โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ใจเกินร้อย ! “ธรรมนัส” บุกหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ทั้งที่ตาซ้ายเยื่อบุตาขาด จากเหตุลุยหาเสียงมืดค่ำโดนแมลงบินเข้าตา ย้ำตั้งใจมุ่งมั่นมาพบชาวอำเภอแม่สรวย – แม่ลาว เพื่อฝากนโยบายสำคัญ ก้าวข้ามความขัดแย้ง และผลักดัน พ.ร.บ.ลำไย ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเยียวยาผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ

ใจเกินร้อย ! “ธรรมนัส” บุกหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ทั้งที่ตาซ้ายเยื่อบุตาขาด จากเหตุลุยหาเสียงมืดค่ำโดนแมลงบินเข้าตา ย้ำตั้งใจมุ่งมั่นมาพบชาวอำเภอแม่สรวย – แม่ลาว เพื่อฝากนโยบายสำคัญ ก้าวข้ามความขัดแย้ง และผลักดัน พ.ร.บ.ลำไย ให้เป็นรูปธรรม เพื่อเยียวยาผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 เวลา 17.00-19.45 น. ณ บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียง นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เบอร์ 6 จังหวัดพะเยา พปชร.และในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมด้วยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมการบริหารพปชร.ร่วมขึ้นปราศรัยนโยบายพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงรายประกอบด้วย เขต 1 นายศรัณย์พัส ศรีสวัสดิ์ เบอร์ 7 เขต 2 นางวันดี ราชชมภู เบอร์ 7 เขต 3 พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด เบอร์ 5 เขต 4 นายเกียรดิศักดิ์ อุดขา เบอร์ 8 เขต 5 นายพันธวัช ภูผาพันธกานต์ เบอร์ 2 เขต 6 นายระพิน เตมียะ เบอร์ 3 และ เขต 7 นายบุญเกิด ร่องแก้ว เบอร์ 10 โดยมีประชาชนกว่า 5,000 คนมาร่วมฟังการปราศรัย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 18.00 น. ร.อ.ธรรมนัส เดินทางมาถึงบริเวณเวทีปราศรัยด้วยใบหน้าที่ปิดตาด้านซ้าย ก่อนจะนำคณะผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเชียงราย ไปสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรเพื่อน้อมรำลึกถึงพระ มหากรุณาธิคุณของพระนเรศวรมหาราช และเพื่อความเป็นสิริมงคลเอาฤกษ์เอาชัยในการเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้

โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้กล่าวทักทักทายกับประชาชน ช่วงหนึ่งว่า “พ่อแม่พี่น้องทุกท่านครับวันนี้ ผมมาด้วยสภาพร่างกายพร้อมทุกส่วน ยกเว้นตาซ้าย ที่ต้องปิดตาซ้ายข้างหนึ่ง จากสาเหตุที่วันก่อนขี้นรถแห่ปราศรัยหาเสียงที่พะเยาช่วงมืดค่ำ ทำให้แมลงบินเข้าตา ซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดทำให้ตาแดงอักเสบ เมื่อวานนี้ ผมไปพบหมอให้รักษา หมอบอกว่าเยื่อบุตาขาด ต้องพักรักษาอาการอักเสบดังกล่าว แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อผมได้รับปากบผู้สมัคร ส.ส.เชียงรายทุกคน โดยเฉพาะเขต 3 และเขต 6 ไว้แล้วก็ต้องมาให้ได้ด้วยความห่วงใย จึงเร่งรัดรักษาทั้งประคบเย็นและกินยาทุกอย่างเพื่อมาปะกับพ่อแม่พี่น้องชาวอำแม่แม่สรวย และแม่ลาวในสภาพที่เห็นแบบนี้ครับ”

