โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร” ลงมุกดาหารแก้ปัญหาน้ำทุกระบบยั่งยืน เปิดแผนพัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน น้ำบาดาล ช่วยเหลือปชช.

“พล.อ.ประวิตร” ลงมุกดาหารแก้ปัญหาน้ำทุกระบบยั่งยืน เปิดแผนพัฒนาแหล่งน้ำผิวดิน น้ำบาดาล ช่วยเหลือปชช.

วันนี้ (2 ธ.ค.65). พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการบริหารจัดการน้ำตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ณ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยมี นายวลัยพรรณ น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวต้อนรับและบรรยายสรุป ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) บรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 ก่อนเดินทางไปติดตามก้าวหน้าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำห้วยบังอี่ ต.โพธิ์ไทร อ.ดอนตาล และโครงการขุดเจาะน้ำบาดาลและสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ณ บ้านนาดี หมู่ 8 ต.ดงมอน อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่ และมอบนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาแหล่งน้ำและการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนโดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค วางแผนการบริหารจัดการน้ำและกักเก็บน้ำ รวมทั้งการเตรียมการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง ซึ่งรองนายกฯ ได้มอบหมายให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน เร่งรัด ขับเคลื่อน แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม-น้ำแล้ง เพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำในระดับพื้นที่ ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ พร้อมสั่งการให้จังหวัดและกรมชลประทาน วางแผนการใช้น้ำให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กรมชลประทาน เร่งดำเนินการก่อสร้างประตูระบายน้ำบังอี่ ให้แล้วเสร็จตามแผนงาน เพื่อช่วยในการพร่องระบายน้ำในช่วงต้นฤดูฝนและเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร และอื่นๆ ในช่วงฤดูแล้ง รวมถึงยังช่วยป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงหนุนและไหลย้อนกลับเข้ามาท่วมพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ริมห้วยบังอี่ พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งดำเนินการขุดเจาะน้ำบาดาลและสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สามารถบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาขาดแคลนน้ำได้ ในช่วงฤดูแล้งปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรมีรายได้ในช่วงฤดูแล้ง แม้จะเกิดฝนทิ้งช่วง ทั้งนี้ รองนายกฯ ได้เน้นย้ำหน่วยงานในพื้นที่ให้ข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำที่ถูกต้องกับประชาชนล่วงหน้า เพื่อป้องกันผลกระทบตลอดฤดูแล้งนี้อย่างต่อเนื่องด้วย

ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำระยะยาวของจ.มุกดาหาร ซึ่งขาดแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่เพราะมีข้อจำกัดด้านสภาพภูมิประเทศ ระบบน้ำประปายังไม่ทั่วถึงมีการขยายตัวของชุมชนเมืองที่เพิ่มขึ้นทำให้เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค มี 3 แนวทางหลัก คือ 1) ก่อสร้างสถานีสูบน้ำ 2) ก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำ 3) ขยายเขตน้ำประปา ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 61 – 64) รัฐบาลได้เร่งรัดการพัฒนาในพื้นที่โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่า มีการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มขึ้นรวม 634 แห่ง พื้นที่รับประโยชน์กว่า 4 หมื่นไร่ ประชาชนได้รับประโยชน์ประมาณ 2 หมื่นครัวเรือน ความจุ 9.81 ล้าน ลบ.ม. เช่น โครงการประตูระบายน้ำห้วยบางทราย ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบท่อจ่ายน้ำ อ.คำชะอี เป็นต้น ซึ่งในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาแหล่งน้ำต่างๆ ใน จ.มุกดาหาร สามารถเก็บกักน้ำได้มากกว่าปี 64 ถึง 18%

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 ธันวาคม 2565

" ,