โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ปี: 2024

“สันติ” รมช.สธ. ดัน 2 นโยบายยกระดับสุขภาพประชาชน แก้วิกฤตบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน-เด็กเกิดน้อย

,

“สันติ” รมช.สธ. ดัน 2 นโยบายยกระดับสุขภาพประชาชน
แก้วิกฤตบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน-เด็กเกิดน้อย

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 9 อาคารกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมกำหนดทิศทางการดำเนินงานกระทรวงสาธารณสุข ปี 2567-68 ได้มอบนโยบายแก่ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขจังหวัด และเขตสุขภาพ 13 เขตทั่วประเทศ ว่า ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงเพื่อยกระดับการบริการและหน่วยบริการสุขภาพทุกระดับ ให้ก้าวทันโลกอนาคตเพื่อขยายบทบาทการดูแลระบบสุขภาพคนไทยไปสู่การสร้างเศรษฐกิจ ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ทำให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

“การพัฒนาระบบสุขภาพที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่การดูแล และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรสาธารณสุขก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จากประสบการณ์ที่ผมลงพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะในเขตชนบทได้ทราบถึงปัญหาด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่ขาดแคลน ขณะที่ภาระงานล้นมือ ส่งผลในการสร้างเสริมสุขภาพในอนาคตจะเกิดประสิทธิภาพน้อยลง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาดูแลรักษาพี่น้องประชาชนให้เกิดความแม่นยำ จึงขอฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขผลักดันเป็นนโยบายของกระทรวง” นายสันติ กล่าว

ทั้งนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตของประชากร เนื่องจากมีประชากร 67 ล้านคน ต้องมีอัตราการเกิดปีละกว่า 8 แสนคน แต่จากเลขพบว่าที่ผ่านมามีการเกิดกว่า 480,000-510,000 คน ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐาน ส่งผลให้ในอนาคตจะขาดบุคลากรในทุกด้าน หากกระทรวงได้ใช้นโยบายในการสร้างขวัญและกำลังใจในครอบครัวใหม่ๆ หรือสุภาพสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ เพื่อให้ความมั่นใจในการมีบุตรทางรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขก็จะช่วยดูแลเพื่อให้เกิดความมั่นคงในการคลอดบุตรและเลี้ยงบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตา ขอให้ความมั่นใจกับทุกท่านว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาและผลิตบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้เพียงพอต่อการบริการสุขภาพแก่ประชาชนอย่างมีคุณภาพและการเพิ่มจำนวนประชากร วันนี้ถือเป็นโอกาสดีในการผนึกกำลังเพื่อร่วมกันขับเคลื่อน และผลักดันการพัฒนาการสาธารณสุขไทยทั้งระบบให้ประชาชนทุกคนมีสุขภาพที่ดี สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 พฤษภาคม 2567

“สส.อามินทร์” ชี้ถึงเวลาจับมือร่วม รีแบรนด์ตากใบ สร้างภาพลักษณ์ใหม่เชิงบวก ลบภาพจำความรุนแรง เน้นกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐสามจังหวัดชายแดนใต้เพิ่มรายได้ ปชช.

“สส.อามินทร์” ชี้ถึงเวลาจับมือร่วม รีแบรนด์ตากใบ สร้างภาพลักษณ์ใหม่เชิงบวก ลบภาพจำความรุนแรง เน้นกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐสามจังหวัดชายแดนใต้เพิ่มรายได้ ปชช.

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 2 พลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวว่า ตนมองว่าขณะนี้ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ หรือรีแบรนด์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อลดภาพจำการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอดีต สู่การสร้างภาพลักษณ์ในเชิงบวกที่จะนำไปสู่การก้าวข้ามความขัดแย้งให้เกิดขึ้นได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ทางด้านกิจกรรมการท่องเที่ยว การค้าการลงทุน รวมถึงการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การส่งเสริมผลิตภัณฑ์พรีเมียม ขึ้นชื่อของจังหวัดมากขึ้น เพื่อยกระดับรายได้ของประชาชนในท้องถิ่น

“ผมได้มีข้อเสนอในที่ประชุมแสวงหาข้อมูลพรรคพลังประชารัฐ เพื่อกำหนดนโยบายที่ยึดโยงกับท้องถิ่น จึงได้ชี้ให้เห็นว่า การค้นข้อมูลใน Google พิมพ์คำว่าตากใบ แล้วกดที่ images จะพบแต่ภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอดีตมานับยี่สิบปีแล้ว ทั้งที่ในวันนี้ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกิจกรรมที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยว การลงทุนภาคเอกชน และการเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้านหลายอย่าง แต่ภาพกิจกรรมในเชิงบวกเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏในสื่อโซเชี่ยลเลย” นายอามินทร์ กล่าว

