วันที่ 25 กันยายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีอุ้มพระดำน้ำ จ.เพชรบูรณ์ ณ วัดโบสถ์ชนะมาร อ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมในพิธี พร้อมด้วยคณะข้าราชการในจังหวัด อาทิ นายอำนาจ แย้มศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมศักดิ์ คณาคำ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพชรบูรณ์ และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สส พปชร. เขต 3 นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส พปชร. เขต 2 น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.สพปชร เขต 1 และนางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย สส เขต1 พปชร จ.สระบุรี นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ นายเพชรภูมิ อาภรรัตน์ ส.ส. กำแพงเพชร นายอนุชา น้อยวง ส.ส. พิษณุโลก ซึ่งการจัดงานในพิธีดังกล่าวเป็นเทศกาลและประเพณีประจำปีของจังหวัดที่สืบสานมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนเข้าร่วมงานอย่างเนื่องแน่นกว่า 3,000 คน เพื่อร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธ์ที่เป็นมงคล ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย โดยเชื่อว่าการทำพิธีจะทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ผู้คนมีความสุข บ้านเมืองปราศจากโรคระบาดคุกคาม
นอกจากนี้ ได้ เดินทางไปศาลากลางจังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการดำเนินงานโครงการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ของกระทรวงการคลัง เพื่ออำนวยความสะดวกการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประชาชนที่มีสิทธิ์ และช่วยยกระดับรายได้ต่อหัวของประชาชนเพชรบูรณ์ในภาพรวม ในส่วนสถานการณ์น้ำ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่เพชรบูรณ์ครั้งนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์น้ำในภาคเหนือและอีสานของพล.อ.ประวิตร โดยเน้นการเตรียมรับมือพายุโนรูที่คาดการณ์พาดผ่านประเทศไทยในเร็วๆนี้ โดย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำภาพรวม และผลกระทบที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนที่ผ่านมา รวมถึงแผนเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
พล.อ.ประวิตร’ ยังได้สั่งการ สทนช.และฝ่ายปกครอง ติดตามสถานการณ์พายุโนรู และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่ 25 ก.ย.65 เป็นต้นไป โดยให้ประสาน กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมเร่งระบายน้ำรักษาสมดุลพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนรองรับมวลน้ำสะสม ที่จะเกิดขึ้นจากฝนตกหนักและหนักมากต่อเนื่อง พร้อมทั้งสั่งการฝ่ายปกครอง แจ้งเตือนและดูแลให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ท้ายเขื่อนริมเจ้าพระยาและลำน้ำสายหลัก เช่น แม่น้ำยม แม่น้ำวังและแม่น้ำมูล ที่มีปริมาณน้ำเอ่อล้นสูงขึ้น สำหรับพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ขอให้ยังคงเฝ้าระวังและร่วมกันบริหารจัดการน้ำ พื้นที่ริมตลิ่งให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกจากนี้ ได้เร่งเข้าไปช่วยดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในจ.เพชรบูรณ์ ในการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าไม้น้ำหนาว เขาค้อและป่าภูทับเบิก ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในพื้นที่ชุมชนเมือง ที่จะต้องเตรียมเขื่อนป้องกันตลิ่งและสร้างอ่างเก็บน้ำรองรับ
“สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ย้ำว่า เพื่อดูแลประชาชนเป็นหลัก เพราะประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม ตนมาช่วยเหลือประชาชน ไม่ได้เล่นการเมือง ย้ำว่ามาช่วยเหลือประชาชน ส่วนข้าราชการทุกคนไม่ใช่เจ้านายประชาชน แต่เป็นลูกน้อง ฉะนั้นต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต้องดูแลให้ประชาชนให้อยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นความประสงค์ของรัฐบาล” พล.อ.ประวิตรกล่าว
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 กันยายน 2565