โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”มอบหมาย สส.คอซีย์ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.ปัตตานี พร้อม ส่งเสบียงน้ำดื่ม-อาหารปรุงสุก เข้าพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

“พล.อ.ประวิตร”มอบหมาย สส.คอซีย์ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม จ.ปัตตานี
พร้อม ส่งเสบียงน้ำดื่ม-อาหารปรุงสุก เข้าพื้นที่บรรเทาความเดือดร้อนให้ ปชช.

วันนี้(29 พ.ย.)  นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยใน จ.ปัตตานีว่า ขณะนี้ยังมีปริมาณฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ในแม่น้ำสายหลัก โดยเฉพาะแม่น้ำปัตตานี และคลองตุยง ทำให้มีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จึงได้สั่งการให้ตนเข้าดูแลประชาชนในพื้นที่ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และรับมือกับสถานการณ์วิกฤติในครั้งนี้ โดยการจัดหาอาหารปรุงสุกใหม่ และน้ำดื่ม เพื่อสนับสนุนร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ

“พล.อ.ประวิตร เป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยเฉพาะพื้นที่ปัตตานี ที่มีประชาชนได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำของ จ.ยะลา ส่งผลให้พื้นที่มีน้ำท่วมเป็นวงกว้าง จึงได้สั่งให้มีการติดตามสถานการณ์ และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด”นายคอซีย์ กล่าว

นายคอซีย์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วมเรายังได้จัดตั้งโรงครัว ที่ทำการ สส.ของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายอาหารให้ถึงมือพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งมีการประสานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของภัยธรรมชาติในครั้งนี้ เพราะถือว่าสถานการณ์น้ำท่วมมีความรุนแรงมากที่สุดในรอบ 30 ปี และหากฝนยังตกหนักต่อเนื่องไปอีก ตนเชื่อว่า จะส่งผลกระทบต่อพืชผลทางเกษตรอย่างแน่นอน โดยเรื่องนี้ตนจะประสานกับหน่วยงานรัฐ เพื่อหาทางช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายของพืชผลทางการเกษตรต่อไป

ทั้งนี้ สถานการณ์ล่าสุดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยังคงต้องเฝ้าระวัง สถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ซึ่งทางกรมชลประทานยังไม่มีการปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมา หากสถานการณ์ฝนยังตกต่อเนื่อง จะส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อถึงจุดวิกฤติของความจุน้ำในเขื่อน  กรมชลฯ จะปล่อยน้ำเพื่อบริหารจัดการน้ำในเขื่อน  อาจส่งผลให้มีปริมาณน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนเพิ่มขึ้น ซึ่งประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนอย่างยาวนานเช่นกัน ขณะนี้ทุกฝ่ายคาดหวังว่า ฝนจะมีการทิ้งช่วงหยุดตก เพื่อให้เกิดการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2567