นายอามินทร์ กล่าวต่อว่า วิธีการเดียวที่จะทำให้ภาพกิจกรรมเชิงบวกเข้าไปปรากฏในโลกโซเชี่ยลก็คือ ต้องมีภาพกิจกรรมเชิงบวกที่นำเสนอให้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และมีคนเข้าไปดูมากกว่าภาพเชิงลบให้ได้ ซึ่งตนได้นำนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการด้านวิชาการ พปชร.ไปดูกิจกรรมเชิงบวกอย่างหนึ่งคือ โรงงานทำปลากุเลาเค็มแห่งหนึ่ง เรียกว่า แม่แป้น

นายอามินทร์ ยังกล่าวต่อว่า การตากปลาให้แห้งนั้น ใช้วิธีตากแดดในกระโจมที่โปร่งแสงระดับหนึ่ง กระทรวงพลังงานช่วยเหลือค่าสร้างกระโจม 70% หลังจากนั้นจะผ่านกรรมวิธีแขวนให้ความชื้นค่อยๆ งวดลงไป พร้อมกับการนวดเพื่อให้เนื้อปลาแน่น กระบวนการผลิตพิถีพิถันและใช้เวลาขั้นต่ำตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ไม่ต่างจากขั้นตอนการผลิตชีส หรือหมูแฮม สินค้าซึ่งมีราคาแพงในยุโรป ซึ่งปลากุเลาเค็ม ถือว่าเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียง นักท่องเที่ยวต้องการซื้อเป็นของฝากจำนวนมาก

ทั้งนี้ ปลากุเลาเค็ม ยังมีการพัฒนาแพคเกจจิ้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อเป็นของฝากราคาแพง โดยสามารถกำหนดให้ใส่กล่องไม้ ที่ทำให้ดูมีคุณค่าสมกับความอร่อย ซึ่งในวันที่เราไปเยี่ยมชมโรงงาน ปรากฏว่าเขากำลังจัดทำกล่องไม้ผูกโบว์จำนวน 30 กล่อง ที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้สั่งซื้อเพื่อเอาไปแจกเป็นของขวัญในวันที่ไปเยี่ยมชมโรงงาน ตนจึงอยากให้คนไทยช่วยกันโปรโมทรีแบรนด์ตากใบ รีแบรนด์สามจังหวัดชายแดนภายใต้ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าดีกว่า

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 พฤษภาคม 2567

การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชิญเข้าร่วมพร้อมรับชม “พิธีเปิดงาน 24 พฤษภาคม วันป่าชุมชนแห่งชาติ” จ.กาฬสินธุ์ ประจำปี2567

,

การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เชิญเข้าร่วมพร้อมรับชม “พิธีเปิดงาน 24 พฤษภาคม วันป่าชุมชนแห่งชาติ” จ.กาฬสินธุ์ ประจำปี2567

วันที่ 24 พฤษภาคม ของทุกปีถือเป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ส่งเสริมให้ชุมชนร่วมกับทางภาครัฐในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู จัดการ ในการฟื้นฟูรักษาและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนและให้ชุมชนดูแลรักษาทรัพยากรทางธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศอย่างสมบูรณ์ยั่งยืน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยกรมป่าไม้ได้จัดงาน วันป่าชุมชนแห่งชาติประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์รณรงค์การจัดกิจกรรมการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าชุมชน ตลอดจนทุกภาคส่วนได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยในด้านการส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรป่าไม้เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่า และใช้ประโยชน์จากป่าตามทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ซึ่งในวันนี้ (24 พฤษภาคม 2567) ถือเป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติประจำปี 2567 ได้มีการจัดงาน “พิธีเปิดงาน 24 พฤษภาคม วันป่าชุมชนแห่งชาติ” โดยได้รับเกียรติจาก พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี ณ โรงแรมริมปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ เวลา 13.00 น. โดยประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ตามปกติ หรือ รับชมผ่าน Live ได้ที่ เฟสบุ๊ค ป่าชุมชนออนไลน์

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤษภาคม 2567

“สส. องอาจ” ปธ. กมธ.กฎหมายฯ เปิดเวทีระดม 40 องค์กร ร่วมศึกษาความเห็นข้อบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองรับมาตรฐานสากล

,

“สส. องอาจ” ปธ. กมธ.กฎหมายฯ เปิดเวทีระดม 40 องค์กร
ร่วมศึกษาความเห็นข้อบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองรับมาตรฐานสากล

นายองอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะ กมธ.ได้จัดงานสัมมนา เรื่องการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง ผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง และแนวทางในการแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมาธิการฯ คณะทูตานุทูต ส่วนราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง องค์กรระหว่างประเทศ ภาคประชาชน รวมทั้งผู้แทนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน รวม 40 หน่วยงาน ตลอดจนผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนจากภาควิชาการ ภาคเอกชน องค์ระหว่างประเทศ และผู้แทนจากกลุ่มผู้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ เพื่อร่วมกันพิจารณาศึกษาปัญหา และทางออก เพื่อมิให้ขัดต่อระเบียบ และข้อกฎหมาย เป็นไปตามมาตรฐานสากล

นายองอาจ กล่าวต่อว่า คณะ กมธ.เห็นความสำคัญของเรื่องดังกล่าว จึงมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนต่อการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ เพื่อพิจารณาศึกษาปัญหานี้อย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศทางผ่าน ที่พักพิงชั่วคราว และเป็นที่แสวงหาโอกาสในการทำงานของคนที่ไม่มีสัญชาติไทยหลายกลุ่ม รวมถึงคนที่ยังไม่มีสัญชาติ แม้จะอยู่ในประเทศไทยมานาน ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การควบคุมจัดการของประเทศไทยผ่านกฎหมายฉบับเดียว คือ พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ที่บังคับใช้มานานเป็นเวลา 45 ปีแล้ว ไม่เท่าทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน

นอกจากนี้ โจทย์ท้าทายสำคัญที่ประเทศไทยจะต้องเผชิญต่อไป คือ การขาดกำลังแรงงานจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ต้องพึ่งพาแรงงานข้ามชาติ ดังนั้น ข้อเสนอในเรื่องการโยกย้ายถิ่นเพื่อทดแทนประชากรที่ลดลง จึงเป็นข้อเสนอที่ควรถูกหยิบยกมาทบทวน และถึงเวลาที่จะต้องมีการแก้ไขกฎหมายให้ทันสถานการณ์และการยอมรับในต่างประเทศ 

สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีการนำเสนอรายงานเรื่องปัญหาและแนวทางการแก้ไขแบบยั่งยืนเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ โดยมีข้อสังเกตต่อการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมือง การอภิปรายกลุ่มเรื่องพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และการบังคับใช้ ผลกระทบ ข้อท้าทาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมาย สำหรับการบริหารจัดการผู้อพยพโยกย้ายถิ่นฐาน และเรื่องการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองเพื่อตอบโจทย์ประเทศไทยภายใต้บริบทสังคมสูงอายุ ข้อเสนอจากภาคส่วนต่าง ๆ ต่อการแก้ไขกฎหมายคนเข้าเมือง และการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนประชากร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 พฤษภาคม 2567

“บุณณดา” โฆษกกระทรวงทรัพย์ฯ เผย “พัชรวาท” ห่วงใย ลูกจ้างพิทักษ์ป่า ชี้!เดือน ต.ค.นี้ ได้ปรับขึ้นเงินเดือน พร้อมกันทั่วประเทศ

,

“บุณณดา” โฆษกกระทรวงทรัพย์ฯ เผย “พัชรวาท” ห่วงใย ลูกจ้างพิทักษ์ป่า ชี้!เดือน ต.ค.นี้ ได้ปรับขึ้นเงินเดือน พร้อมกันทั่วประเทศ

น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า สำนักงบประมาณ ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อปรับขึ้นเงินเดือนของบุคคลภายนอกที่ปฏิบัติงานให้กับกรมอุทยานฯ ตำแหน่งพิทักษ์ป่า จำนวน 13,419 อัตรา จาก 9,000 บาท เป็น 11,000 บาท ทุกอัตราพร้อมกันทั่วประเทศ เนื่องจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ท่านมีความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เพราะภารกิจในการลาดตระเวนคุ้มครองดูแลรักษาพื้นที่ป่า เป็นภารกิจที่ยากลำบากอีกทั้งยังเสี่ยงต่ออันตราย ดังนั้นการปรับขึ้นเงินเดือนถือว่าเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทางหนึ่ง

น.ส.บุณณดา กล่าวต่อว่า การปรับขึ้นอัตราเงินเดือนครั้งนี้ได้สร้างความปิติยินดีให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกคน และเป็นขวัญกำลังใจอย่างดียิ่ง ในการปกป้องทรัพยากรป่าไม้ของชาติ เพราะนอกเหนือจากการปรับขึ้นอัตราเงินเดือนในครั้งนี้แล้ว ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการเพิ่มสวัสดิภาพสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า โดยการอนุมัติเงินอุทยานแห่งชาติ และเงินเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ในกรณีที่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 เพื่อให้สามารถนำเงินในส่วนนี้มาใช้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้มีการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ไปแล้วเป็นจำนวนมากด้วย

“พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ติดตามและใส่ใจการทำหน้าที่
ในการป้องกันรักษาป่า โดยท่านมองว่า เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคือ ผู้ที่ทำหน้าที่ทั้งอนุรักษ์ คุ้มครองดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าให้คงอยู่ โดยการสร้างความสมดุลตามธรรมชาติด้วยการฟื้นฟู หยุดความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ การสร้างระบบนิเวศในพื้นที่อนุรักษ์ให้ดีขึ้นตลอดเวลา เป็นภารกิจที่ยาก เพราะต้องปฏิบัติงานเชิงรับและเชิงรุก จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานด้วยความถูกต้อง ลดข้อขัดแย้ง และความไม่สบายใจในการทำงาน“ น.ส.บุณณดา กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 พฤษภาคม 2567

“สันติ รมช.สธ.” เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ คสช.มุ่งยกระดับสุขภาพปชช. ระดมสมองแก้วิกฤตเด็กเกิดน้อย-ยาเสพติดระบาดในเยาวชนเสนอรัฐบาล

,

“สันติ รมช.สธ.” เปิดประชุมเชิงปฏิบัติการ คสช.มุ่งยกระดับสุขภาพปชช.
ระดมสมองแก้วิกฤตเด็กเกิดน้อย-ยาเสพติดระบาดในเยาวชนเสนอรัฐบาล

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เป้าหมาย ทิศทาง หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) เพื่อระดมความเห็น ด้านส่งเสริมหน่วยงานหรือองค์กร ที่จะมุ่งขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะร่วมกัน นำไปสู่การสร้าง “สุขภาพ” หรือ “สุขภาวะ” ของประชาชน ที่ห้องประชุม Sapphire 2 – 3 โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทั้งนี้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ได้มีส่วนทำให้ประชาชน เข้าใจและสามารถวางแผนด้านสุขภาพมากขึ้นและยังคงผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งทางด้านสุขภาพจิตของประชาชนที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยเฉพาะครอบครัวใหม่ๆกังวลเรื่องการมีบุตร ทำให้ปัจจุบันอัตราการเกิดของประชาชนต่ำกว่าเป้าหมายหรืออยู่ในขั้นวิกฤต โดยประเทศไทยมีประชากร 66-67 ล้านคน ต้องมีอัตราการเกิดปีละกว่า 8 แสนคน แต่ที่ผ่านมา มีการเกิดกว่า 400,000 คน ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตด้านแรงงานที่จะหายไปกว่าครึ่ง และจากการลงพื้นที่พบประชาชนในชนบทและชุมชนเมืองพบว่า ครอบครัวใหม่ๆ มีความกังวลในการมีบุตร เนื่องจากขาดศักยภาพในการเลี้ยงดู และพร้อมมีบุตรเมื่อครอบครัวมีฐานะมั่นคงขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ร่วมกันระดมความคิดในการวางแนวทางการส่งเสริมการมีบุตรมากขึ้น เพื่อเสนอปัญหาดังกล่าวไปยังรัฐบาลต่อไป

“จากการลงไปเยี่ยมสถานประกอบการภาคอุตสาหกรรมแต่ละแห่งพบว่า มีแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาทำงานในทุกรูปแบบต่างๆเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงเด็ก และเป็นพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม ที่เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า 3 ล้านคน และส่วนที่เข้ามาไม่ถูกต้องตามกฎหมายมีอีกกว่า 2 ล้านคน โดยรวมแล้วมีถึง 6 ล้านคน แต่ละวันจ่ายค่าแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ใน 1 ปี ต้องจ่ายเงินจ้างแรงงานประเทศเพื่อนบ้านเกินกว่า 7 แสนล้านบาท ดังนั้นเงินที่ใช้จะต้องมีประสิทธิภาพ หากนำมาใช้ในการเพิ่มจำนวนประชากรก็จะสามารถช่วยเหลือประเทศชาติได้ในอนาคต สิ่งเหล่านี้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ จะเข้ามามีบทบาทในการเสริมการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขได้เป็นอย่างดี เพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลสนใจเรื่องเหล่านี้” นายสันติ กล่าว

