาพด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย กับ “ศิลป์” ความพิถีพิถันความละเอียดอ่อนในการปรุงอาหารไทยได้เป็นอย่างดี และยังช่วยสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากยิ่งขึ้น

นายสันติ กล่าวต่อว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทำงานวิจัยสรรพคุณของพืชสมุนไพรของไทยที่มีจำนวนนับหมื่นชนิดพืชพันธุ์ให้กับประชาชนไทยรับประทานเป็นอาหารและเสริมสร้างสุขภาพแล้ว ในต่างประเทศโดยเฉพาะตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา ยังได้สั่งพืชสมุนไพร เช่น ข่า ตะไคร้ ไปทำการวิจัยเป็นยาปรุงอาหารอีกด้วย นำไปสู่การสร้างเสริมเศรษฐกิจให้กับประเทศ

“ประเทศไทยมีพืชที่เป็นสมุนไพรและนำมาใช้รักษาโรคกันเป็นนับร้อยปี เรามีสมุนไพรมากมายทั่วทุกภูมิภาคของไทย ตั้งแต่เหนือสุดยันใต้สุด ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความตั้งใจที่จะพัฒนาพืชสมุนไพรให้เป็นที่รู้จักและไม่รู้จัก ได้วิจัยและประชาสัมพันธ์ให้รับรู้ถึงประโยชน์และสรรพคุณต่างๆ โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีความตั้งใจที่จะพัฒนาสมุนไพรเพื่อพี่น้องประชาชนได้ทานเป็นสมุนไพรเป็นยา จึงมีนโยบายวิจัยพืชสมุนไพรแต่ละชนิด ในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ ว่ามีสรรณคุณอย่างอย่างไร เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้กับประชาชนได้รับทราบ” นายสันติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2566

" ,