โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร” ชู”สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปัน” สานต่อ”สังคมคุณภาพสูง”ยกระดับความเป็นอยู่แบบยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร” ชู”สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปัน”
สานต่อ”สังคมคุณภาพสูง”ยกระดับความเป็นอยู่แบบยั่งยืน

วันที่ 29 ตุลาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พปชร.มีนโยบายที่จะขับเคลื่อน “ สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปัน” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 พันธกิจหลักเพราะเชื่อว่าชุมชนแต่ละชุมชนในประเทศไทย มีศักยภาพที่จะพัฒนาประเทศไปพร้อมๆกันได้ ซึ่งนโยบายรัฐที่ตอบสนองและส่งเสริม ความสามารถของชุมชนจะนำมาซึ่ง สังคมคุณภาพ ที่สะท้อนความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทยทั้งประเทศ โดยโครงสร้างของสังคมประชารัฐ จะเป็นการกระจายอำนาจไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศไทย ไปพร้อมองค์ความรู้ และเงินลงทุนในการเริ่มต้นพัฒนาความเป็นอยู่ ตั้งแต่พื้นที่ทำกิน การสร้างอาชีพ รวมไปถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมชุมชน

สำหรับการสร้าง”สังคมประชารัฐ สงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปัน” มีเป้าหมายใน 4 ด้าน โดยจะให้ความสำคัญในการพัฒนาตามบริบททางสังคม ของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ประกอบด้วย
1. กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค สร้างเมืองน่าอยู่ใกล้บ้าน เป็นแหล่งสร้างงาน สร้างอาชีพด้วยแนวคิด “30เมืองน่าอยู่” โดยประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการสร้างที่อยู่อาศัย พัฒนาย่านธุรกิจ ย่านนวัตกรรม
2. ชุมชนประชารัฐ ร่วมพัฒนาบ้านเกิด “ชุมชนเข้มแข็ง” เพื่อให้ทุกคนอยากกลับไปพัฒนาบ้านเกิด โดยจะมีกองทุนพัฒนาชุมชนประชารัฐจะมีแหล่งน้ำชุมชน โครงการป่าไม้มีค่า และสร้างวิสาหกิจชุมชน
3. เมืองอัจฉริยะสีเขียว เพื่อความสุขของทุกคน เพราะสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสําคัญ คนจะต้องอยู่กับสิ่งแวดล้อม เราจะปรับเป็นเมืองอัจฉริยะสีเขียวเพื่อความสุขของทุกคน โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคน เพื่อให้คนอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างมีความสุข
4. สังคมประชารัฐสีขาว สังคมจะสงบสุข เข้มแข็ง แบ่งปันได้ ต้องเป็นประชารัฐสีขาว ที่ “ปลอดภัย ปลอดโรค ปลอดยาเสพติด”

สำหรับการขับเคลื่อนมุ่งเน้นกลไกการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะส่งเสริมให้มีการจัดตั้ง ”กองทุนรวมเพื่อสังคม” ซึ่งจะเป็นกองทุน ที่เข้าไปพัฒนาศักยภาพให้ชุมชนและประชาชนโดยรัฐทำหน้าที่ออกมาตรการหรือกลไก ในการส่งเสริมให้เกิดการจัดตั้งกองทุน เพื่อเข้าไประดมทุนจากนักลงทุนในตลาดทุน ทั้งในและต่างประเทศ มีการกำกับดูแล โดยคณะกรรมการที่คัดเลือกจากนักลงทุนด้วยกันเอง ทำหน้าที่พิจารณาเข้าไปลงทุนในธุรกิจเพื่อสังคม พร้อมกับตัวชี้วัดความสำเร็จของการเข้าไปช่วยเหลือ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนด้วยผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ที่สนใจในการทำโครงการแก้ไขปัญหาสังคมที่ยั่งยืน แนวทางเหล่านี้ ล้วนแล้วเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาว

“จากนี้ไปสังคมไทยจะมีครบ ทั้งสวัสดิการที่ดี เศรษฐกิจที่ดี และพื้นที่ที่ดี ประชาชนมีอาชีพ และมีพื้นที่ทำกินที่รัฐจะเข้าไปส่งเสริม สามารถขยายสินค้าและบริการไปในวงกว้าง จนทำให้ชุมชนดูแลตัวเองได้ เมื่อเจ็บป่วยก็สามารถเข้าถึงสถานบริการสุขภาพได้อย่างสะดวก เยาวชนมีการศึกษาที่ดี เติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเยาวชนเหล่านี้ก็จะกลับมาพัฒนาชุมชนต่อไป พรรคพลังประชารัฐจะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้กับคนไทย เพื่อตอบสนองคนไทยทุกคน นับแต่วันแรกที่มีลมหายใจ จนถึงวันสุดท้ายของลมหายใจ ด้วยแนวคิด จากครรภ์มารดาสู่เชิงตะกอน
“พล.อ.ประวิตร กล่าว


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 ตุลาคม 2565