สำหรับประเด็นของปัญหาเรื่องยาเสพติด ที่มีผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน และกระทบเศรษฐกิจของประเทศด้วย เช่น ยาบ้า 1 เม็ด 5 เม็ด หรือ 10 เม็ด ในอดีตเป็นสิ่งที่ทำลายพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งจากการลงพื้นที่ไปยังชุมชนเมืองและชุมชนต่างจังหวัด บรรดาลูกหลานจำนวนมากเป็นทั้งผู้ค้าและผู้เสพ การปราบปรามของกระบวนการยุติธรรมยังไม่รัดกุม ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพของวัยที่ใช้แรงงาน ก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเรียนรู้ เนื่องจากไปทำลายระบบประสาทไม่สามารถพัฒนาด้านการเรียนรู้ทั้งทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ได้ ส่งผลต่อสุขภาพครัวเรือน และสุขภาพจิตของพี่น้องประชาชนอีกด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 พฤษภาคม 2567

“รมว.ธรรมนัส” ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างฝาย จ.ลำปาง เร่งชลประทานตรวจสอบระบบกระจายน้ำส่งถึงพื้นที่เกษตรกรรม

,

“รมว.ธรรมนัส” ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างฝาย จ.ลำปาง เร่งชลประทานตรวจสอบระบบกระจายน้ำส่งถึงพื้นที่เกษตรกรรม

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ พร้อมมอบนโยบายด้านการเกษตรให้กับจังหวัดลำปาง โดยมี นายนวนิตย์ พลเคน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายพัชระ สิมะเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง เพื่อรับฟังปัญหาด้านการเกษตร และการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงมอบโฉนดเพื่อการเกษตรให้กับเกษตรกร จำนวน 200 ราย

“เนื่องจากลำปางเป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้จึงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างฝายในตำบลปกยางคก อำเภอห้างฉัตร และตำบลนายาง อำเภอสบปราบ เพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรมีน้ำใช้ให้เพียงพอ รวมถึงมารับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดลำปาง หากปัญหาสามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีจะรีบสั่งการ แต่หากปัญหาใดที่ต้องร่วมกันแก้ไขหลายฝ่ายจะประสานหน่วยงานอื่นบูรณาการร่วมกันต่อไป”รมว.ธรรมนัส กล่าว

หลังจากนั้น รมว.ธรรมนัสเดินทางไปต่อที่คลองส่งน้ำที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างของโครงการ-กิ่วคอหมา ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ก่อสร้างระบบส่งน้ำกิ่วลม 3 ระยะ 3 (โครงการกิ่วคอหมา) โดยมอบหมายให้กรมชลประทาน (ชป.) ดูแลการก่อสร้างให้เสร็จสิ้นภายในปี 2569 หรือเร็วที่สุดภายใน 15 เดือน รวมถึงให้ตรวจสอบระบบส่งน้ำในจังหวัดลำปางให้มีน้ำส่งทั่วถึงพื้นที่ทำเกษตรกรรมในช่วงหน้าแล้ง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนและเกษตรกรให้มีน้ำใช้ตลอดปี

สำหรับช่วงบ่าย รมว.ธรรมนัส เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมโครงการฝายแม่วังบ้านไร่-บ้านใหม่พัฒนา ตำบลนายาง อำเภอสบปราบ จังหวัดลำปาง ซึ่ง ชป. ได้ศึกษา สำรวจ และออกแบบฝายขนาดความยาว 150 ซม. ความสูง 350 ซม. ผลประโยชน์ที่จะได้รับครอบคลุมพื้นที่ 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล ทั้งนี้ รมว.ธรรมนัส ได้สั่งการให้ ชป. ทำอนุมัติของบประมาณใช้เงินเหลือจ่ายปี 2567 และเร่งสร้างฝายทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้งาน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 พฤษภาคม 2567

“รมช.อรรถกร” ลงพื้นที่ตลาดอาหารทะเลอ่างศิลา แก้ปัญหาแผงร้านค้าผิดระเบียบ สั่ง อสป.หามาตรการพัฒนาตลาด เพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดึงทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

,

“รมช.อรรถกร” ลงพื้นที่ตลาดอาหารทะเลอ่างศิลา แก้ปัญหาแผงร้านค้าผิดระเบียบ
สั่ง อสป.หามาตรการพัฒนาตลาด เพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดึงทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