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวต่อว่า ในช่วงเวลาปฎิวัติรัฐประหารปี พ.ศ.2549 และ ปี พ.ศ.2557 รวมกว่า 10ปีแล้ว ที่เป็นอุทาหรณ์ให้คนไทยเราได้เห็นว่า การแบ่งแยก ขัดแย้ง เป็นสีต่าง ๆ ทำให้ถูก ฝ่ายการเมืองและผู้มีอำนาจไม่หวังดีฉวยเอาไปใช้ประโยชน์เป็นเครื่องมือในการหาเสียง สร้างความแตกแยกเข้ามาหาผลประโยชน์ ในขณะที่ตนเองก็ได้รับผลกระทบถูกไปคุมขัง และอายัดทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ไม่นับรวมประชาชนที่ได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป มาวันนี้จึงมาบอกทุกท่านว่า พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มีหลักยึดชัดเจนคือก้าวข้าวความขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนมีความรักสามัคคีกัน ซึ่งจะนำไปสู่ความมั่นคงของชาติบ้านเมือง วันนี้ ณ สถานที่แห่งนี้ ซึ่งสมเด็จพระนเรศวร ประกาศอิสระภาพจากพม่า ตนเองจึงเห็นสำคัญที่พรรคฯ ได้มาประกาศนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ดังกล่าวด้วย

“เรื่องแรก ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวของแม่สรวย คือเรื่องอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง ผมตอนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปี 2562 ได้ลงพื้นที่มาสำรวจและผลักดันทำอีไอเอและของบประมาณสร้าง จนกระทั่งล่าสุดการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 19 เมษาฯ ที่ผ่านมา ได้อนุมัติสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้างแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเรื่องใกล้ตัวอีกเรื่องคือ คนเมืองเหนือ 8 จังหวัดจะอู้ว่า ภาคใต้มียางพารา อีสานมีข้าว มีอ้อย มีสำปะหลัง ตะวันออกคือ ยางพารา ปาล์ม ภาคเหนือเราคือลำไย ถามว่า ทุกผลไม้และพืชเศรษฐกิจของทุกภาคมีพรบ.รองรับแก้ปัญหาต่างๆ แล้วหรือไม่ คำตอบคือมีแล้ว ขณะที่ลำไยของเรา ยังไม่มี แบบนี้น่าเจ็บใจมั๊ยครับ เวลานี้ผลผลิต ลำไย ถูกพ่อค้าคนกลางเป็นผู้กำหนดเกรดเอ บี อะไรต่างๆ สร้างความเดือดร้อนคนเหนือเรา ขณะที่ นักการเมืองส่วนใหญ่เงียบกริบไม่มีใครเอ่ยปากจะช่วยเหลือ มีเพียงผม พี่บุญสิงห์ และดร.ธนสาร ที่ผลักดันเยียวยาช่วยเหลือลำไยไร่ละ 2 พัน ไม่น้อยกว่า 25 ไร่ ผมจำได้ว่าเคยมามอบที่ เชียงรายด้วย ดังนั้นจึงยืนยันจะผลักดันให้มี พ.ร.บ.ลำไย เป็นรูปธรรมทันทีที่ได้เป็นรัฐบาลครับ”

จากนั้น นายบุญสิงห์ ได้ปราศรัยถึงนโยบายต่างๆ ของพรรค และสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะเพิ่มเป็น 700 บาท เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน และยังมีเงินประกันชีวิต 2 แสนบาทด้วย นอกจากนี้ ยังแก้ปัญหาลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งราคาแก๊สหุงต้ม ต่างๆ แก้ปัญหาที่ดินทำกิน โดยผลักดันเปลี่ยนส.ป.ก.เป็นโฉนด และ ค.ท.ช.เปลี่ยนเป็นส.ป.ก. ตามเป้าหมาย “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการปราศรัย ได้มีประชาชนมามอบพวงพาลัย และดอกไม้ ให้กำลังใจ ร.อ. ธรรมนัส พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ทุกคน เป็นจำนวนมาก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 เมษายน 2566

" , ,