“พล.อ.ประวิตร” อ้อนคนสะเดา ท่ามกลางผู้คนเนืองแน่น ปราศรัยขอคะแนนประชาชนเลือก “อนุกูล” เบอร์ 3 คนรุ่นใหม่
“พล.อ.ประวิตร” นำทีมปราศรัยโค้งสุดท้าย สู้ศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 6 สงขลา ฝาก “อนุกูล” เบอร์ 3 คนรุ่นใหม่มาพัฒนาเมืองสงขลา ด้าน”ธรรมนัส”โต้กระแสดราม่า ยันไม่เคยดูถูกคนจน เพราะเติบโตจากข้าวและน้ำของพี่น้องชาวใต้ ย้อนฝ่ายตรงข้ามกลัวแพ้อย่าตีรวนสาดโคลน ยกเบอร์ 3 “น้องโบ๊ต ส.ส.พลังประชารัฐ”
วันที่ 14 มกราคม 2565 เวลา 18:00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำทีม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ, นายสุชาติ ชมกลิ่น กรรมการบริหารพรรคฯ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม เขต 6 สงขลา, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี, นางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคฯ, นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.พปชร. เขต 1 กทม. และทีม ส.ส. อีกกว่า 20 คน ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงช่วย นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ (น้องโบ๊ต) ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 สงขลา เบอร์ 3 โดยการปราศรัยครั้งนี้เป็นเวทีใหญ่ครั้งสุดท้ายก่อนจะมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ในวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก ผู้สมัครที่พรรคส่งเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ความสามารถ เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และเป็นตัวแทนของประชาชนได้อย่างแท้จริง ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ เป็นอีกเวทีครั้งสำคัญให้ประชาชนได้มีโอกาสรับฟังนโยบายและทิศทาง ของการเข้าไปเป็นตัวแทนในพื้นที่สงขลา และมีความเข้มงวดในการใช้มาตรการดูแล คัดกรอง ตามมาตรการสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดภายใต้มาตรการป้องการโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ก่อนการปราศรัย บรรยากาศทั่วไป มีพี่น้องประชาชนทยอยเดินทางมาจับจองพื้นที่ที่ด้านหน้าเวทีปราศรัยภายในโรงเรียนสะเดาขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ตั้งแต่ก่อนเวลา 18.00 น. ผ่านการตรวจคัดกรอง เครื่องวัดอุณหภูมิที่ได้มาตรฐาน พร้อมการเว้นระยะห่างก่อนการเดินเข้าด้านใน ซึ่งก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
เมื่อ พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นเวทีปราศรัยก็ได้รับเสียงปรบมือจากพี่น้องประชาชนที่ได้มีการนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจพรรคพลังประชารัฐ โดย พล.อ.ประวิตร ได้พูดกับพี่น้องประชาชนถึงแนวทางนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้มีความเป็นอยู่ที่ดี เพราะถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการสร้างคนสร้างชาติในอนาคต ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องที่ยาก แต่ที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐก็ได้มีผลงานที่เป็นรูปธรรมให้เห็นแล้วทั้งเรื่องของรัฐสวัสดิการ โครงการคนละครึ่ง และที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ คือการคมนาคมทางรถไฟรางคู่ที่จะเป็นการเชื่อมต่อเศรษฐกิจสู่ภาคใต้