(วันที่ 17 พ.ค.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตลาดประมงพื้นบ้าน อ่างศิลา บริเวณริมทะเล ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ในความรับผิดชอบขององค์การสะพานปลา (อสป.) เพื่อแก้ไขปัญหาร้านค้า ที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ เนื่องจากพบว่าผู้ค้ามีการต่อเติมหลังคาและแบ่งพื้นที่เพื่อการเช่าช่วง พร้อมทั้งการตรวจความเรียบร้อยด้านความสะอาด ความปลอดภัย คุณภาพของอาหารทะเล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็นธรรมกับผู้ค้าที่นำไปสู่การยกระดับมาตรฐานตลาดอาหารทะเลให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน

นายอรรถกร กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ ทำให้ได้เห็นสภาพจริงของปัญหาและอุปสรรคในการจัดการและบริหารตลาดอาหารทะเลสด และแปรรูปตลาดประมงพื้นบ้าน อ่างศิลา เพื่อจะได้นำไปสู่การปรับปรุงและยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการประกอบอาชีพของกลุ่มเกษตรกร ควบคู่ไปกับการขจัดปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆ โดยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องบูรณาการ ในการพัฒนาร่วมกัน ที่ให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งว่า เรื่องของร้านค้าในตลาด มีความขัดแย้งระหว่าง ผู้ค้าที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ส่งผลให้ อสป.เสียประโยชน์ จำเป็นต้องมีกลไก มาตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม จึงได้สั่งการให้ อสป.เร่งหามาตรการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแนวทางการพัฒนาตลาดแห่งนี้ให้มีมาตรฐานด้านสุขอนามัยความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค และผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้า ควบคู่ไปกับการรักษาชื่อเสียงแหล่งอาหารทะเลที่ได้รับความนิยมทั้งจากคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศต่อไป

“จากการพบปะพ่อค้าแม่ค้ายังพบว่า มีปัญหาเรื่องของระบบสาธารณูปโภค เพื่อให้บริการกับประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าบางรายมีรายได้น้อย ทำให้ไม่สามารถชำระค่าเช่าได้ตรงตามเวลา แม้ตลาดจะมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการกู้ยืมเงินนอกระบบมาชำระแทน ซึ่งเรื่องดังกล่าว ได้มอบหมายให้ผู้จัดการองค์การสะพานปลา ไปหาแนวทางร่วมกันกับทุกฝ่าย เพื่อให้ตลาดฯ มีระเบียบ และมาตรฐานการให้บริการที่สูงขึ้น และเน้นย้ำในเรื่องการดูแลด้านความสะอาด โดยเฉพาะห้องน้ำ หลังคาที่การต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้เร่งดำเนินการโดยด่วน และมารายงานให้ทราบโดยเร็ว ซึ่งจะมีการติดตามในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง”นายอรรถกร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 พฤษภาคม 2567

พปชร.ประชุมสาขาพรรค จ.สิงห์บุรี เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น สู่การกำหนดนโยบายพรรค ด้าน “ชัยวุฒิ”เปิดชู“อนุรักษ์นิยมทันสมัย“ขับเคลื่อนพรรคอย่างประนีประนอม ไม่ทำให้สังคมแตกแยก

,

พปชร.ประชุมสาขาพรรค จ.สิงห์บุรี เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น สู่การกำหนดนโยบายพรรค ด้าน “ชัยวุฒิ”เปิดชู“อนุรักษ์นิยมทันสมัย“ขับเคลื่อนพรรคอย่างประนีประนอม ไม่ทำให้สังคมแตกแยก

วันนี้ (17 พฤษภาคม 2567) ที่ห้องประชุมโรงแรมไชยแสง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเปิดงานประชุมใหญ่สาขาพรรคภาคกลาง จังหวัดสิงห์บุรี เวทีประชารัฐร่วมใจเพื่อสร้างชีวิตที่สดใสให้คนไทยทั้งประเทศ โดยมีกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเข้าร่วม อาทิ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ผ่านการเป็นรัฐบาลมาแล้ว4 ปี และการเลือกตั้งรอบนี้ก็ยังได้เป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพียงแต่เราไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากจำนวน สส.ลดลง แต่สำหรับจังหวัดสิงห์บุรี เราก็ยืนหยัดอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และต้องขอบคุณที่ประชาชนไว้ใจและสนับสนุนให้ สส.โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เข้ามาทำหน้าที่ สส. เราก็จะทำให้จังหวัดสิงห์บุรีได้รับการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆตนเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่มีความพร้อม มีความชัดเจนในการที่จะทำงานให้พี่น้องประชาชน และตนในฐานะรองหัวหน้าพรรค สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ในหลายๆด้าน

