พื้นที่ทับซ้อน-ทำให้ไม่ซับซ้อน (1)
😳 เรื่องพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย ระหว่างไทยกับกัมพูชา มีหลายประเด็นที่ควรเตือนรัฐบาลเพื่อระวังไม่ให้ไทยต้องเสียดินแดนในทะเล
พลเรือเอก พัลลภ ตมิศานนท์ สว.ได้อภิปรายนำเสนอแง่มุมสำคัญในเรื่องนี้ แต่น่าเสียดายที่สื่อมวลชนและประชาชนชาวไทยยังให้ความสนใจน้อย
ผมจึงขอนำมาขยายความ ดังนี้
รูป 1 ท่านแจ้งว่า ถ้าคนไทยยืนที่หลักเขตเลขที่ 73 ซึ่งเป็นจุดแบ่งเขตแดนบนบกระหว่างไทยกับกัมพูชา ล่าสุดจะเห็นมีสิ่งก่อสร้างยื่นยาวลงไปในทะเล (ลูกศรสีแดง)
รูป 2 สิ่งก่อสร้างดังกล่าวยื่นออกไปจากชายฝั่งของกัมพูชา รูปนี้มองจากฝั่งไทยจะเห็นว่ามีลักษณะเป็นสันเขื่อน
⛵️ ทั้งนี้ ถ้าสร้างสันเขื่อนเพื่อกันคลื่นไม่ให้กระทบชายฝั่ง โดยปกติแนวของสันเขื่อนจะต้องวางขนานกับชายฝั่ง
แต่สันเขื่อนนี้วางแนวจากชายฝั่งมุ่งออกไปยังทะเลอ่าวไทย จึงย่อมไม่ค่อยจะมีประสิทธิผลในการป้องกันชายฝั่ง
รูป 3 ด้านซ้ายมือ เป็นแผนที่ที่แสดงตำแหน่งหลักเขตเลขที่ 73 โดยขยายแผนที่ในสี่เหลี่ยมแดงไปเป็นรูปด้านขวามือ
จะเห็นได้ว่า แนวสันเขื่อนยื่นตั้งฉากออกไปจากชายฝั่ง
🔬 รูป 4 ผู้อ่านสามารถดูแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมใน Google maps ได้เอง จะเห็นได้ว่าเขื่อนนี้ตั้งอยู่แทบจะติดกับด่านพรมแดนคลองใหญ่ของไทย
🫡 ถามว่า ทำไมพลเรือเอก พัลลภ จึงเอาภาพนี้ออกมาเตือนแก่รัฐบาลท่านนายกเศรษฐา?
🧐 ตอบว่า เพราะเสี่ยงจะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนทางทะเลไปให้แก่กัมพูชา
รูป 5 พลเรือเอก พัลลภ เปิดเผยว่า ต้นตอของปัญหาอยู่ที่กติกาเขตทะเลของสหประชาชาติปี 1982 ข้อ 11 ซึ่งระบุว่า
สิ่งก่อสร้างถาวรตอนนอกสุดของเขตท่า ซึ่งประกอบเป็นส่วนอันแยกออกมิได้ของระบบการท่านั้น ให้ถือว่าประกอบเป็นส่วนของฝั่งทะเล
อธิบายแบบง่ายก็คือ การมีสันเขื่อนนี้จะทำให้กัมพูชาสามารถอ้างเขตทะเลได้กว้างขึ้น
🫡 ถามว่า ไทยและกัมพูชาประกาศเขตทะเลอย่างไร?
🧐 ตอบว่า ในรูป 6
-ไทยประกาศตามเส้นสีน้ำเงิน โดยยึดตามหลักกติกาเขตทะเลของสหประชาชาติ ค.ศ. 1958 ซึ่งกำหนดให้ใช้เส้นแบ่งครึ่งระหว่างสองประเทศ ที่ลากออกมาจากจุดเส้นแบ่งเขตบนชายฝั่งออกไปยังทะเล
-กัมพูชาประกาศตามเส้นสีแดงที่พาดผ่านเกาะกูด โดยอ้างว่ายึดตามหลักฐานประวัติศาสตร์ในเอกสารที่แนบอยู่ในสนธิสัญญาสยามกับฝรั่งเศส ค.ศ. 1907
แต่เส้นสีแดงนี้ผิดอย่างชัดเจน เพราะข้อความในเอกสารแนบดังกล่าวประกอบแผนที่สังเขปที่แนบนั้นมีวัตถุประสงค์ชัดแจ้งเพื่อกำหนดจุดเส้นแบ่งเขตบนชายฝั่งเท่านั้น มิใช่เพื่อกำหนดเส้นแบ่งเขตในทะเล
ดังนั้น ในอนาคตถ้ารัฐบาลกัมพูชาจะทำให้ประชาชนชาวไทยยอมรับเส้นแบ่งเขตในทะเล กัมพูชาจะต้องยกเลิกเส้นสีแดง และจัดทำเส้นขึ้นใหม่
ทั้งนี้ ภายหลัง ค.ศ. 1958 หลักกติกาเขตทะเลของสหประชาชาติ ได้มีการเพิ่มฉบับ ค.ศ. 1982 ข้อ 11 อันจะทำให้ถ้าหากมีการลากเส้นแบ่งเขตใหม่ตามกติกาใหม่ดังกล่าว องศาจะเบี่ยงเข้าไปในอ่าวไทย
อันนี้จะทำให้ไทยเสียเขตแดนในทะเล!
🫡 ถามว่า รัฐบาลไทยควรปฏิบัติอย่างไร?
🧐 ตอบว่า ขอแนะนำให้รัฐบาลของท่านนายกเศรษฐามีหนังสือประท้วงรัฐบาลกัมพูชาทันที โดยเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาทำลายสันเขื่อน พร้อมแจ้งว่ารัฐบาลไทยจะไม่ยอมรับเส้นแบ่งครึ่งระหว่างสองประเทศตามกติกาสหประชาชาติกรณีที่จะถูกเบี่ยงเบนไปเนื่องจากสันเขื่อนดังกล่าว
ผมขอย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ประเทศไทยที่เสียพื้นที่บนบกไปให้แก่กัมพูชาในรัชสมัยรัชกาลที่ 9 ก็สืบเนื่องจากปัญหาทำนองนี้ (ซึ่งจะบรรยายในบทความต่อไป)
คนไทยทุกคนในรัชสมัยรัชกาลที่ 10 จึงจะต้องยึดบทเรียนประวัติศาสตร์ร่วมกันปกป้องมิให้มีการเสียพื้นที่ในทะเล
วันที่ 5 เมษายน 2567
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์
วันที่: 8 เมษายน 2567