“วันนี้ มาขึ้นเวทีภาคใต้เป็นครั้งที่ 5 สำหรับสงขลา ถือเป็นครั้งที่ 2 ชาวสะเดามากันจำนวนมากให้กำลังใจน้องโบ๊ตเบอร์ 3 เป็นที่น่าชื่นชมอย่างมาก พรรคฯเรามาเพื่อรับใช้ประชาขน ขอให้มั่นใจว่าพรรคไม่ได้เป็นพรรรคเฉพาะกิจ เราจะเป็นพรรคที่เข้มแข็งทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชนและสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน เราจะร่วมมือร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ผมขอฝากพรรคฯไว้กับชาวสะเดา ด้วยนะครับที่ วันที่ 16 มกราคมนี้ อย่างลืมไปลงคะแนนให้เบอร์ 3 เพราะฉะนั้นเราหวังอย่างยิ่งว่า ทุกท่านจะร่วมมือร่วมใจคะแนนให้น้องโบ๊ตที่เป็นลูกหลานชาวสะเดาโดยแท้จริง” พล.อ.ประวิตรย้ำในตอนท้าย
ด้านร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยท่ามกลางเสียงเชียร์และดอกไม้ให้กำลังใจอย่างล้นหลามว่า พี่น้องชาวสะเดาที่เคารพรัก วันนี้ถือว่าเป็นวันสำคัญของพี่น้องชาวสะเดา ทุกคนมาร่วมกันอยู่ตรงนี้เพื่อให้กำลังใจน้องโบ๊ต ส.ส. หลายท่านมาช่วยหาเสียง ตนเองได้ปราศรัยมาหลายเวทีทั่วประเทศ แต่ไม่เคยเห็นเสียงมหาชนเท่าที่นี่ พี่น้องชาวสะเดาออกมาอย่างเนืองแน่น เห็นแล้วอดดีใจแทนน้องโบ๊ตไม่ได้ ทั้งนี้ตนอยากจะกล่าวถึงวันที่ไปปราศรัย ช่วยน้องโบ๊ตที่หาดใหญ่ กลายเป็นดราม่า เปิดทีวีช่องไหนก็เห็นแต่ข่าวธรรมนัส- น้องโบ๊ต ดราม่ากันไป สะท้อนว่าเวทีนี้สู้กันยังไม่ถึงไหนก็ยอมแพ้กันแล้ว แม้แต่ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ ปราศรัยเรื่องโครงการรัฐบาลต่างๆก็ดราม่า แบบนี้จะอยู่อย่างไร วันนี้ตนจึงไม่ต้องพูดถึงคุณสมบัติของน้องโบ๊ตอีก เพราะชาวสะเดารู้กันอยู่แล้วว่าเหมาะสม มีความรู้ มีความสามารถพร้อม วันที่ 16 มกราคมนี้ คงไม่ต้องถามว่าจะเลือกน้องโบ๊ตหรือไม่ ขอให้น้องโบ๊ต กราบงามๆ พี่น้องชาวสะเดาเลย 3 ครั้งเป็นการขอบคุณพี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ จังหวัดสงขลา มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สมัยก่อนมีต่างชาติมาค้าขาย มีด่านชายแดนไปสู่มาเลเซีย ชาวบ้านได้ขายสินค้า ติดต่อกันไปมา ดังนั้นถามว่า ถ้าคนสงขลา โดยเฉพาะชาวสะเดาถ้าาไม่เลือกคนหนุ่มไฟแรง เป็นคนดี การศึกษาดีมีความพร้อมอย่างนี้ ไม่เอาคนนี้แล้วจะเอาใคร น้องโบ๊ตจะเป็นกำลัง และทำงานให้ลูกหลานเพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชนจะสืบสานต่อพัฒนา จังหวัดนี้ ซึ่งในอดีตท่านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้สร้างบ้านแปงเมืองให้คนสงขลามาแล้ว
“ พี่น้องครับมีพี่น้องหลายคนถามผมว่า มีสื่อออกข่าวว่า บางท่านประกาศข่าวดีว่าราคา มาม่าไม่ขึ้นเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจมากเหรอครับ ขณะที่พรรคเราไม่ได้พูดเอามัน ไม่เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นกลืนน้ำลายตัวเอง พรรคเราไม่พูดมากแต่ทำอย่างเดียว ผมไม่ว่าใครนะครับ พี่น้องครับ ผมขอยืนยันว่าไม่ได้ดูถูกคนใต้ ผมโตมาจากน้ำและข้าวจากคนใต้ จะดูถูกคนใต้ได้อย่างไร จะดูถูกคนจนได้อย่างไร พ่อแม่ผมเป็นคนจน พ่อเป็นชาวนา จนมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน ผมจะดูถูกคนจนได้อย่างไร หรือกลัวแพ้ กลัวแล้วกลัวอีก พี่น้องครับ วันนี้หากเป็นเซียนมวยก็ยกให้คนหนุ่มอย่างน้องโบ๊ตเป็น “น้องโบ๊ต ส. พลังประชารัฐ” เพราะฉะนั้น เพื่อให้ได้คะแนนไม่ใช่แค่พูด เราต้องทำต้องปฏิบัติครับ พรรคเราทำ พี่น้องครับหลังมีกระแสดราม่า ผมโทรถามทั้งท่านรัฐมนตรีสุชาติ ผอ.เลือกตั้งเขต 6 และน้องโบ๊ตว่า อึดอัดใจมั๊ย ทั้งสองคนตอบตรงกันว่า ไม่อึดอัดใจ ทุกคนพร้อมให้กำลังใจน้องโบ๊ต ผมจึงมาวันนี้ และมาฝากว่าวันที่ 16 มกราคมนี้ พี่น้องลืมอะไรได้ แต่อย่าลืมน้องโบ๊ต เบอร์ 3“ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว
ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 14 มกราคม 2565