“ชาวจังหวัดสิงห์บุรี อาชีพหลักในพื้นที่คือการเกษตร ซึ่งพปชร.ก็ดูแลเต็มที่ในเรื่องน้ำ และระบบชลประทาน ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนรู้สึกได้ที่พรรคเราทำงานอย่างเต็มที่มาโดยตลอด ทำให้เราได้รับการเลือกตั้งมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่สำคัญ นอกจากการดูแลพื้นที่ ตอนนี้มีการแข่งขันในด้านโซเชียลมีเดีย ซึ่งตรงนี้จะทำให้นักการเมืองดูแลพื้นที่ ดูแลชาวบ้านอย่างเดียวมันไม่พอแล้วพรรคพลังประชารัฐ จึงต้องปรับตัวและทำนโยบายทำความชัดเจนในเรื่องของอุดมการณ์ เพื่อสร้างกระแสให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ”นายชัยวุฒิ กล่าว

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า คำว่า อนุรักษ์นิยมทันสมัย ก็คือ สิ่งที่ดีเราก็ดูแลส่งเสริมให้มันเข้มแข็งให้สิ่งดีๆเหล่านั้นอยู่กับสังคมไทยสืบทอดไปให้ลูกหลายของเรา แต่ขณะเดียวกัน เราก็พัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ให้ต่อเนื่องกันไป และอนุรักษ์สิ่งที่ดีไว้ สิ่งสำคัญก็คือ การหารือร่วมกัน ประนีประนอมเข้าใจกัน หาทางออกร่วมกันไม่ใช่ใช้ความรุนแรง ไม่ใช้ความรู้สึกที่เกลียดชังกัน ไม่ใช่การที่ทำให้สังคมแตกแยกกัน และอีกสิ่งหนึ่งคือ เรายึดมั่นในอุดมการณ์ปกป้องสถาบัน ทำให้บ้านเมืองสงบสุข และพัฒนาประเทศไปร่วมกัน นี่คือแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ และตนเชื่อว่าแนวทางนี้อยู่ในหัวใจของเราทุกคนตลอดไปแน่นอน

ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมประจำปีของสมาชิกพรรคที่จังหวัดสิงห์บุรีเรียบร้อยดี เป็นการประชุมและรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชน เพื่อนำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรคต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 พฤษภาคม 2567

“สส. สัมพันธ์” รับหนังสือร้องเรียน “นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง”วอน“รมว.ธรรมนัส”เร่งช่วยหลือปมที่ดินของสหกรณ์ฯ เป็นที่ทับซ้อนกับกรมป่าไม้

,

“สส. สัมพันธ์” รับหนังสือร้องเรียน “นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง”วอน“รมว.ธรรมนัส”เร่งช่วยหลือปมที่ดินของสหกรณ์ฯ เป็นที่ทับซ้อนกับกรมป่าไม้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ทางผู้ใหญ่บ้านปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง พร้อมด้วยคณะกรรมการนิคมสหกรณ์ปิเหล็ง ได้เข้ามายื่นหนังสือ เพื่อขอให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ปิเหล็ง ที่มีความเดือดร้อน กรณีป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับพระราชฎีกา ในการจัดตั้งนิคมสหกรณ์ปิเหล็งในท้องที่

”ผมจะนำเสนอไปยังท่านร้อยเอกธรรมนัส เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป เพราะทราบมาว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่รอการแก้ไขมานานกว่า 30 ปี วันนี้ ซึ่งผมมั่นใจว่า รัฐบาลไม่ทอดทิ้งและจะร่วมกันหาทางออกทุกวิถีทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อทำให้ชาวบ้านได้รับที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมายหลังรอคอยมานาน“นายสัมพันธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของที่ดินทับซ้อนในพื้นที่นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง เกิดขึ้นเนื่องจากเส้นแนวเขตของพื้นที่ทับซ้อน บางส่วนระหว่างเขตห้ามล่าสัตว์ป่ากับพื้นที่นิคมสหกรณ์ปิเหล็ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 พฤษภาคม 2567

“สส.ชนนพัฒฐ์” ขอบคุณ ชลประทาน เร่งสร้างท่อส่งน้ำเสร็จเร็วกว่ากำหนด ลดผลกระทบขาดแคลนน้ำ ของปชช.ท้ายน้ำคลองอาทิตย์

,

“สส.ชนนพัฒฐ์” ขอบคุณ ชลประทาน เร่งสร้างท่อส่งน้ำเสร็จเร็วกว่ากำหนด ลดผลกระทบขาดแคลนน้ำ ของปชช.ท้ายน้ำคลองอาทิตย์

นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำด้วยโครงการปรับปรุงประตูระบายน้ำ ซึ่งมีแผนการก่อสร้างอีก 4 เดือน โดยจะทำให้ปีต่อไปพี่น้องประชาชนจะมีน้ำกินน้ำใช้อย่างเพียงพอ เนื่องจากเป็นสายน้ำเส้นเลือดใหญ่ของชาวระโนดและสิงหนคร ในการประกอบอาชีพการเกษตรและอุปโภคบริโภค

นายชนนพัฒฐ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณท้ายน้ำ คลองอาทิตย์ ที่ได้รับผลกระทบจากการทำโครงการปรับปรุงประตูระบายน้ำ ซึ่งเป็นคลองสายหลักที่ระยะทาง 57.4 กิโลเมตร ของอ.ระโนด ถึงอ.สิงหนคร จ.สงขลา ที่จะต้องปิดกั้นลำน้ำเพื่อดำเนินโครงการ ตนได้เร่งประสานกับกรมชลประทาน เพื่อวางแผนแก้ไข โดยการใช้เครื่องสูบน้ำจำนวน 5 เครื่องและวางระบบท่อผันน้ำบริเวณก่อสร้างท่อขนาด 1.2 เมตรคูณ 1.2 เมตร ซึ่งในวันนี้สามารถเปิดใช้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายชนนพัฒฐ์ ยังกล่าวถึงโครงการวางท่อซีเมนต์ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จเร็วกว่าแผน 1 วัน จึงต้องขอขอบคุณกรมชลประทาน และผู้รับเหมาที่ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตนในฐานะตัวแทนประชาชน ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ประสานงานและติดตามงานร่วมกับกรมชลประทานมาอย่างต่อเนื่อง

“ผมเชื่อว่าหลังจากนี้การส่งน้ำผ่านคลองอาทิตย์ไปยังประชาชนจะสามารถทำได้ทันที และบรรเทาความเดือดร้อนได้ ซึ่งคาดว่าจะส่งน้ำได้มากถึง 338,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และยังเชื่อว่าเมื่อโครงการขยายคลองอาทิตย์แล้วเสร็จ ปัญหาน้ำในพื้นที่เขต 4 จ.สงขลาจะหมดไป ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีแรกที่ผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการวางแผนบริหารจัดการน้ำในคลองอาทิตย์ ซึ่งเป็นสายน้ำที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวระโนดและสิงหนครให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ ” นายชนยพัฒน์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 พฤษภาคม 2567

“สส.สุธรรม”ชวน ปชช.พูดคุย สะท้อนปัญหาในกิจกรรม “ผู้แทนฯสัญจร ครั้งที่1”อ.ทุ่งสงฯ เตรียมรวบรวมข้อมูล ชงเข้าสภาฯแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

,

“สส.สุธรรม”ชวน ปชช.พูดคุย สะท้อนปัญหาในกิจกรรม “ผู้แทนฯสัญจร ครั้งที่1”อ.ทุ่งสงฯ เตรียมรวบรวมข้อมูล ชงเข้าสภาฯแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00 น.ตนขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง “ผู้แทนฯสัญจร ครั้งที่1” ณ.บ้านวังยวน ม.8 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสงฯ โดยมาร่วมนั่งกินกาแฟ พบปะ พูดคุยกัน สอบถามสารทุกข์สุขดิบ บอกกล่าวปัญหาของท่านได้ และสะท้อนความต้องการพร้อมเสนอแนวทางการแก้ไข

“แม้ว่าผมอาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาของท่านได้ทุกเรื่อง แต่ผมมั่นใจว่า ด้วยความตั้งใจจริงที่ผมมี และพรรคพลังประชารัฐที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรฯ จะเยียวยาและแก้ไขปัญหาของท่านได้พอสมควร ในบางเรื่องอาจจะไม่เห็นผลในทันทีทันใด แต่เราต้องวางแผนไว้เผื่อล่วงหน้า เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเรา”นายสุธรรม กล่าว

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า ยังมีอีกหลายปัญหาเช่น เรื่องสิทธิทำกิน เรื่องภัยแล้งรุนแรงที่เรากำลังเผชิญอยู่ รวมไปถึงปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปัญหายาเสพติด ที่ไม่คลี่คลาย ปัญหาเหล่านี้จึงต้องหยิบขึ้นมาถกเถียงและส่งเสียงของเราต่อไปให้เกิดการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กำชับ สส.ของพรรคมาตลอดว่า ให้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชน และเสียงสะท้อนความต้องการของประชาชน และเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาช่วงเดือน ก.ค.นี้ ตนจะนำปัญหาของประชาชนไปขับเคลื่อนแก้ไขให้เป็นรูปธรรม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 พฤษภาคม 2567